ReadyPlanet.com


อ่านขันธ์5แล้วมีข้อข้องใจ


 กราบนมัสการพระอาจารย์

ผมเป็นเด็กที่กำลังมีความสนใจในพระธรรมและพึ่งเริ่มศึกษาได้ไม่นานเท่าควร ผมได้ไปอ่านเรื่องขันธ์ 5 ที่บอกว่ามนุษย์เรานั้นประกอบด้วยขันธ์ทั้ง5มารวมกันถึงได้กลายเป็นมนุษย์เรียกว่ามนุษย์ เปรียบเหมือนรถที่มีอุปกรณ์อะไล่ต่างๆมารวมกันแล้วถึงเรียกว่ารถ ถ้าแยกออกแล้วจะไม่เหลืออะไรไม่เรียกว่ารถ 

ผมเลยสงสัยตรงนี้ครับ อุปกรณ์ต่างๆที่นำมาประกอบเป็นรถ ที่ยังต่อเชื่อมกันเป็นรถรถได้ก็เพราะมีน็อตอะไรต่างๆมาเชื่อมให้ติดกันจึงเป็นรถ แล้วมนุษย์เรามีอะไรเป็นยึดขันธ์5ให้ติดอยู่ด้วยกันจนเรียกว่ามนุษย์ครับ 



ผู้ตั้งกระทู้ เด็กที่ยังโง่เครา :: วันที่ลงประกาศ 2018-01-01 02:56:38


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4096042)

 ตอบ คุณเด็กที่ยังโง่เขลา 

คุณเข้าใจผิดไปเอง ว่า น็อตเป็นตัวยึดชิ้นส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ให้ติดกัน ทีจริงน็อตก็เป็นชิ้นส่วนอันหนึ่งของรถยนต์  แต่ละชิ้นส่วน ย่อมมีหน้าที่ของมัน น็อตมันก็มีหน้าที่ของมันตามที่เขาผลิตมา ล้อมีหน้าที่หมุนไป พวงมาลัยก็มีหน้าที่บังคับทิศทางให้ล้อหมุนไป เบรคก็มีหน้าที่ชะลอความเร็ว หรือหยุดรถ แต่ละชิ้นส่วนต่างมีหน้าที่ของมัน เพื่อดำรงความเป็นรถยนต์เอาไว้ ถ้าชิ้นส่วนมันแยกจากกัน ความเป็นรถยนต์ก็ไม่สมบูรณ์ เช่น ล้อหลุดไป ประตูหลุดไป ฝากระโปรงหลุดไป มันก็ยังดูเป็นรถยนต์อยู่ แต่ไม่สมบูรณ์ จนกว่าจะแยกชิ้นส่วนออกจากกันทั้งหมด ความเป็นรถยนต์จึงหายไป

ขันธ์ 5 ก็เช่นเดียวกัน ขันธ์ 5 คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แยกออกได้เป็นสองส่วน คือ รูป กับ นาม รูปก็คือส่วนที่เป็นร่างกาย ได้แก่ ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับพังผืด ไต ปอด ไส้ใหญ่ ไส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า เยื่อในสมองศีรษะ น้ำดี น้ำเสลด น้ำเหลือง น้ำเลือด น้ำเหงื่อ น้ำมันข้น น้ำตา น้ำมันเหลว น้ำลาย น้ำมูก น้ำไขข้อ น้ำมูตร ในธรรมท่านรวมอวัยวะทั้งหมด อยู่ในธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ไฟ ลม เหล่านี้ รวมกันเรียกว่ากาย จัดเป็นส่วนรูป เปรียบเหมือนรถยนต์ จะถอดชิ้นส่วนมันเมื่อไรก็ได้ ร่างกายของคนก็เช่นกัน จะผ่าตัดแยกชิ้นส่วนออกจากกันก็ได้ จะทำให้ตาย หรือไม่ให้ตายก็ย่อมได้ บางคนยังไม่ถึงที่ตาย แต่ถ้าทำกรรมที่เป็นเหตุให้ตาย ก็ตายได้ เรียกว่า ประมาทในการดำรงชิีวิตอยู่ เช่น ผูกฆ่าตาย หรือ ข้ามถนนไม่ระวัง ก็ถูกรถชนตายได้

แต่ร่างกาย ยังมีส่วนที่เป็นนามอยู่ในตัวมัน คือ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เหล่านี้เกี่ยวเนื่องกับจิต เป็นอาการของจิต ซึ่งรถยนต์ไม่มี ถ้าร่างกายไม่มีจิต ร่างกายก็ตาย แม้ชิ้นส่วนของกายจะยังไม่แตกแยกจากกัน ก็ไม่เรียกว่าคน แต่เรียกว่าศพ พอเป็นศพแล้ว หากเอาไปฝังดิน ร่างกายก็จะค่อย ๆ แตกสลายไปเอง ถ้าเอาไปเผาไฟ ก็จะกลายเป็นขี้เถ้าสลายลงเป็นดินดังเดิม แต่จิตไม่ได้ตายไปด้วย จิตยังมีที่ไปอย่างที่เรียกว่า ไปเกิดใหม่ ส่วนจะไปเกิดที่ไหนก็แล้วแต่กรรมที่ทำไว้ฝังจมอยู่ในจิตจะบันดาลให้เป็นไปเอง

มูลเหตุที่ทำให้ กายกับจิตยังไม่แยกจากกัน ยังครองสภาพความเป็นคนไว้ได้ นั่นก็คือ กรรมนั่นเอง มีกุศลกรรม หรือที่เรียกว่า บุญกรรมเป็นตัวหล่อเลี้ยงไว้ไม่ให้ตาย ถ้าอกุศลกรรม หรือบาปกรรมให้ผลเมื่อใด ก็เป็นเหตุตัดรอนให้กายถึงแก่ความตายได้เมื่อนั้น ร่างกายตายก็เพราะอวัยวะสำคัญหยุดทำงานนั่นเอง จิตก็จะออกจากร่างไปหาที่เกิดใหม่ตามภพภูมิของจิต

ชิ้นส่วนสำคัญที่ทำให้ร่างกายตายได้เร็วที่สุด ก็คือลมหายใจนี่เอง ในบรรดาธาตุทั้ง 4 ที่ประกอบกันเป็นกาย ถ้าลมหายใจดับเมื่อใด ร่างกายก็ตายทันที ลมหายใจจะดับก็ต่อเมื่อ หัวใจหยุดทำงาน ดังนั้น ชิ้นส่วนที่ยึดโยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเอาไว้ให้ยังไม่แตกสลายไป ก็คือลมหายใจนี่เอง กับกรรมที่ฝังอยู่ภายในจิต ประกอบกัน เพราะกายกับจิต ต่างอาศัยซึ่งกันและกันเป็นอยู่ หากแยกจากกันเมื่อใด ก็คือร่างกายต้องตายทันที

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2018-01-03 00:08:12



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล