



























วันนี้ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของวัดเราที่ต้องจารึกไว้ เราจัดงานแบบเงียบๆเป็นการภายใน โดยเรียนเชิญท่านนายอำเภอแม่อาย นายคมกริช ตรีธัญพงศ์ มาทำพิธีปักหมายเขตวิสุงคามสีมา และได้นิมนต์ครูบาอาจารย์และหมู่เพื่อนสหธรรมิกจาก ๙ วัด มาฉันเช้า รวม ๒๒ รูป กว่าจะเสร็จพิธีก็ประมาณเกือบๆเที่ยง และได้ถือโอกาสนิมนต์คณะสงฆ์แสดงที่สำหรับสร้างศาลาโรงครัว และที่พักปฏิบัติธรรมด้วย
.
เมื่อนายอำเภอมาปักหมายเขตวิสุงคามสีมาแล้ว ก็ถือว่าวัดได้เป็นวัดที่สมบูรณ์ตามกฏหมาย และมั่นคงในพระพุทธศาสนาตลอดกาลนาน และอุโบสถก็สามารถกระทำอุปสมบทกรรมบวชพระได้แล้ว เรียกว่าปลดเปลื้องภาระหนักที่ได้ต่อสู้มาอย่างยาวนาน ๑๘ ปี ช่างดูเหมือนว่า เวลา ๑๘ ปี มันผ่านไปรวดเร็วนัก เผลอนิดเดียว เรามาอยู่ที่นี่ ๑๘ ปีแล้ว จากเดิมที่มันเคยมีเพียงกุฏิมุงหญ้าคาหลังเล็กๆโทรมๆอยู่หนึ่งหลัง กับศาลาโรงฉันเก่าๆขนาดสามคูณหกเมตร
.
แต่มาบัดนี้ ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเท่าที่จำเป็นเพิ่มขึ้นมาอย่างที่ปรากฏในรูป แต่กว่าจะได้มันมานั้น ก็ต้องแลกด้วยความบากบั่นพากเพียรพยายามอย่างสุดแสนสาหัสเลยทีเดียว จนเราอดที่จะรำพึงอยู่ภายในใจไม่ได้ว่า ถ้าพระองค์ไหนยังไม่เคยต่อสู้สร้างวัด ด้วยลำพังปลีแข้งของตนเองให้สำเร็จ ตั้งแต่ที่มันยังไม่มีอะไรเลย จนมันกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์แบบถูกต้องตามกฏหมายได้นั้น เราคิดว่า รสชาติของความเป็นพระมันคงจะจืดชืดและกร่อยเกินไป
.
อันนี้พูดถึงเฉพาะการต่อสู้ทางภายนอกที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน โดยตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่า จะต้องกระทำการโดยไม่ขัดต่อพระธรรมวินัย ซึ่งพูดได้อย่างเต็มปากว่า ไม่ใช่ของง่ายๆที่ใครๆก็จะทำได้ ยังไม่รวมถึงการขับเคี่ยวกับกิเลสที่ฝังจมอยู่ภายในใจ ซึ่งนั่้นย่อมเป็นอีกรสชาติหนึ่งที่สาหัสยิ่งกว่า อันนักปฏิบัติทั้งหลายย่อมรู้แก่ใจดีอยู่แล้ว
.
อันความทุกข์ยากลำบากแสนลำเค็ญนั้นไม่ว่าจะเป็นเพราะเหตุแห่งการต่อสู้ชีวิตทางภายนอกหรือการต่อสู้กับกิเลสทางภายใน มันก็เป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างความเป็นพระให้เข้มแข็งแกร่งกร้าวได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะมีปัญญาถือเอาประโยชน์จากมันได้กี่มากน้อย
.
ต่อจากนี้ไปก็ยังเหลือเพียงการผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต เพื่อทำวัดให้เป็นวัดที่สมบูรณ์ตามพระธรรมวินัยต่อไป ซึ่งนั่นก็ไม่ได้ถือว่า เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องกระทำอย่างเร่งด่วน เมื่อใดพร้อมที่จะทำ ก็จึงทำ ถ้ายังไม่พร้อม จะไม่ทำก็ไม่เป็นไร
.
แต่เราก็เชื่อว่า มันหากมีความเป็นไปเองโดยธรรมชาติอยู่แล้ว มันจะเป็นไปอย่างไรนั้น ก็ดูเหตุที่จะปรากฏขึ้นมาเกี่ยวข้อง เราเพียงกระทำเหตุให้สอดคล้องกับความที่คิดว่า มันจะเป็นไปอย่างไร เท่านั้นก็เกินพอ