ถ้าตอนอดีตที่เคยบวชเป็นพระ เป็นอาบัติสังฆาทิเสส หากลาสิกขาไปโดยไม่ได้แก้อาบัติ ก็ถือว่า ยังมีอาบัติติดตัวอยู่ เมื่อมาบวชเป็นพระใหม่ ก็บวชได้ตามพระวินัย แต่ถึงแม้เป็นภิกษุใหม่ ก็ยังคงเป็นอาบัติสังฆาทิเสสอยู่ตามเดิม ก็ปรึกษาครูบาอาจารย์ที่บวชให้ ทำการแก้ไขเสีย เพราะยังแก้ไขได้อยู่ ต้องดูว่า เป็นอาบัติแบบไหนอย่างไร ปกปิดไว้นานแค่ไหน ต้องอยู่ปริวาสกรรมเท่าจำนวนวันที่ปกปิด แล้วประพฤติวัตรที่เรียกว่า มานัต อีก 6 ราตรี จากนั้น ขอให้สงฆ์ 20 รูป สวดอัพภาน จึงพ้นจากอาบัติ ก็จะไม่เป็นกรรมติดตามไปภพหน้าชาติหน้า

ส่วนการจะแน่ใจว่า เป็นอาบัติสังฆาทิเสสหรือไม่ คงต้องถามตัวคุณเอง ถ้ามีเจตนาทำน้ำอสุจิเคลื่อน หรือ เจตนาจับต้องกายหญิง หรือเจตนาพูดจาเกี้ยวพาราสีหญิง จึงเป็นอาบัติ ถ้าไม่มีเจตนาก็ไม่เป็น