ReadyPlanet.com


จะเป็นการสร้างบุญหรือสร้างบาปกันแน่ครับ


นมัสการ / สวัสดีครับ

คือผมอยากจะพาพ่อแม่ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารน่ะครับ ซึ่งไม่บ่อยนักที่จะไปกินอาหารนอกบ้าน หากเราไปร้านอาหารก็อยากให้พ่อแม่สั่งอาหารที่เค้าชอบ ซึ่งแน่นอนว่ามันต้องมีอาหารที่มาจากการฆ่า เช่น กุ้ง หอย ปูปลา  ฯลฯ ผมก็คิดไปว่าการที่แค่เราอยากพาพ่อแม่ไปกินอาหารดีๆ แต่กลับต้องทำให้ กุ้ง หอย ปู ปลา หลายชีวิตนั้นต้องตายลง (จะคิดไปว่ามันเป็นกรรมของเขา ก็เหมือนจะเป็นการเข้าข้างตัวเองเกินไป) ผมจึงสงสัยครับว่ามันจะได้บุญเพราะเราสงเคราะห์พ่อแม่ ต้องการให้ท่านได้กินอาหารดีๆอร่อยๆ หรือมันจะเป็นบาปจากเจตนาของเราที่เพียงต้องการสงเคราะห์พ่อแม่กันแน่ครับ

ขอนมัสการด้วยความเคารพ / ขอบคุณครับ



ผู้ตั้งกระทู้ กฤษฎา :: วันที่ลงประกาศ 2013-05-14 12:54:10


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (2960624)

คุณมีเจตนาดีที่อยากพาพ่อแม่ไปรับประทานอาหารอร่อยๆอันเป็นที่ชื่นชอบ แต่ก็เป็นเพียงเจตนา ยังมิได้เป็นการกระทำ แล้วก็มีความคิดอีกอันหนึ่งเข้ามาตัดรอนเจตนาที่ดีนั้นเสีย  ด้วยคิดผิดไปว่า ถ้าเราสั่งอาหารที่ชอบ ก็จะทำให้สัตว์ ที่ถูกนำมาทำเป็นอาหารต้องตายลงไป เพราะการสั่งอาหารของคุณ คุณเลยสงสัยว่า มันจะเป็นบุญหรือเป็นบาป จากการที่่อยากให้พ่อแม่ได้รับประทานอาหารที่ถูกใจ และอร่อยๆ

คุณกลัวว่า หากคิดว่ามันเป็นกรรมของเขา ก็เหมือนจะเข้าข้างตัวเองเกินไป  แต่คุณคงลืมคิดไปว่า คนเราต้องยอมรับความเป็นจริง ไม่คำนึงถึงว่า มันจะเข้าข้างใคร หรือไม่เข้าข้างใคร สิ่งที่คุณต้องทำให้ได้ คือ ยอมรับความจริง พูดความจริง  สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ใครทำดีก็ย่อมได้รับผลที่ดี ใครทำชั่วก็ย่อมได้รับผลที่ชั่ว มันคือความจริงของโลก เป็นอย่างนี้มานานแล้ว  สัตว์ทุกตัวล้วนต้องตายทั้งนั้น ไม่มีสัตว์ตัวไหนไม่ตาย ไม่เว้นแม้กระทั่งตัวคุณเอง และสัตว์ทุกตัวที่ตาย ก็ล้วนตายตามกรรมของตัวเองเท่านั้น  เมื่อกรรมตายมาถึง ไม่ต้องมีใครมาทำร้ายเข่นฆ่า นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆก็ตายได้ทั้งนั้น  สัตว์โลกที่ตาย ก็ล้วนตายด้วยกิริยาที่แตกต่างกัน  นั่นเป็นเพราะมีกรรมทำมาไม่เหมือนกันนั่นเอง นี่คือความจริงประจำโลกที่คุณต้องยอมรับ ถึงแม้มันจะเข้าข้างตัวเอง หรือไม่เข้าข้างตัวเอง ก็ต้องยอมรับความจริงนี้ ไม่อาจบ่ายเบี่ยงเพื่อหลีกเลี่ยง 

สัตว์ตัวไหนจะถูกฆ่าเพื่อเอามาเป็นอาหารให้คุณ  มันเป็นเรื่องของร้านอาหารเขา คุณไม่ต้องไปเกี่ยวข้องตรงนั้น และคุณไม่มีสิทธิ์ไปก้าวก่าย หรือไปสั่งสอนเขาว่า อย่าเอาสัตว์มาฆ่าเพื่อขายเป็นอาหารเลย เพราะเหล่านี้พระพุทธเจ้าก็ทรงสอนไว้หมดแล้วทั้งนั้น ว่าไม่ให้ค้าสัตว์เป็นเพื่อเป็นอาหาร  คุณคงต้องยอมรับว่า ในโลกไม่มีใครเก่งกว่าพระพุทธเจ้า นอกจากพระเทวทัตเท่านั้น ที่ไม่ยอมทำตามพระพุทธเจ้า ผลที่สุดเทวทัตก็ต้องไปสู่อเวจีมหานรก เพราะเก่งเกินไป

คุณลองคิดดูง่ายๆ มนุษย์ก็เป็นสัตว์ประเภทหนึ่่ง  ไม่มีใครเอาเนื้อมนุษย์มากินเป็นอาหาร แต่มนุษย์ก็ยังแย่งกันตายอยู่ทุกวัน ฆ่ากันตายทุกวัน คุณคงพอสำเหนียกรู้ได้กระมัง สัตว์อื่นๆก็เช่นเดียวกัน  ถึงไม่มีใครเอาเนื้อมันมากินเป็นอาหาร  มันก็ต้องตายอยู่ดีด้วยกรรมของมันเอง ไม่ต่างจากมนุษย์ที่ไม่มีใครเอาเนื้อมากินก็ตายกันให้เห็นอยู่ทุกวัน  ดังนั้น คุณอย่าไปใส่ใจเรื่องสัตว์อื่นที่ต้องตายเพราะถูกนำมากินเป็นอาหารเลย  จงตั้งหน้าดูใจของคุณ ให้มันคิดถูก ดูมือเท้าของคุณให้มันทำถูก  ดูปากของคุณให้มันพูดถูกเท่านั้นพอแล้ว  เรื่องของคนอื่น ใครอยากฆ่าก็ฆ่าไป ใครอยากกินอะไรก็กินไป คุณจงรักษาตัวเอง อย่าทำ พูด คิด ในสิ่งที่มันผิดศีลผิดธรรมก็พอแล้ว 

คุณเพียงสั่งอาหารมาเพื่อรับประทานตามปกติ ในร้านขายอาหารไม่มีอะไรเป็นบาป คุณอยากทานอะไรก็ทานไปเถอะ ไม่เป็นบาปเพราะการสั่งอาหารนั้นๆ  แต่ถ้าคุณไปสั่งเขา เอาปลาตัวนี้ไปฆ่า  เอากุ้งตัวนั้นไปฆ่า  หรือคุณไปเอามันมาฆ่าแล้วทำเป็นอาหารเสียเอง  อย่างนั้นจึงจะเป็นบาป  การที่เรารับประทานเนื้อของสัตว์ที่ตายแล้ว หาเป็นบาปแต่อย่างใดไม่ พระพุทธองค์ทรงห้ามเนื้อสัตว์ ๑๐ ชนิด ไม่ให้พระฉัน ส่วนเนื้อสัตว์อื่นๆนอกนั้น ห้ามโดยความเป็นของดิบ  คือต้องทำให้สุกก่อนจึงจะฉันได้ และห้ามพระทำอาหารฉันเอง และถึงแม้เป็นเนื้อที่อนุญาตให้พระฉันได้ก็ตาม ยังต้องหลีกเลี่ยง อาการ ๓ อย่าง คือ ด้วยการได้เห็น  ด้วยได้ยิน และ ด้วยได้รังเกียจ ว่าเขาฆ่ามาเฉพาะตน ถ้ามีอาการ 3 อย่างนี้ เกิดขึ้น ท่านก็ไม่อนุญาตให้ฉันเนื้อนั้น

สัตว์ที่มีกรรมจะต้องตาย ก็ไม่มีทางจะหนีพ้นกรรมตายนั้นๆได้  ถึงเราจะฉันเนื้้อเขา หรือไม่ฉันเนื้อเขาก็ตาม ไม่สามารถไปหยุดยั้งกรรมตายของสัตว์รายใดได้ จะอย่างไร เขาก็ต้องตายอยู่ดี จงอย่าเข้าใจผิดตามที่มีคนชอบโฆษณาชักจูงกันไปกินมังสวิรัติ ว่าการกินเนื้อสัตว์ทำให้สัตว์ถูกฆ่าตายมากขึ้น เป็นการเบียดเบียนสัตว์ การไม่กินเนื้อสัตว์เหมือนเป็นการให้ชีวิตสัตว์ ช่วยให้เขารอดตาย ถือเป็นการเมตตาสัตว์ คำพูดเหล่านี้  ล้วนเป็นเรื่องบิดเบือนทั้งนั้น หลอกให้คนโง่หลงผิดไปตามได้ เราไม่ใช่คนโง่ หรือจะเป็นคนโง่ ก็แล้วแต่จะพิจารณาเอาเอง ทุกสิ่งในโลกมันมีกฏแห่งความจริงของมันอยู่ ไม่มีใครมาบิดเบือนให้เป็นอย่างอื่นได้หรอก  สัตว์มันตายตามกรรมของมัน  เนื้อสัตว์ควรเป็นอาหารได้ มนุษย์ก็เอามาเป็นอาหาร โลกมันเป็นอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร  ไม่มีใครจะเอาฝ่ามือเดียวไปค้ำแผ่นฟ้าไว้ได้  จงรู้จักรักษาตัวรอดเป็นยอดคนก็พอแล้ว  อะไรกินได้ไม่ผิดศีลผิดธรรมก็กินเข้าไปเถอะ  กินจนท้องแตกตายก็ไม่เป็นบาป แต่ถ้ามีเจตนาจะกินเพื่อฆ่าตัวตาย ก็บาปได้เหมือนกัน

จงจำไว้เถิดว่า บุญบาปไม่ได้เกิดขึ้น เพราะการกิน หรือไม่กินเนื้อสัตว์ แต่เกิดขึ้นจากการกระทำที่อยู่ในกรอบแห่งศีลแห่งธรรมหรือไม่ต่างหาก เอาตรงนี้ ตั้งใจให้มั่นคงอย่างนี้ เชื่อตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน  แล้วคุณจะอยู่ในโลกนี้ได้อย่างปลอดภัย ปลอดภัยจากการเป็นมิจฉาทิฏฐิในทุกเรื่องราว และสามารถที่จะตัดสินทุกอย่างได้อย่างเที่ยงตรงและถูกต้อง ตามความเป็นจริง โดยไม่ต้องคำนึงว่า จะลำเอียงเข้าข้างใคร หรือไม่เข้าข้างใคร อีกตลอดไป

ผู้แสดงความคิดเห็น เว็บมาสเตอร์ (webmaster-at-doisaengdham-dot-org)วันที่ตอบ 2013-05-15 20:06:01



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล