ReadyPlanet.com


ความจริงคืออะไร


ถ้าต่อไปในภายภาคหน้าคนเราสามารถปลูกถ่ายอวัยวะทำให้คนไม่ตาย และสามารถโคลนนิ่งได้อย่างสมบูรณ์ ซึ่งทำได้อยู่แล้วอย่างแน่นอน (แค่ทำได้ปีไหนแค่นั้น) คำถามคือ

1.มันจะขัดกับไตรลักษณ์ คือคนเราไม่ตาย ในเมื่อคนไม่ตายได้ก็ไม่ต้องหาทางเข้าสู่นิพพาน ก็ต้องย้อนความมาตั้งแต่ต้นว่าที่พระพุทธเจ้าออกบวช ก็เพราะไม่อยากตาย จึงต้องแสวงหาทางไม่ตาย แต่ถ้าเราหยุดความไม่ตายได้ตั้งแต่เริ่ม ทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องมีเรื่องราวต่อไป ไม่ต้องด้้นรนเพื่อหาความไม่ทุกข์ ไม่ต้องปล่อยวางเพราะไม่มีอะไรให้ปล่อยวางเพราะยังไงก็ไม่ต้องตายอยู่แล้ว ซึ่งคนส่วนมากก็มักจะไม่ยอมรับความจริงข้อนี้ อยากให้ทุกคนมองข้อความนี้แบบใจเป็นกลาง ไม่ยึดติดกับความคิดความเชื่อของตน ก็จะพบความจริงข้อนี้

2.การโคลนนิ่ง สรุปคร่าวๆคือ ร่างที่โคลนนิ่งจะมีอายุเท่ากับอายุคนที่โคลนนิ่ง ณ ตอนนั้น เข่น ร่างโคลนนิ่งจะอายุ 20 ทันที ถ้าทำการโคลนนิ่งตอนอายุ 20 ซึ่งมันก็จะขัดกับหลักของพุทธเรื่องกสรอุบัติของวิญญาณ

(เสริม) 3.ถ้าเรามีเครื่องย้อนเวลาได้ (ซึ่งมันก็จะทำได้อยู่แล้วในอนาคต) เวลาเราทำเรื่องผิดพลาดอะไรไป เราก็ย้อนกลับไปแก้ไขได้เสมอ ดังนั้นเราจะไม่มีความทุกข์ ไม่ต้องฝึกให้จิตปล่อยวาง เพราะจิตไม่ได้ดิ้นรนตั้งแต่ทีแรก เช่น ทำแก้วแตก เราก็ย้อนกลับไปถือแก้วดีๆ พอแก้วไม่แตก จิตจึงไม่ดิ้นรน พอจิตไม่ดิ้นรน จึงไม่ยึดติด พอไม่ยึดติด จึงไม่ทุกข์ และสามารถยัดหลักการนี้ได้ในทุกๆเรื่อง



ผู้ตั้งกระทู้ ความจริงคืออะไร :: วันที่ลงประกาศ 2020-03-08 12:37:24


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4193374)

 ตอบแทนได้ไหมอ่าคะ

ส่วนตัวคิดว่า

1 คำตรัสของพระพุทธเจ้า เป็นอกาลิโก คือไม่ขึ้นอยู่กับกาล ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็จริงตามนั้น

เพราะฉะนั้นจึงคิดว่าการปลูกถ่ายอวัยวะเพื่อไม่ตายไม่น่าจะทำได้ 

อันนี้เสริมนะคะ สมมุติว่าถ้าเราปลูกถ่ายอวัยวะแล้วเราไม่ตายจริงๆ แต่เราก็สามารถตายแบบอื่นได้ เช่น ตายเพราะ โควิิ19เหมือนอย่างตอนนี้

2 การโคลนนิ่งเกิดจากการสืบพันธิ์โดยไม่อาศัยเพศ

ทำได้โดยการใช้เซลล์ของผู้ที่จะโคลนกับเซลล์ไข่ที่ทำสารข้างในออก เมื่อผสมกันก็จะเกิดเป็นตัวอ่อนค่อยๆโต ดังนั้น ถ้าโคลนนิ่งตอนอายุ 20 ตัวโคลนของคนนั้นก็อายุเท่ากับเด็กเพิ่งเกิด และถ้าไม่มีจิตมาเกิดพอคลอดออกมาก็ตาย

เพราะฉะนั้นจึงไม่ขัดกับหลักที่พระพุทธเจ้าสอนไว้ค่ะ

3 พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า อดีตไม่สามารถแก้ไขได้

สิ่งที่สามารถย้อนอดีตหรือไปอนาคตได้นั้นมีเพียงอย่างเดียวคือจิตเท่านั้น

จิตสามารถนึกถึงอนาคตและอดีตได้ แต่ตัวเราไม่สามารถไปได้จริงๆ ถ้าพูดตามหลักวิทยาศาสตร์คือความเร็วไม่เท่าจิตเราจึงย้อนเวลาไปแก้ไขอะไรไม่ได้ค่ะ

ผู้แสดงความคิดเห็น พลอย วันที่ตอบ 2020-03-08 15:06:41


ความคิดเห็นที่ 2 (4193400)

 การโคลนนิ่งทำได้ในส่วนของร่างกาย แต่ไม่มีจิตเข้าไปอาศัยอยู่ ร่างโคลนนิ่งก็เป็นเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา พระพุทธเจ้าไม่ได้ออกบวช เพระไม่อยากตาย แต่ท่านออกบวชเพราะต้องการแสวงหาความดับทุกข์ในใจต่างหาก ร่างกายมันอยู่ไม่ถึง ๑๐๐ ปีก็ต้องตายหมดแล้ว ใครจะไปทำให้มันไม่ตาย ไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เหตุที่ทำให้ต้องมาเกิด มาตาย คือกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่ฝังจมอยู่ในใจดวงนี้ ตราบใดที่ยังมีกิเลสอยู่ ก็เป็นเหตุให้เกิดความยึดถือในร่างกาย กิเลสก็พาใจให้มาเกิดในกายที่ยึดถือเอาไว้ ครั้นเมื่อตรัสรู้อริยสัจสี่ แล้ว ก็ทำลายกิเลสหมดสิ้นจากใจได้ ก็ไม่มีกิเลสมาบังคับใจให้ต้องมาเกิดอีก เมื่อไม่เกิดก็ไม่ต้องตาย 

การไม่ตายแต่ยังมีกิเลสครอบงำจิตใจอยู่ ใจดวงนั้นก็ต้องเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน ทั้งร่างกายก็ต้องทุกข์ เพราะแก่ เพราะเจ็บ เพราะตาย ถ้าคนสามารถไม่ตายจริง ก็จะอยู่ด้วยความทุกข์ทรมานตราบเท่าที่ยังมีกิเลสอยู่ในใจ ยุคพระศรีอริยเมตตรัย คนอายุตั้ง ๘๐,๐๐๐ ปี ไม่ต้องทำโคลนนิ่งก็อยู่ได้ แต่ใจมันยังมีกิเลส ก็มีทุกข์อยู่ตลอดเวลา ท่านบวชเพื่อหาทางดับทุกข์ในใจต่างหาก คนเคยเห็นคนที่ไม่ตาย แล้วไม่มีทุกข์ไหม ไม่มีในโลก ถ้าใจยังมีกิเลสอยู่ ทุกข์ใจก็ต้องมีไปตลอด ไม่เกี่ยวกับร่างกายจะตายหรือไม่ตายเลย

ในโลกของความจริง ไม่มีเครื่องย้อนเวลาได้หรอก มันมีแต่ในหนังเท่านั้น เวลาจริง ๆ แล้ว มันก็ไม่มี มันเป็นเพียงสมมติไว้เพื่อกำหนดนัดหมายให้ตรงกันเฉพาะในกลุ่มคนเท่านั้น แท้จริง มันมีแต่กลางวันกลางคืนเกิดดับสลับกันไป ตามการหมุนของดวงดาว ไม่มีวันเดือนปีตามที่เราสมมติกัน ในความเป็นจริง ก็มีแต่ปัจจุบันค่อย ๆ เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ปัจจุบันที่ผ่านไปแล้วก็ไปเป็นอดีตในความทรงจำ ปัจจุบันที่ยังมาไม่ถึงก็คืออนาคตนั่นเอง เพราะฉะนั้น จิตจะรู้ได้จริง ๆ คือในปัจจุบันเท่านั้น ส่วนอดีต อนาคตเป็นเพียงความคิด ความจำที่อยู่ภายในจิตเท่านั้น หาใช่ความจริงแต่อย่างใดไม่

ถ้าจะแก้ไขสิ่งที่เคยทำผิด ก็คือแก้ไขในปันจุบันเท่านั้น อย่าทำผิดอีก ไม่ใช่ย้อนกลับไปแก้ไขในอดีต มันเป็นไปไม่ได้ เพราะอดีตจริง ๆ มันเป็นเพียงความจำ ความจำก็ไม่เที่ยง หลงลืมไปเสียเยอะแยะ ชาตินี้เราทำอะไรผิดถูกมาบ้าง ก็ยังจำได้ไม่หมดเลย ไม่ต้องคิดไปไกลถึงอดีตชาติ

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2020-03-08 21:19:58



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล