ครั้งพุทธกาลนั้น ทางไปนรกคับแคบตีบตัน และรกรุงรังเต็มไปด้วยขวากหนาม เนื่องจากคนยุคนั้นล้วนมีจิตใจสูงส่งประกอบด้วยคุณธรรมอันล้ำเลิศ ตายแล้วก็พากันไปสวรรค์ พรหมโลก และนิพพาน หมดสิ้น นานๆจึงจะมีคนหลงไปนรกสักคนสองคน ทางไปสวรรค์ก็เลยเปิดกว้างและโล่งเตียนมาตลอด ว่ากันว่า ในยุคนั้น ยมบาลถึงกับต้องนั่งร้องไห้ เพราะตกงาน หางานทำไม่ได้ เศรษฐกิจในนรกก็ย่ำแย่... ขาดดุลย์การค้าอย่างยับเยิน

มาในสมัยปัจจุบันนี้ มนุษย์มีจิตใจที่ต่ำทรามและไร้คุณธรรม และมีค่านิยมที่เปลี่ยนไป คือมนุษย์ชอบโกง กระทำการทุจริตทุกชนิด สร้างภาพ โกหก หลอกลวง ปลิ้นปล้อน สารพัดแห่งความเลว เลวจนไม่มีระดับ จากค่านิยมที่เคยชอบไปสวรรค์ ก็เปลี่ยนทิศหันกลับไปเที่ยวนรกแทน ทำเอาเศรษฐกิจบนสวรรค์ เกิดการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ถึงขั้นขาดสภาพคล่อง พระอินทร์ต้องประชุมคณะรัฐมนตรีเทวดา หามาตรการแก้ไขสถานการณ์โดยด่วน จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส่งเทพบุตร ผู้เปี่ยมด้วยคุณธรรมลงไปเกิดเป็นมนุษย์เพื่อเชิดชูพระพุทธศาสนา และฟื้นฟูสภาพจิตใจของมนุษย์ให้กลับคืนมาดังเดิมให้จงได้

ฝ่ายยมบาลในนรกนั้นเล่า เมื่อมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น คณะรัฐมนตรีนรก จึงมีมติให้ปรับปรุงทางไปนรก ให้เป็นถนนคอนกรีตแปดเลนส์ ชนิดที่ไปได้อย่างเดียว แต่กลับไม่ได้ สองข้างทางประดับประดาด้วยดอกไม้นานาพรรณ ชูช่องามสะพรั่งวิจิตรตระการตา บรรยากาศน่ารื่นรมย์ยิ่งนัก นัยว่า เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว และอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทาง ให้เกิดความรื่นเริงบันเทิงตลอดเส้นทางไปสู่นรก เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับนรก ชดเชยการขาดดุลการค้ามาแต่ครั้งพุทธกาล

ยิ่งนานวันก็ยิ่งมีผู้คนที่เบื่อหน่ายความสุขสบายบนโลกมนุษย์ อยากไปใช้ชีวิตในนรกดูบ้าง ว่าเป็นฉันใด เลยมีมนุษย์หัวเหลี่ยม เอ๊ย หัวใส ตั้งบริษัทเหลี่ยมทัวร์ เปิดตำนานท่องเที่ยวสู่แดนนรกภูมิ โดยมี ไอ้คางคก และไอ้กิ้งกือ เป็นกัปตันนำเที่ยว ว่ากันว่า ทำกำไรแบบรวยไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว เล่นเอายมบาลต้องนั่งกุมขมับ เพราะงานเข้าบวกกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นทุกวัน ยมบาลที่มีอยู่ไม่เพียงพอ จนต้องประกาศรับสมัครยมบาลเพิ่มขึ้นอีกหลายอัตรา เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างทั่วถึง

เอ้า!! ใครอยากไปนรกเร่เข้ามา เหลี่ยมทัวร์พาไปได้ ฮ่าๆๆๆ ได้แค่พาไปนะเว๊ยย ไปอย่างเดียวไม่มีกลับ ค่าบริการฟรี... ใครอยากไปนรก... เชิญทางนี้เลย ทางสะดวก.. วิวทิวทัศน์สวยงาม เชิญๆๆๆ