ReadyPlanet.com


ความกตัญญู


 สอบถามเรื่องความกตัญญูค่ะ

แม่ใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่าย เงินเข้าและออกไปอย่างรวดเร็ว โดยหมดเงินกับการทำบุญ เลี้ยงเพื่อน ซื้อเสื้อผ้าเข้าสังคม 

แม่ได้เงินจากพ่อ ปีละเกินครึ่งล้าน โดยไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายใดๆในบ้าน เพราะพ่อจ่ายทั้งหมด แม่ขอเงินพ่อ เพื่อไปเลี้ยงเพื่อนด้วยในหลายๆครั้ง

แม่จะช่วยงานพ่อบ้าง และดูแลพ่อบ้าง

หลายๆครั้ง แม่บ่นให้ลูกและคนอื่นฟังว่า พ่อขี้งก ไม่ยอมซื้อหรือให้เงินแม่เพิ่ม ซึ่งพ่อเคยบอกแม่แล้วว่า ที่ไม่ให้เยอะ เพราะรู้ว่าแม่จะใช้หมดอย่างรวดเร็ว

ไม่นานมานี้ ดิฉัน ทำให้แม่ได้เงินหลายล้าน แม่ใช้เงินส่วนใหญ่หมด ในเวลาครึ่งปี ดิฉันรู้สึกว่า ช่วงหลังๆ แม่โลภ อยากได้แต่เงินอย่างเดียว พยายามจับคู่ลูกกับคนรวย เพื่อหวังสินสอด แม่อยากได้อะไร จะทวงบุญคุณที่ให้เกิดมา ซึ่งหลายๆครั้งลูกๆทำให้ แต่จะไม่ชอบที่แม่ตวาด และพูดทวงบุญคุณตลอด ลูกๆโตมาด้วยเงินของพ่อทั้งหมด ซึ่งพ่อจะพูดดีๆและไม่เคยพูดทวงบุญคุณเลย พ่อจะสอนลูกโดยทำให้เห็นเป็นตัวอย่าง 

ดิฉันพึ่งพูดกับแม่เรื่องการใช้เงิน ทำให้แม่ไม่พอใจ และพูดว่าหน้าที่ของลูกคือการหาเงินมาให้แม่ เพื่อให้แม่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านแบบที่แม่อยากทำ สิ่งที่เคยทำให้ เช่น ช่วยตากผ้า ขับรถไปส่ง ไปเป็นเพื่อนแม่ ฟังเเม่เล่าเรื่องชีวิต ไม่ใช่ความกตัญญู ดิฉันรู้สึกว่าแม่ ตีค่าความกตัญญู คือเงินทองเท่านั้น 

ดิฉันเสียใจและผิดหวังในสิ่งนี้มาก และคิดว่าจะตั้งใจกตัญญูต่อพ่อเป็นหลักแล้ว

แต่ก็รู้สึกแย่ เวลาที่แม่พูดว่าพ่อในทางที่ไม่ดี เพราะเป็นสิ่งที่ไม่จริง ไม่ถูกต้อง

ความคิดไม่ดีต่อแม่แบบนี้ เป็นบาปมากหรือไม่คะ และควรทำอย่างไรดี

 



ผู้ตั้งกระทู้ อิงฟ้า :: วันที่ลงประกาศ 2020-09-16 16:29:15


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4205739)

พ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดแก่บุตรธิดาทุกคน ชีวิตนี้ลูก ๆ ได้มาจากพ่อแม่ ตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็ยากนักที่จะหาสิ่งใดมาตอบแทนพระคุณของพ่อแม่ให้หมดสิ้นไป จนถึงขนาดจะพูดได้ว่า ไม่มีพระคุณต่อกันหลงเหลืออยู่อีกเลย จึงเป็นหน้าที่ของบุตรธิดาทุกคน ที่จะสำนึกรู้ในพระคุณของบิดามารดา และกระทำการตอบแทนตามที่ตนเห็นสมควร ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับคุณธรรมในใจของบุตรธิดาแต่ละคนว่า จะมีกี่มากน้อย และจะปฏิบัติต่อบิดามารดาผู้มีพระคุณอย่างไร ซึ่งไม่อาจมีใครบังคับได้

