ใช่หรือไม่? | |
ผมได้ฟังรายการธรรมะจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ในเรื่องของกฎแห่งกรรมว่า มีกรรมอยู่กรรมหนึ่งนั่นคือ ครุกรรม คือมีทั้งครุกรรมฝ่ายกุศลและอกุศล แต่กระผมขอใคร่ทราบถึงครุกรรมฝ่ายอกุศล (อนันตริยกรรม ๕) ครับ ว่าถ้าได้ทำลงไปแล้วจะต้องตกนรกอย่างเดียวในชาติต่อไป กระผมจึงมีความสนใจในกรรมนี้เป็นอย่างมาก เพราะจะได้รู้เท่าทันและมีความระมัดระวังไม่ให้เกิดความพลาดพลั้งในการทำกรรมนี้ และในฐานะที่กระผมเป็นปุถุชนเลยต้องการที่จะทราบถึงอนันตริยกรรมข้อปิตุฆาตหรือมาตุฆาต ดังนี้ ๑. ถ้าเรามีเจตนาในการทำกรรมนี้แล้วจะต้องตกนรกอย่างแน่นอนในชาติต่อไป แล้วถ้าไม่มีเจตนาละครับ ๒. ถ้าเรามีเจตนาที่จะฆ่าผู้อื่นซึ่งไม่ใช่พ่อและแม่ของเรา แต่ปรากฏว่าผู้อื่นที่ว่านั้นกลับกลายเป็นพ่อและแม่ของเรา จัดเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ๓. ถ้าเรามีเจตนาทำร้ายพ่อด้วยการชกท่าน แต่ไม่ได้มีเจตนาให้ท่านเสียชีวิต แต่ท่านหัวฟาดพื้นเสียชีวิตจากที่เราได้ชกท่าน จัดเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ๔. ถ้าเรามีเจตนาทะเลาะกับพ่อหรือแม่ แต่ปรากฏว่าโรคหัวใจของท่านกำเริบและเสียชีวิตทันที โดยที่เราไม่ทราบมาก่อนว่า ท่านเป็นโรคหัวใจมาก่อน จัดเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ๕. ถ้าพ่อหรือแม่ของเราเป็นโรคปอดติดเชื้อ โดยที่เราไม่ทราบมาก่อน แล้วเรามีเจตนาทำให้ท่านเสียใจแล้วร้องไห้จนน้ำมูกของท่านซึ่งมีเชื้ออยู่ลงเข้าสู่ปอดแล้วโรคปอดติดเชื้อกำเริบจนเสียชีวิต จัดเป็นอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ๖. ถ้าหากพ่อของเรานอนป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลอาการทรงๆทรุดๆ และเราก็ไม่ทราบมาก่อนว่าพ่อของเรามีอาการเช่นนี้ แล้ววันหนึ่งเรามีเจตนาที่จะเช็ดตัวให้ท่านเพื่อให้สะอาด แต่ท่านไม่ยอมเช็ดเพราะท่านเจ็บ แต่ลูกเข้าใจผิด คิดว่าท่านไม่ยอมให้เช็ด เลยโกรธ แล้วเช็ดตัวท่านด้วยความโกรธ คือเช็ดแรงๆมีกระชากแขนบ้าง ที่ทำแรง เพราะคิดว่าท่านยังแข็งแรง แล้วต่อมาโรคเก่าที่ท่านเป็นอยู่กำเริบขึ้นมาเนื่องจากเราเช็ดตัวท่านด้วยความโกรธ จนต้องเข้ารักษาตัวอยู่ในห้อง ICU เป็นเวลาประมาณ ๒ เดือน แล้วกลับมาพักรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยปกติเป็นเวลา ๑ อาทิตย์แล้วเสียชีวิต ลูกคนนั้นได้ทำอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ๗. ถ้าหากเรามีเจตนาที่จะป้อนยาให้พ่อเพื่อให้พ่อหายป่วย แล้วพ่อก็ทานยานั้นแล้วเสียชีวิตในเวลาต่อมา ลูกคนนั้นได้ทำอนันตริยกรรมหรือไม่ เพราะเหตุใด ผมจึงขอรบกวนหลวงพ่อช่วยอธิบายข้อคำถามเหล่านี้เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด เพื่อต่อไปผมจะได้ระมัดระวังตัวและมีสติในการใช้ชีวิต | |
ผู้ตั้งกระทู้ เชาว์วัฒน์ :: วันที่ลงประกาศ 2016-04-08 16:37:23 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (3031306) | |
ตอบ ๑. อนันตริยกรรม ๕ อย่าง ถือเป็นกรรมหนักที่ห้ามไม่ให้กระทำ ถ้าได้กระทำไปแล้วโดยเจตนาก็ต้องได้รับผล คือ ตกนรกไปตามกรรมที่ทำ โดยมากไปอเวจีมหานรก แต่ถ้ากระทำโดยไม่มีเจตนา ก็ต้องได้รับผลไปตกนรกเช่นเดียวกัน แต่อาจจะเป็นหลุมที่เบากว่าขึ้นอยู่กับความแรงของเจตนาที่ทำกรรม
๒. จัดเป็นอนันตริยกรรม เพราะฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ จะโดยสำคัญผิด หรือไม่เจตนาก็ตาม ถ้าพ่อ แม่ ต้องตายด้วยการกระทำของเราเป็นเหตุ ก็ได้ชื่อว่า เราได้กระทำกรรมนั้นสมบูรณ์แล้ว ส่วนผลกรรมจะหนักจะเบา ก็เป็นอีกส่วนหนึ่ง ตามความแรงของเจตนา
๓. จัดเป็นอนันตริยกรรม เช่นเดียวกับ ข้อ ๒.
๔. ยังไม่จัดเป็นอนันตริยกรรม เพราะเราไม่ได้ทำร้ายท่านโดยตรง แต่ก็ถือเป็นการทำร้ายท่านทางอ้อม เพราะท่านต้องเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจกำเริบ เพราะเราเป็นเหตุ ก็ถือเป็นกรรมหนัก น้องๆอนันตริยกรรมก็อาจไปตกนรกหลุมที่เบากว่าอเวจีมหานรก ขึ้นอยู่กับความแรงของเจตนา
ลูกที่ด่าพ่อด่าแม่ ทะเลาะกับพ่อกับแม่ ถือเป็นลูกอกตัญญู ย่อมไม่บังควรอยู่แล้ว ลูกต้องให้ความเคารพต่อพ่อแม่ถึงจะถูก แม้ท่านทำไม่ดีกับเรา ก็ยังต้องอดทนอดกลั้น เพราะพระคุณของพ่อแม่ ที่เลี้ยงดูเรามา จนทำให้เราเติบใหญ่มาทะเลาะกับท่านได้ มาด่าท่านได้ นั้นมีมากมายมหาศาลสุดจะพรรณนา พ่อแม่ทำให้เราโกรธจะมีมากเหมือนที่เราเคยทำให้พ่อแม่โกรธตั้งแต่เล็กเติบใหญ่เชียวหรือ? อันไหนจะมากกว่ากัน แต่พ่อแม่ไม่เคยโกรธจนถึงกับฆ่าลูกจนตาย หรือทำร้ายลูก ถ้าท่านทำเช่นนั้น ลูกจะไม่มีวันเจริญเติบโตจนได้มาทำร้ายพ่อกับแม่ แต่ลูกเมื่อเติบโตมาแล้ว พ่อแม่ทำให้โกรธนิดเดียว ทำไมจึงทำร้ายพ่อแม่ได้ลงคอ
๕. เช่นเดียวกับข้อ ๔.
๖. เช่นเดียวกับข้อ ๔.
๗. ต้องดูว่า ท่านเสียชีวิตเพราะยาที่เราป้อนหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ ก็ไม่จัดเป็นอนันตริยกรรม แต่ถ้ายาที่เราป้อนเป็นเหตุให้ท่านเสียชีวิต ก็เป็นเช่นเดียวกับข้อ ๔. | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2016-04-09 13:56:12 |
[1] |