 | 
|  |  |  |  |  |  |  |
 | |
กราบนมัสการพระอาจารย์ คือว่าผมเป็นพระบวชใหม่ไม่ค่อยรู้เรื่องวินัย มีข้อสงสัยว่าตัวเองต้องปาราชิกหรือปล่าว 1.เคยพูดกับโยมพ่อว่าถ้าสึกออกไปจะพยายามถือศิล5 2.มีพระรูปหนึ่งเขาถามผมว่ายากกินแตงโม ผมเลยตอบท่านว่าก็เอาสิ เป็นแตงโมที่โยมถวายให้เปนส่วนกลางเพื่อต้อนรับผ้าป่ายังเปนลูกอยู่เลย โยมเขาก็เลยแกะออกจากถุงมาให้1ลูก ท่านก็ปลอกฉัน ผมมาคิดได้ทีหลังเลยบอกท่านว่าไม่ได้เจตนาแนะนำ ท่านตอบว่าท่านเต็มใจที่จะทำของท่านเอง 3.มีเณรมาบวชภาคฤดูร้อน ผมก็เลยไปห่มผ้าให้เณร ตอนห่มสบงเขายังไส่ผ้าสร่งอยู่ เขาใช้เชือกฟากรัดสร่งมันแกะไม่ออก ผมมองเห็นเข็มขัดของเณรวางอยู่ไม่รู้ว่าของรูปไหนเพราะเณรเยอะ เลยเอาเข็มขัดนันมาปาดเชือกฟางไม่ขาด ก็เลยเอามีดที่อยู่ด้านหลังมาปาดเชือกฟางไม่รู้ว่ามีดของใครแล้วก็เอาไว้ที่เดิม แต่เข็มขัดมันไม่ได้อยู่ที่เดิมไม่รู้ว่าเณรเจ้าของเข็มขัดจะหาเห็นหรือปล่าวแต่อยู่บริเวณเดิม ด้วยความอลม่านก็เลยเดินออกมา ทั้ง 3 ข้อนี้ยังคาใจผมอยู่ มีความละอายเเละกลัวต่อบาปมาก ถ้าปาราชิกจริงกลับมาบวชเณรได้หรือปล่าว กราบขอบพระคุณคับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ศราวุฒิ :: วันที่ลงประกาศ 2017-04-01 18:02:12 |
| [1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4048279) | |
ทั้งสามข้อนั้น ไม่เป็นเหตุให้เป็นปาราชิก จะเป็นปาราชิก ก็ต่อเมื่อ มีเจตนาที่จะขโมยของคนอื่น โดยที่รู้อยู่ว่า เจ้าของเขาไม่ได้ให้ ของนั้นต้องมีราคาตั้งแต่ ๕ มาสก ขึ้นไป เทียบเท่าทองคำน้ำหนัก ๒๐ เมล็ดข้าวเปลือก คือ ทองคำหนักประมาณ ๑ บาท ในสมัยปัจจุบัน ราคาทองคำ ๑ บาท คิดเป็นเงินเท่าไร ก็มีมูลค่าแห่งปาราชิก ประมาณนั้น ทันที่ของนั้นเคลื่อนจากที่ ภิกษุนั้นก็เป็นปาราชิกสมบูรณ์
ถ้าไม่มีเจตนาจะขโมย ก็ไม่เป็นอาบัติปาราชิก แต่ถ้าเจตนาขโมยของมูลค่าราคาต่ำกว่า ๕ มาสกลงมา ถึง ๑ มาสก ก็เป็นอาบัติถุลลัจจัย ต่ำกว่า ๑ มาสกลงไป เป็นอาบัติทุกกฎ
ถ้าเป็นอาบัติปาราชิก กลับมาบวชเป็นพระภิกษุอีกไม่ได้ตลอดชีวิต แต่บวชเป็นสามเณรยังได้อานิสงส์อยู่ | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2017-04-10 22:12:19 | |
| [1] |