พ่อแม่แต่ละคนก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีเสียทั้งหมด พ่อแม่ที่ไม่ดีก็ย่อมจะมี แม้บุตรธิดาก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมด บุตรธิดาที่ไม่ดีก็ย่อมจะมีเช่นเดียวกัน สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม การที่ใครจะมีบิดามารดาที่ดีหรือไม่ดี หรือใครจะมีบุตรธิดาที่ดีหรือไม่ดี ย่อมขึ้นอยู่กับกรรมที่เคยทำมาต่อกัน การที่พ่อแม่ทำไม่ดีต่อบุตรธิดา ก็ต้องถือว่า เป็นกรรมของบุตรธิดาที่เคยทำไม่ดีต่อพ่อแม่มาก่อนให้ผล หรือการที่บุตรธิดาทำไม่ดีต่อพ่อแม่ก็เช่นเดียวกัน

ทุกคนมีกรรมดี กรรมชั่วเป็นของตัวเอง ถ้าพ่อแม่ทำไม่ดีต่อลูก ๆ ก็ถือเป็นเรื่องกรรมไม่ดีของพ่อแม่ ลูก ๆ ไม่บังควรเอาการกระทำที่ไม่ดีนั้น มาเป็นเหตุให้ตัวเองกระทำการไม่ดีตอบต่อพ่อแม่ ลูก ๆ ควรทำดีต่อไป ไม่ว่าพ่อแม่จะเป็นคนเช่นไรก็ตาม

เช่นเดียวกัน แม้ลูก ๆ จะทำไม่ดีต่อพ่อแม่ ก็ถือเป็นเรื่องกรรมไม่ดีของลูก ๆ พ่อแม่ก็ไม่บังควรเอาการกระทำที่ไม่ดีนั้น มาเป็นเหตุให้ตัวเองกระทำการไม่ดีตอบต่อลูก ๆ พ่อแม่ควรทำดีต่อลูก ๆ ไม่ว่าลูกจะเป็นคนดีหรือไม่ดีก็ตาม

เรื่องของการทำดี หรือทำชั่ว ย่อมถือเป็นเรื่องเฉพาะตัว ใครทำดีก็ได้รับผลดีเอง ใครทำชั่วก็ได้รับผลชั่วเอง บุคคลจึงไม่ควรอ้างเอาการกระทำที่ไม่ดีของคนอื่น มาเป็นเหตุให้ตนเองกระทำการไม่ดีตอบแทนต่อบุคคลนั้น

ทุกคนมีหน้าที่ต้องทำดี เพื่อให้ตัวเองได้รับผลดีตลอดไป แม้ว่าจะมีใครมาทำไม่ดีต่อเราก็ตาม ก็ถือเป็นเรื่องของกรรมที่เคยล่วงเกินกันมา ธรรมท่านให้อโหสิกรรมต่อกัน ไม่พึงจองเวรต่อกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร

หากเราทำไม่ดีตอบต่อพ่อแม่ ก็จะเป็นกรรมหนักที่ต้องผูกเวรกันต่อไปในภพหน้าชาติหน้า อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น แม้พ่อแม่จะทำไม่ดีต่อเราบ้าง ก็จงอดทนและให้อภัย และทำดีตอบต่อพ่อแม่ เท่าที่เราจะสามารถทำได้ และทำให้ดีที่สุด จะโดยการให้ความช่วยเหลือ เลี้ยงดู หรือแนะนำในทางที่ดี ก็ทำได้ทั้งนั้น นั่นแหละ จึงเป็นกรรมดีของเรา การทำไม่ดีตอบต่อพ่อแม่ ไม่เห็นจะมีประโยชน์อันใดเลย

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2020-09-20 22:37:45



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล