ReadyPlanet.com


กินมื้อเดียว


 นมัสการพระอาจารย์ครับ กระผมลองกินข้าวมื้อเดียวดูปรากฏว่าผอมมากคนที่บ้านก็ทักว่าเหมือนคนป่วยเลยทำให้ไม่มั่นใจทำให้เสียกำลังใจในการภาวนากระผมควรปฏิบัติอย่างไรต่อไปครับ



ผู้ตั้งกระทู้ ไพทูรย์ :: วันที่ลงประกาศ 2020-03-13 18:36:34


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4193892)

 ไม่ทราบว่า กินมื๊อเดียว เพราะถือศีล ๘ หรือ อย่างไร ถ้าศีล ๘ ก็กินได้ถึงเที่ยงวัน จะกิน ๒ มื๊อก็ได้ ต้องดูที่ความพอเหมาะพอดีของร่างกายตนเอง ถ้าต้องการจะอดอาหาร หรือ ผ่อนอาหาร แม้ฉันมื๊อเดียว ก็ยังฉันแต่น้อย ท่านก็จำกำหนดระยะเวลาที่จะทำ เช่น อดอาหาร ๓ วัน ๕ วัน ๗ วัน หรือ ๑๐ วันขึ้นไป ก็แล้วแต่กำลังกาย กำลังใจ ในระหว่างนั้น ร่างกายก็ผอมโซเป็นธรรมดา แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว ท่านก็ออกมาฉันตามเดิม บำรุงร่างกายพอประมาณ

จากนั้นก็อดอาหาร หรือ ผ่อนอาหารอีก แล้วแต่ความเหมาะสม และความเพียรกล้าของแต่ละองค์ ไม่ใช่จะอดอาหารตลอดไป หรือ ผ่อนอาหารตลอดไป ก็มีระยะเวลาที่เหมาะสมอยู่ แต่การฉันมื๊อเดียวนั้น พระท่านก็ทำกันตลอดอายุการบวช ไม่เห็นมีองค์ไหนผอมตายสักองค์ บางองค์ แม้ฉันมื๊อเดียว ก็ยังฉันน้อย ๆ ไม่ฉันถึงอิ่ม คือ ๑๐๐% เอาแค่ ๗๐%  ๕๐%  ๓๐% แล้วแต่อัธยาศัย ต้องสังเกตตนเองด้วย ว่า ฉันขนาดไหน ภาวนาดี จิตสงบ ปัญญาโลดแล่น ไม่ใช่อดอาหารเฉย ๆ ทรมานตัวเองลำบากเปล่า ๆ มันต้องมีผลต่อการทำจิตตภาวนาด้วย จึงจะถูกทาง

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2020-03-14 22:26:39


ความคิดเห็นที่ 2 (4193904)

 นมัสการครับ กระผมถือศีลแปดด้วยครับอยู่กับคุณแม่ที่บ้านพี่สาวส่งเงินเดือนให้ดูแลคุณแม่ผมก็เลยไม่ได้ทำงานเพียงแต่ทำงานบ้านผมก็เลยถือโอกาสถือศีลภาวนาและกินมื้อเดียวดููตอนแรกกินสองมื้อนั่งสมาธิยังสัปงกอยู่ราคะความฟุ้งซ่านก็มากต่อมากินมื้อเดียวรู้สึกว่าทำสมาธิง่ายบางครั้งกินข้าวไปก็รู้สึกอิ่มเองเร็วกว่าปกติสติระลึกได้เกือบตลอดแต่ไม่เคยอดอาหารครับแต่ก็อยู่ท่ามกลางคนที่ไม่ชอบภาวนาเลยเขาก็มาพูดให้เสียกำลังใจว่ากิินน้อยเดี๋ยวขาดสารอาหารนะเป็นโรคนั้นโรคนี้กระผมเองถูกหวาดล้อมอย่างนั้นก็เลยหวั่นไหวในปฏิปทาที่กำลังดำเนินว่าถูกต้องหรือไม่ขอพระอาจารย์เมตตาแนะนำด้วยครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพทูรย์ วันที่ตอบ 2020-03-15 10:15:47


ความคิดเห็นที่ 3 (4193932)

 ที่ตอบข้างบนก็บอกไว้ชัดเจนแล้ว อ่านซ้ำหลาย ๆ รอบ ถ้าถือศีล ๘ ได้ ก็นับว่าดีแล้ว ส่วนการภาวนา ก็ทำไปตามกำลังและสถานภาพของตัวเอง เราเป็นฆราวาสยังมีการงานที่ต้องทำเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและพ่อแม่ ยังมีภาระต้องแบกหาม จะไปทำความเพียรเหมือนพระที่มุ่งหวังหลุดพ้น มันก็ทำไม่ได้ มันก็ไม่ใช่ฐานะที่จะพึงทำได้ง่าย ๆ ถ้าเป็นพระท่านก็ทำความเพียรสละตายได้ แต่เป็นฆราวาส ก็เอาเท่าที่คิดว่าจะทำแล้วได้ผลดี อย่างไหนมันทำแล้วจิตมันสงบดีปัญญาดี ก็ทำไป ถ้าทำแล้วไม่สบายใจทุกข์ใจ ก็ผ่อนปรนลงมา ต้องพิจารณาให้เหมาะกับกำลังกาย กำลังใจของตนเอง ผู้ปฏิบัติต้องรู้ตัวเอง ทำขนาดไหนได้ผล และพอเหมาะพอดีกับนิสัยและกำลังใจของตัวเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2020-03-16 00:18:28


ความคิดเห็นที่ 4 (4195642)

 กราบนมัสการสาธุครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ไพทูรย์ วันที่ตอบ 2020-04-10 20:40:47



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล