ReadyPlanet.com


สอบถามการปฎิบัติครับ


 อยากสอบถามเกี่ยวกับการภาวนาครับ

1.ผมนั่งพิจารณาหลังจากนั่งสมาธิเสร็จโดยมีสติอยู่กับปัจจุบัน แล้วเห็นว่าอดีตไม่มี อนาคตไม่มี มีแต่ปัจจุบันขณะ เนื่องจากผมพิจารณาว่าแม้ลมหายใจของเราหายใจเข้า-ออก เป็นปัจจุบันขณะ เมื่อหายจากปัจจุบันขณะแล้วก็มีแต่ความว่างไม่มีอะไรเลยแม้แต่อดีต ที่ว่ามีอดีตมีแต่ในสมมติที่เราจดจำไว้เท่านั้นเอง แต่ในความเป็นจริงมันว่างจากอดีตและอนาคต 

2. ที่เราคิดว่ามีอดีตและวาดฝันอนาคตนั้น เนื่องจากจิตใจเราขาดสติแล้ววิ่งเข้าไปในสมมติ จึงมีอดีตและมีอนาคต แท้จริงแล้วอดีตก็ไม่มี อนาคตก็ไม่มี มีแต่ปัจจุบันขณะที่นำสมมติว่าอดีต อนาคต มาล่อลวงใจเท่านั้นเอง

กระผมขอความรู้จากพระอาจารย์ชวยตอบคำถามกระผมด้วยครับว่าถูกต้องไหมครับที่พิจารณาแล้วได้ผลเป็นอย่างนี้



ผู้ตั้งกระทู้ ยุทธพร (panyalun99-at-hotmail-dot-com) :: วันที่ลงประกาศ 2015-10-05 14:12:07


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (3025876)

คำถามนี้เป็นธรรมค่อนข้างละเอียด จะตอบเท่าที่คิดว่าพอจะเข้าใจ ถ้าจิตสงบนิ่งอยู่กับอารมณ์ปัจจุบัน จิตก็รู้อยู่กับอารมณ์ปัจจุบันนั้น เวลาเช่นนั้น อดีต อนาคตก็ย่อมไม่มี ถ้าจิตไม่คิดปรุงอะไร มีแต่ความว่าง กับความรู้ของจิต จิตก็เป็นสักแต่ว่ารู้อยู่ในความว่างนั้น ความว่างก็เป็นความรู้อันหนึ่งของจิตในขณะนั้น เป็นปัจจุบันขณะของจิต ถ้าจิตละเอียดไปกว่านั้น จิตรวมลึกลงเหลือสักแต่ว่ารู้จริงๆ เป็นเอกัคตาจิต แม้ความว่างก็ไม่มี

ดังนั้น จะมีอดีต อนาคต หรือไม่ ขึ้นอยู่กับภูมิจิตของเรา ถ้าจิตเราคิดปรุงแต่งไปหาอดีต มันก็เหมือนมีอดีตปรากฏขึ้นมาในจิต อนาคตก็เป็นความคาดหมายของจิตในสิ่งที่ยังไม่เกิด หรือยังมาไม่ถึง จิตคาดหมายไป น่าจะเป็นอย่างนั้น น่าจะเป็นอย่างนี้  ความปรุงอดีต ความปรุงอนาคต ก็เป็นอารมณ์อันหนึ่งของจิตในปัจจุบันได้ แต่ผู้นั้นต้องมีสติปัญญาในระดับที่ทำลายสมมติได้แล้ว คือจิตไม่หลงเพลินไปกับ ความปรุงอดีต ความปรุงอนาคต มองเห็นเป็นเพียงกระแสจิตปรากฏ สักแต่ว่าสมมติไว้ตามสภาพของเขา จิตไม่หลงไปตามสมมติที่จิตปรุงแต่งขึ้น เรียกว่าจิตตั้งมั่นเป็นปัจจุบันตลอด แม้นึกถึงอารมณ์อดีต แต่จิตรับรู้เพียงเป็นกระแสจิตปรุงพาดพิงไปตามสมมติเท่านั้น ไม่ได้สำคัญผิดว่า มันเป็นอดีตจริงๆ เป็นอนาคตจริงๆตามที่จิตปรุงไป

แต่อดีตจริงๆในหลักธรรมชาติ ก็ยังคงมีอยู่ตามธรรมชาติเดิมของเขา ใครจะไปลบล้างว่าไม่มีไม่ได้ ดังเช่น พระพุทธเจ้า ก็มีอยู่ในอดีตเป็นความจริงเช่นนั้น พระพุทธองค์ จึงทรงใช้อตีตังสญาณหยั่งรู้อดีตของสัตว์ได้ ว่า สัตว์แต่ละรายมาจากไหน ทำกรรมไว้อย่างไร ถ้าอดีตไม่มี พระองค์ก็หยั่งรู้อดีตไม่ได้ อดีตจริงๆจึงต้องรู้ได้ด้วยญาณ

แต่อดีต อนาคตที่อยู่ในใจเรา มันเป็นความจำอารมณ์ที่ดับไปแล้ว เฉยๆ จะว่ามี หรือไม่มี ก็ขึ้นอยู่กับสติปัญญาของเราจะรู้เท่าทันได้แค่ไหน  มันเป็นเพียงความจำ บวกกับความปรุงแต่งของจิต ถ้าเรามีสติรู้ทันไม่หลงไปตาม มันก็ปรุงสักแต่ว่าปรุง ไม่สำคัญว่าเป็นเหตุการณ์จริง  อดีต อนาคต แม้ปรุงแต่งขึ้นมาในใจของเรา จิตก็รับรู้เป็นเพียงความรู้อันหนึ่งของจิต เป็นปัจจุบันขณะอันหนึ่งของจิตผ่านไปๆๆ  อดีตอนาคตมันก็เหมือนไม่มี เพราะจิตมีสติปัญญาตั้งมั่น ไม่หลงไปตามสมมติที่จิตปรุงนั่นเอง

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2015-10-05 18:29:11


ความคิดเห็นที่ 2 (3025913)

 กราบขอบพระคุณพระอาจารย์ครับ

ผู้แสดงความคิดเห็น ัyoottaporn (panyalun99-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-10-06 10:48:33


ความคิดเห็นที่ 3 (3026555)

 การทำใดก็ตาม ไม้ว่าจะเดิน นอน นั่ง ถ้าระลึกอยู่ได้ทุกขณะโดยใช้ ทาน ศิล หรือภาวนากำกับยอมมองเห็น โดยปกติ 

ผู้แสดงความคิดเห็น อาต (artthanayut-at-hotmail-dot-com)วันที่ตอบ 2015-10-26 23:44:32



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล