ตอบ คุณผู้สนใจในธรรม

1. ถ้าขายบริการทางเพศ ก็ถือว่าผิดศีลข้อ 3 เพราะผู้ที่มาใช้บริการ ย่อมมีพ่อ มีแม่ หรือ อาจมีภรรยาหวงแหนอยุ่ ผู้ชายก็ถือว่านอกใจภรรยา ส่วนผู้หญิงที่ขายบริการทางเพศ ก็ถือว่า สมรู้ร่วมคิดกัน ละเมิดต่อลูกเมียของบุคคลอื่น 

2. ถ้ายังไม่ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้องตามประเพณี หรือเป็นสามีภรรยาที่ถูกตามกฎหมาย ก็ต้องถือว่า บิดามารดาเป็นผู้ปกครอง ถ้าแต่งงานมีสามีภรรยาแล้ว ก็ต้องถือว่าสามีภรรยาเป็นเจ้าของ ส่วนคนรักก็ขึ้นอยู่กับว่า มีความสัมพันธ์ต่อกันระดับใด ถึงขั้นเป็นเจ้าของได้หรือไม่? ถ้ามีเกินหนึ่ง ก็ถือว่า ผิดศีลข้อ 3

3. ถ้าผิดศีลก็ต้องถือว่าเป็นกรรมหนัก ถึงขั้นเป็นเหตุให้ไปอบาย ถ้าอยากให้มีกรรมน้อยที่สุด ก็มีแต่อย่าทำผิดศีลเท่านั้นเอง

 กราบนมัสการพระคุณเจ้า

กราบเรียนถามเพื่อเป็นประโยชน์เพิ่มเติมค่ะ  แล้วหญิงคณิกาสมัยพระพุทธกาลก็ถือว่าผิดศีลข้อ 3 ด้วยใช่หรือไม่   ถ้าอย่างนั้นทำไมพระนางมัลลิกาถึงได้สำเร็จเป็นโสดาบันได้ทั้งที่มีอาชีพเป็นหญิงโสภณี 

 ตอบ คุณใส่ใจธรรม

หญิงคณิกาไม่ว่าสมัยใด ถ้ามีความพอใจที่จะประกอบอาชีพนี้อยู่ ก็ถือว่าผิดศีลข้อ ๓ เช่นเดียวกัน ส่วนนางสิริมาที่เป็นหญิงคณิกา (ไม่ใช่พระนางมัลลิกา) เป็นหญิงงามเมืองในสมัยนั้น ได้บรรลุพระโสดาบัน เพราะเหตุว่า นางได้สั่งสมบุญบารมีมาพร้อมแล้วแต่อดีตชาติ ได้เคยถวายทานแด่พระปัจเจกพระพุทธเจ้า แล้วตั้งความปรารถนาว่า ขอให้ได้เห็นธรรมที่พระคุณเจ้าได้เห็นแล้ว

แต่ที่ต้องมาเป็นโสเภณี ก็เพราะกรรมเก่าที่เคยประพฤตินอกใจสามีตนเอง ผิดศีลข้อกาเมสุมิจฉาจาร นางสิริมาได้ทำร้ายนางอุตรา ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้างนางสิริมา ให้มาปรนนิบัติสามีของเธอ เพื่อเธอจะได้รักษาอุโบสถศีล และจะได้ถวายภัตตาหารแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

นางสิริมาเกิดริษยานางอุตรา อยากเป็นเมียของสามีนางอุตราจริง ๆ จึงเอาเนยเคี่ยวร้อน ๆ มาราดศีรษะนางอุตราที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว แต่นางอุตราเป็นพระโสดาบัน ได้ระลึกถึงคุณของนางสิริมาที่ได้มาปรนนิบัติสามีแทนนาง เป็นเหตุให้เธอได้ทำบุญกับพระพุทธเจ้า เนยเคี่ยวร้อน ๆ นั้น ไม่อาจลวกผิวกายของนางอุตราได้ ด้วยสัจจาธิษฐานที่นางแผ่เมตตาให้นางสิริมา ทั้งมิได้นึกโกรธนางสิริมาที่ทำร้ายนาง

นางสิริมาเห็นเป็นอัศจรรย์ที่เนยร้อน ๆ นั้น มิอาจทำนางอุตราให้บาดเจ็บได้ สำนึกในคุณความดีงามของนางอุตราที่มิได้โกรธนาง แถมยังห้ามพวกบริวารมิให้รุมทำร้ายนางอีกด้วย

นางสิริมาจึงสำนึกผิด และขอขมาต่อนางอุตรา แต่นางอุตราออกอุบายให้นางสิริมาไปขอโทษพระพุทธเจ้าแทน เพื่อหวังให้เธอได้สดับพระธรรมเทศนาจากพระพุทธองค์ เรียกว่าบุญเก่าให้ผล เป็นเหตุให้เธอได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระโอษฐ์ ซึ่งได้ด้วยยาก นางสิริมาตั้งใจสดับพระธรรมเทศนาด้วยจิตที่สำนึกผิด และเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า ซึ่งมีพระรูปพระโฉมอันงดงาม และพระธรรมเทศนาที่ไพเราะจับใจ ส่งจิตไปตามกระแสพระธรรมเทศนา จึงเป็นเหตุให้นางได้บรรลุพระโสดาบันในขณะนั้น

ผู้ที่เป็นโสเภณี ก็มิได้ตั้งใจจะเป็นโสเภณีตลอดไป เมื่อใดสำนึกผิดก็เลิกเป็นโสเภณีได้ ก็มีสิทธิ์บรรลุธรรมได้ ถ้ามีเหตุปัจจัยทั้งอดีตและปัจจุบันเป็นองค์ประกอบครบถ้วนพร้อมบริบูรณ์

กราบนมัสการพระคุณเจ้า

บุญใดบ้างที่สามารถบรรเทากรรมจากการผิดศีลข้อที่ 3 ให้ทุเลาเบาบางลงได้ถ้าเกิดมีคนเคยทำกรรมผิดสีลข้อที่ 3 มาหลายครั้งแต่มาสำนึกผิดได้อยากจะทำบุญชดใช้ ในสิ่งที่ทำลงไป (แต่ได้ยินมาว่าการเจริญวิปัสนากรรมฐานจะช่วยให้กรรมที่ทำนั้นบรรเทาลงได้อันนี้จิงหรือไม่ครับ)

 กรรมที่ได้กระทำลงไปแล้ว ไม่อาจแก้ไขได้ คงต้องยอมรับไปตามเหตุปัจจัยเก่าก่อนที่เคยได้ทำเอาไว้ แต่ถ้าปัจจุบันตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ เจริญสมาธิ อบรมปัญญาให้แก่กล้า ถ้าสามารถทำได้อย่างเข้มแข็งหนักแน่นมั่นคง จนมีกำลังเหนือบาปกรรมเก่าที่เคยได้ทำเอาไว้ กรรมนั้นก็อาจไม่ทันได้ให้ผล เพราะกรรมใหม่มีกำลังแรงกว่า ก็อาจกลายเป็นอโหสิกรรม หรือได้รับผลกรรมแต่เบาบางลงได้ ทั้งนี้ไม่มีกฏตายตัว แล้วแต่ว่า กรรมใดจะมีกำลังแรงกว่ากัน ถ้าสำนึกผิดได้ ก็จงอย่าทำกรรมชั่วอีก และให้เร่งทำกรรมดีให้มากเข้าไว้ ส่วนกรรมใดจะให้ผลหนักเบาอย่างไร ก็ตั้งใจยอมรับกันไป ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ต้องแล้วแต่เหตุจะบันดาลให้เป็นไปเอง