ReadyPlanet.com


ฟังธรรมแล้วไม่เข้าใจเรื่องแยกรูปแยกนามค่ะ


 วันหนึ่งไม่สบายค่ะเลยภาวนาตามลมที่อกอย่างเดียวไม่ได้ภาวนาพุทโธ แล้วเห็นกายกับจิตแยกจากกันเป็นคนละส่วน ไม่มีกายในความรู้สึก ใช่การแยกรูปแยกนามไหมคะ ฟังธรรมยังไม่เข้าใจเรื่องการแยกรูปแยกนามว่าต้องทำอย่างไรจึงจะแยกได้และเวลาเกิดอสุภะจะเห็นแต่โครงกระดูกสีขาวพยายามบังคับจิตให้เห็นเป็นเนื้อหนัง แต่ก็ยังเป็นโครงกระดูกเหมือนเดิมค่ะ 

 



ผู้ตั้งกระทู้ แป้ง :: วันที่ลงประกาศ 2019-09-02 19:14:16


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4184391)

การเห็นกายกับจิตแยกจากกัน คือ การเห็นด้วยปัญญาญาณ มิใช่เห็นด้วยตาเนื้อ หรือเป็นมโนภาพ จิตหยั่งรู้อย่างชัดเจน ว่า กายเป็นส่วนหนึ่ง ใจคือผู้รู้เป็นอีกส่วนหนึ่งแยกจากกันอย่างสิ้นเชิง ไม่ประสานเป็นอันเดียวกัน ความรู้ต่าง ๆ ที่ผ่านมาทางกาย จิตเพียงรู้แล้วปล่อยวาง ปรากฏผู้รู้เป็นจิตอิสระจากความรู้ทางกายอย่างชัดเจน ไม่หลงเพลิดเพลินไปกับความรู้ต่าง ๆ ทีเกิดขึ้นทางกาย จิตรับรู้แล้วก็ดับไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คือจิตไม่ติดไม่ยึดในความรู้ทางกายเป็นปกติธรรมดา เรียกว่า กายกับจิตแยกกันโดยความรู้เป็นหลักธรรมชาติ แม้กายจะเจ็บปวดและทุกข์เพียงไหน ใจก็เพียงแค่รับทราบ แต่ใจไม่ได้ทุกข์ไปกับกายด้วยเลย เห็นทุกข์เป็นอันหนึ่ง ผู้รู้เป็นอีกอันหนึ่ง ต่างอันต่างอยู่เป็นธรรมชาติของตัวเอง ส่วนทางกายภาพ ถ้ากายยังไม่ตาย กายกับจิตก็ยังอยู่ด้วยกันเหมือนเดิม แยกกันในทางความรู้เท่านั้น

 

ฝึกสติปัญญาไปเรื่อย ๆ ถ้าสติปัญญาก้าวไปจนถึงขั้นเกรียงไกร เดี๋ยวกายกับจิตมันแยกให้เห็นเอง มันเห็นโครงกระดูก ก็เพ่งโครงกระดูกทำลายให้สลายลงไปเป็นดิน แล้วตั้งขึ้นมาใหม่ก็ได้ ถ้ายังอยากจะเพ่งโครงกระดูกก็เพ่งไปได้ เพ่งจนกว่าจะรู้เท่าทันภาพโครงกระดูกที่ปรากฏว่า เป็นเพียงภาพที่จิตสร้างขึ้นเอง ถ้าสติปัญญาแก่กล้า มันก็จะทำลายภาพภายในจิตให้หมดส้ินไปได้เอง จิตจะปรุงภาพไม่ได้ จากนั้นจิตก็จะเข้าถึงความว่างในหลักธรรมชาติ ผู้รู้จะปรากฏเด่นเป็นอัศจรรย์ ค่อย ๆ ฝึกไป มันหากค่อยเป็นไปเอง อย่าไปอยากรู้ก่อนที่มันจะเป็น ดูความเป็นของจิต มันเป็นอย่างไรก็ฝึกสติปัญญาให้รู้เท่าทัน รู้แล้วปล่อยวางไว้ เหมือนกับไม่เคยรู้มาก่อน รู้แล้ววางไว้ตามเดิม มันจะรู้อะไรก็รู้ไปเถอะ รู้แล้วก็วางเสีย อย่าไปติดใจ อย่าไปข้องใจ ถ้ารู้เป็นสติปัญญา จิตมันต้องทำลายกิเลสให้เบาบางลง สติปัญญามันจึงจะค่อย ๆ แก่กล้าไปเรื่อย ๆ ถ้ารู้แล้วติด รู้แล้วยึด เดี๋ยวก็ถูกกิเลสหลอกต้มจนหมดเนื้อหมดตัว ภาวนาก็ไม่เป็นไป

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2019-09-03 13:38:15



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล