โลกนี้ไม่ได้มีเราอยู่เพียงคนเดียว จึงไม่เป็นการสมควรเลย ที่เราจะไปสรรหาเรื่องราวต่าง ๆ บนโลกใบนี้ มาทำให้ใจเราต้องเป็นทุกข์อยู่เพียงคนเดียว ไม่ควรที่ใคร ๆ จะเอาโลกนี้มาแบกอยู่คนเดียว แล้วก็มานั่งบ่นว่า ทุกข์ ๆๆ อยู่คนเดียว ไม่ดีเลย!!
.
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อตั้งหน้าตั้งตาทำให้ใจเราเป็นทุกข์ แท้จริง คนเราเกิดมาเพื่อมุ่งแสวงหาความสุข แต่อยู่ที่ใครจะหาความสุขที่แท้จริงได้อย่างถูกวิธีหรือไม่
.
แต่การสร้างความทุกข์ให้เกิดกับใจนั้น ดูเหมือนจะเป็นของทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องอาศัยความชำนาญใด ๆ เลย เพราะไม่ว่าใครเกิดมาก็เป็นทุกข์ใจได้ด้วยกันทุกคน
.
ลำพังการทำความพยายามไม่ให้ใจเราเป็นทุกข์ ก็ต้องฝึกจิตฝืนใจบังคับใจ ไม่ให้ใจคิดสร้างเรื่องทุกข์ขึ้นมาเผาใจตัวเองได้ เฉพาะเรื่องทุกข์ของตัวเอง ก็ถือว่าทุกข์หนักอย่างสุดแสนสาหัสแล้ว จนบางคนแทบจะฆ่าตัวตายวันละหลายครั้ง มิหนำซ้ำ บางคนยังขยันไปเอาเรื่องดีเรื่องชั่วของคนอื่นมาคิดให้เป็นฟืนเป็นไฟเผาใจตัวเองให้ทุกข์หนักยิ่งขึ้นเข้าไปอีก
.
เห็นใครทำดีก็ยินดีกับเขาบ้าง อย่าไปอิจฉาริษยาเขา ให้ใจคิดว่าวันหนึ่ง เราจะทำดีอย่างนั้นให้ได้ คิดไว้ก่อน ส่วนการจะทำได้หรือไม่ได้ ให้ใช้สติปัญญาคิดอ่านใคร่ครวญให้เหมาะสมกับเหตุการณ์ที่มาเกี่ยวข้องในปัจจุบัน แล้วทำงานปัจจุบันให้ดีที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ก็พอ
.
เห็นใครทำไม่ดีก็ไม่ต้องไปโมโหเขา ไม่ต้องไปตำหนิติเตียนเขา มันจะทำให้ใจเกิดความโกรธ เพราะการคิดไม่ดีกับคนอื่น การไปตำหนิติเตียนคนอื่น ถึงเขาจะผิดจริงก็ตาม มันก็เป็นเหตุทำให้ใจเราเป็นทุกข์เปล่า ๆ
.
เพราะความโลภ ความโกรธ ความหลง จะเผาใจเรา ถ้าใจเราคิดไม่ดี เราไม่สามารถเอาความอยากของใจเราไปบังคับคนอื่นให้ทำดีทำชั่วได้อย่างที่้เราต้องการ ถ้าเขาทำถูกใจเรา เราก็จะดีใจ ถ้าเขาทำไม่ถูกใจเรา เราก็จะเสียใจ
.
ถ้าเราปล่อยให้ใจเราต้องดีใจหรือเสียใจไปกับการกระทำของคนอื่น เราจะหาความสุขไม่เจอเอาเลย จะมีแต่ทุกข์เผาใจไปตลอดเวลา
.
หากใจคิดว่า สิ่งนี้ไม่ดี ตัวเราก็จะต้องระมัดระวัง ไม่พึงทำสิ่งนั้น เช่นนี้ จึงได้ชื่อว่า ใจไม่คิดสร้างเรื่องทุกข์มาทำร้ายใจตัวเอง
.
คนอื่นใครจะทำดี หรือทำไม่ดี ก็ยกให้เป็นเรื่องของคนอื่น ไม่ใช่หน้าที่ที่เราจะพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของเขาโดยที่เขาไม่ได้เชื้อเชิญ
.
แต่ถ้าเรามีหน้าที่ที่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องกัน ก็กระทำไปตามสมควรแก่เหตุ ฐานะและหน้าที่ของตน ด้วยความสุจริตยุติธรรม ไม่กระทำการใด ๆ ให้ส่อไปในทางทุจริตผิดศีลผิดธรรม
.
เพียงเท่านี้ก็ได้ชื่อว่า ไม่เป็นผู้ที่สร้างเรื่องทุกข์ให้มาเผาใจตัวเอง ไม่ไปเดือดร้อนกับการทำดีหรือไม่ดีของคนอื่น ตั้งหน้าตั้งตาชำระสะสางทำใจตัวเองให้สะอาดหมดจดอยู่เสมอ ด้วยการประกอบการงานที่สุจริตที่ปราศจากโทษ ตั้งตนอยู่ในศีลในธรรม
.
ใครทำได้เพียงเท่านี้ ความทุกข์ที่สุมรุมเร้าอยู่ภายในใจ ก็จะค่อย ๆ บรรเทาเบาบางลงไปเอง จากนั้นถ้าใครปรารถนาคุณธรรมที่สูงยิ่งขึ้นไปอีกถึงขั้นดับทุกข์ได้อย่างถาวร ก็พึงเจริญสมาธิ อบรมปัญญาให้แก่กล้าบริบูรณ์ ก็จะสามารถขัดเกลาจิตใจให้สงบผ่องใสยิ่ง ๆ ขึ้นไปโดยลำดับ
.
ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยครูบาอาจารย์ที่ทรงมรรค ทรงผล ทรงนิพพาน ที่เป็นผู้รู้จริงเท่านั้น คอยให้คำแนะนำพร่ำสอน จึงจะนำพาผู้ปฏิบัติให้ก้าวเดินออกจากทุกข์ได้ มิฉะนั้น ก็จะหลงเดินวนเวียนเหยียบย่ำอยู่ในกองทุกข์โดยหาทางออกจากทุกข์ไม่เจอ
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๘
.