ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 15 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ขอเชิญสมัครสมาชิกอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม twitter วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


บทนำ

Doisaengdham Radio
รับฟังได้ทั่วโลก ผ่านมือถือทั้งระบบ iOS และ Android




DHAMMA TALK
๓ มิถุนายน ๒๕๖๖

................

วิสาขบูชารำลึก ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
.
วันนี้ เป็นวันวิสาขบูชา ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ ปีเถาะ ปักข์ถ้วน เป็นวันพระใหญ่ มีสวดปาติโมกข์ นับเป็นอุโบสถที่ ๖ ผ่านไปแล้ว ๕ อุโบสถ ยังเหลืออีก ๒ อุโบสถ ก็จะสิ้นสุดฤดูร้อนคิมหันตฤดู เพื่อเป็นการน้อมรำลึกนึกถึงพระคุณอันประเสริฐของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์นั้น ก็จักหยิบยกเอาพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ มาบรรยายให้ท่านทั้งหลายได้สดับ พอเป็นเครื่องปลอบประโลมใจ ให้เกิดความอาจหาญ ให้ร่าเริงในสัมมาปฏิบัติ อันเป็นหนทางนำออกจากทุกข์ได้ต่อไป
.
พระคุณของพระผู้มีพระภาคเจ้านั้น ย่อมมีเป็นอเนกอนันต์สุดจะประมาณได้ แม้หากพระพุทธองค์ทรงตรัสรู้แล้ว จักนั่งพรรณนาพระพุทธคุณไปจนถึงวันปรินิพพาน พระพุทธคุณนั้น ก็ยังมิอาจพรรณนาให้จบสิ้นได้ เห็นทีพระองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพานไปเสียก่อนเป็นแน่แท้
.
ก็พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น จำเดิมแต่เมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ ตั้งความปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลข้างหน้านั้น กว่าจะสร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ ให้เต็มเปี่ยมไพบูลย์ได้ ท่านอุปมาไว้ดังนี้ :-
.
“หากมีบุรุษใดที่จักอาจกล้าหาญเหยียบย่ำลงไปบนแผ่นดินที่ปูลาดด้วยถ่านเผาไฟแดง ๆ ด้วยเท้าอันเปล่าเปลือย เป็นระยะทางอันสุดแสนไกลที่บั้นปลายไม่ปรากฏ ด้วยดวงจิตอันเด็ดเดี่ยวหนักแน่น ไม่ย่อท้อต่อความทุกข์ยากลำบาก ไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึงต่อความตาย แม้จะตายแล้วเกิดใหม่อีกกี่ภพกี่ชาติ จนแม้กระดูกจะกองเท่าภูเขา ก็จะขอเดินเหยียบย่ำลงไปบนถ่านเผาไฟแดง ๆ อย่างนี้ ด้วยใจที่ไม่สะทกสะท้านหวั่นไหว ผู้เช่นนั้นแล!! จึงจักสามารถสร้างบารมีปรารถนาความเป็นพระพุทธเจ้าได้สำเร็จ"
.
ยกพระพุทธเจ้าประเภทปัญญาธิกะเป็นเหตุ กาลอันเป็นส่วนมโนปณิธาน เพียงลำพังแค่คิดอยู่ภายในใจ ว่า "ขอปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น" ทำความปรารถนาไว้ในใจเช่นนี้ ก็ยังต้องท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดอยู่ในวัฏฏสงสาร อยู่ถึง ๗ อสงไขยกัปป์ (กัปป์นับไม่ได้ ๗ ครั้ง) เพื่อสร้างบารมีชั้นต้นให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์
.
จากนั้น เข้าสู่กาลอันเป็นส่วนวจีปณิธาน เปล่งวาจา ว่า "จะขอเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่งในอนาคตกาลข้างหน้า" แล้วท่องเที่ยวเวียนว่ายตายเกิดไปอีก ๙ อสงไขยกัปป์ เพื่อสร้างบารมีชั้นกลางให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ ถ้ายังไม่ท้อถอยความเพียร หรือลาพุทธภูมิไปเสียก่อน ก็จักได้รับพุทธพยากรณ์ในที่เฉพาะพระพักตร์ของพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
.
เมื่อได้รับพุทธพยากรณ์แล้ว จักมีบารมีแก่กล้าเข้าสู่ขั้นปรมัตถบารมี อันเป็นบารมีขั้นอุกฤษฏ์ เที่ยงที่จะได้ตรัสรู้เป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ต้องทำความเพียรต่อสู้กับกิเลสอย่างอุกฤษฎ์ คือ ยอมสละบุตร ภรรยา แม้เลือด เนื้อ และ ชีวิต เพื่อทำความปรารถนาพระโพธิญาณอย่างเดียวเท่านั้น แม้กระนั้นแล้ว ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดเพื่อสร้างสมพระบารมีท่องเที่ยวไปในวัฏฏสงสารอีก ๔ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปป์ บารมีจึงเต็มเปี่ยมบริบูรณ์
.
รวมเบ็ดเสร็จพระปัญญาธิกะ ต้องสร้างบารมีทั้งสิ้น ๒๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปป์ พระศรัทธาธิกะ ต้องสร้างบารมีทั้งสิ้น ๔๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปป์ และ พระวิริยาธิกะ ต้องสร้างบารมีทั้งสิ้น ๘๐ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปป์ นับเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเหลือเกินกว่าที่แต่ละพระองค์จะทรงสร้างบารมีสำเร็จจนเต็มเปี่ยม
.
ควรที่จะมาอุบัติตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ สำเร็จเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นศาสดาเอกของโลก มาประกาศธรรมสอนโลก ให้พวกเราท่านทั้งหลายได้สดับพระธรรมเทศนา อันเป็นข้อปฏิบัติที่เป็นไปเพื่อความดับทุกข์อย่างสิ้นเชิง ที่เรียกว่า มัชฌิมาปฏิปทาอันเป็นทางสายกลางประกอบด้วยมรรคมีองค์ ๘ ที่ย่นย่อลงแล้วก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
.
พวกเราที่เป็นภูมิสาวก เพียงสร้างบารมีแค่เศษเสี้ยวของพระพุทธองค์ คือ หนึ่งแสนมหากัปป์เท่านั้น ก็สามารถบรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระอรหันตสาวกเข้าสู่พระนิพพานได้แล้ว แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เพราะการที่พระองค์ ทรงทำความปรารถนาจะรื้อขนสัตว์ให้ก้าวพ้นจากทุกข์ไปด้วยกัน พระองค์ต้องยอมอดทนต่อความทุกข์ยากลำบากเพื่อสร้างสมพระบารมีให้เต็มเปี่ยม ต้องทนทุกข์ทรมานในการเวียนว่ายตายเกิดไปอีก ๒๐ อสงไขยกัปป์ มากกว่าพวกเราอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
.
แล้วจะมีผู้ใดใครเล่า จะสามารถพรรณนาคุณงามความดีของพระองค์ที่เรียกว่า พุทธคุณ ที่ทรงบำเพ็ญเพียรมาตลอดระยะเวลาอันยาวนาน ๒๐ อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์นั้น มาตีแผ่ให้พวกเราได้เรียนรู้จนหมดสิ้นได้ทุกอย่างในระยะเวลาเพียงชั่วอายุคนคือ อย่างมากไม่เกิน ๑๒๐ ปี แม้พระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์มาอุบัติตรัสรู้ต่อ ๆ กันไป แล้วนั่งพรรณนาพระพุทธคุณไปเรื่อย ๆ ก็ยังพรรณนาพุทธคุณได้ไม่จบไม่สิ้น ด้วยเหตุสุดวิสัยว่า อายุขัยจักพลันหมดสิ้นลงไปเสียก่อนนั่นเอง
.
ดังนั้น ในวาระอันเป็นมหามงคลที่วันวิสาขบูชาเวียนมาบรรจบครบอีกครั้งในปีนี้ จึงควรที่พวกเราชาวพุทธ จักได้น้อมรำลึกนึกถึง พระคุณอันประเสริฐ ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ด้วยการน้อมนำเอาพระธรรมคำสอนมาประพฤติปฏิบัติ ดัดแปลงกาย วาจา ใจ ของตน ให้ตั้งมั่นอยู่ในสัมมาทิฏฐิ ในองค์อริยมรรคทั้ง ๘ ให้ได้ ด้วยการเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา ถวายเป็นปฏิบัติบูชาตามควรแก่กำลังความสามารถของตน
.
ก็วันวิสาขบูชา นี้ เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ผู้ทรงเป็นพระมหาบุรุษสุดประเสริฐ ผู้ดำรงในพระคุณอันล้ำเลิศ ๓ ประการ มีพระปัญญาคุณอันล้ำเลิศ พระบริสุทธิคุณอันหมดจดงดงาม พระมหากรุณาคุณอันยิ่งใหญ่ไพศาล
.
เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้แล้ว ก็มิได้ทรงประทับเสวยวิมุตติสุขอยู่ตามลำพังพระองค์เอง อาศัยความกรุณาเอ็นดูในหมู่สัตว์ ทรงเสด็จจาริกไปในคามนิคมน้อยใหญ่ เพื่อทรงแสดงธรรมสั่งสอนเวไนยสัตว์ ให้ได้ฟังธรรมและปฏิบัติตาม ทั้งไพเราะในเบื้องต้น ไพเราะในท่ามกลาง และไพเราะในบั้นปลาย เป็นเหตุให้พวกเราได้มีข้อปฏิบัติดำเนินไปตาม ศีล สมาธิ ปัญญา ทำให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ก็จะสามารถละความเห็นผิดอันเป็นโทษทุจริต ให้สถิตตั้งมั่นในความเห็นชอบ อันเป็นคุณความดีงามที่จะนำไปสู่ความดับทุกข์ได้
.
วันวิสาขบูชา จึงถือเป็นวันสำคัญอันยิ่งใหญ่ของโลก ไม่มีวันสำคัญอื่นใดจะยิ่งไปกว่า เพราะวันวิสาขบูชา เป็นวันเดียวที่รวมเอาเหตุการณ์สำคัญของโลกไว้ถึงสามประการ อันยากยิ่งที่จะอุบัติบังเกิดกับมนุษย์ปุถุชนคนใดในโลก กล่าวคือ เป็นวันคล้ายวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น และเป็นการประสานรวมธรรมขั้นสุดยอด ที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงไว้ตลอด ๔๕ พระพรรษา สรุปรวมลงในพระไตรลักษณ์ คือ "อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา" อันเป็นธรรมาวุธที่ใช้ปราบกิเลสให้หมดสิ้นจากใจได้อย่างหมดจดงดงาม
.
โดยมีนัยดังนี้ คือ สัพเพ สังขารา อนิจจา สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง มีความเกิดปรากฏเป็นเบื้องต้น นับแต่การประสูติของเจ้าชายสิทธัตถะเป็นต้นไป สัพเพ สังขารา ทุกขา สังขารทั้งหลายเป็นทุกข์คือ มีความเสื่อมสิ้นพิบัติแปรปรวนไปเป็นธรรมดาในท่ามกลางคือ นับจากวันตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ๔๕ พระพรรษา ที่ทรงประกาศธรรมสอนโลก และจบลงด้วย สัพเพ ธัมมา อนัตตา ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาคือ ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น ด้วยการที่พระพุทธองค์ทรงดับกิเลสภายในพระหฤทัยได้อย่างสิ้นเชิงเป็นสอุปาทิเสสนิพพาน และดับขันธปรินิพพาน ณ กรุงกุสินารา เป็นอนุปาทิเสสนิพพาน ได้แสดงให้เห็นถึงความที่สังขาร และวิสังขาร ทั้งหลายไม่ใช่ตัวตน ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใดเลย มีอันต้องแตกสลายดับไปในที่สุด แม้สรีระสังขารของพระองค์เอง ก็ไม่ปรากฏว่าจะอยู่นอกเหนือจากธรรมที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้วนี้ได้
.
ดังนั้น วันวิสาขบูชา นี้ จึงเป็นเหมือนการประมวลธรรมทั้งปวงที่พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมสั่งสอนไวไนยสัตว์ ให้เป็นนิมิตหมายแสดงให้เห็นถึงความเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปของทุกสรรพสัตว์ ไม่มียกเว้นแม้กระทั่งพระองค์เอง ที่ได้ประสูติในเบื้องต้น ตรัสรู้ในท่ามกลาง และปรินิพพานในบั้นปลาย ทั้งสามวาระมาปรากฏรวมอยู่ในวันวิสาขบูชา วันเดียวนี้ นับเป็นกาลอัศจรรย์ที่จักมีปรากฏในสามโลกธาตุเพียงครั้งเดียวเมื่อมีพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาอุบัติตรัสรู้เท่านั้น
.
ก็ไตรลักษณ์อันได้แก่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี้ ย่อมถือเป็นธรรมชั้นสูงสุดที่บุคคลใดหากบังเกิดดวงตาเห็นธรรม ผู้นั้นต้องเห็นไตรลักษณ์ จึงสามารถบรรลุธรรมก้าวข้ามโคตรแห่งปุถุชนกลายเป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนา ผู้ใดเห็นไตรลักษณ์ ผู้นั้น ก็ต้องได้เห็นพระนิพพาน อย่างไม่มีวันจะผันแปรเป็นอื่น มีคำถามสอดเข้ามาว่า แล้วทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้า จึงต้องมาประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ในวันเดียวกันนี้ด้วยเล่า เป็นเพราะเหตุดังฤา?
.
คำตอบก็คือ ก็ด้วยพระพุทธบารมีอันยิ่งใหญ่ ที่ทรงบำเพ็ญมาแล้วอย่างเต็มเปี่ยมไพบูลย์ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานถึง ๒๐ อสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์นั่นแล จึงบันดาลให้เกิดปรากฎการณ์ อันเป็นคุณลักษณะเฉพาะของท่านผู้เป็นมหาบุรุษสุดประเสริฐ คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นี้ เท่านั้น หาได้ปรากฏเป็นสาธารณะ แก่สัตว์อื่น บุคคลอื่นใดไม่ ตลอดทั่วแดนไตรโลกธาตุ
.
วันวิสาขบูชา นี้ จึงเป็นนิมิตหมายแห่งธรรมทั้งปวง ที่พระพุทธองค์ทรงพร่ำสอนมาตลอด ๔๕ พระพรรษา ว่า "สิ่งใดมีความเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นย่อมมีความดับไปเป็นธรรมดา" ทรงอาศัยพระพุทธสรีระนี้ เป็นเครื่องยืนยันอย่างหนักแน่น ในธรรมที่ทรงแสดงไว้แล้วนั้น ว่า "แม้พระองค์เองจะทรงไว้ซึ่งบุญญาบารมีที่สั่งสมมาแล้วอย่างยาวนาน แม้จะมีพระพุทธานุภาพที่ยิ่งใหญ่สักปานใด พระองค์ก็ไม่ได้รับการยกเว้น ให้อยู่นอกเหนือกฏเกณฑ์แห่งไตรลักษณ์ ที่พระองค์ตรัสไว้ดีแล้วนี้ได้เลย" นั่นคือ ทุกสรรพสิ่งเกิดขึ้นแล้ว ต้องดับไปเท่านั้น ไม่มีเว้นแม้แต่พระสรีระของพระองค์เอง
.
เมื่อพระองค์ทรงประสูติ นั่นคือ กาลอันเป็นที่อุบัติขึ้นแห่งพระพุทธสรีระ เมื่อพระองค์ทรงตรัสรู้ คือ กาลอันเป็นที่อุบัติแห่งพระตถาคตเจ้า พร้อมทั้งการดับสิ้นไปของกิเลสกองทุกข์ทั้งปวง ที่เรียกว่า "สอุปาทิเสสนิพพาน" และเมื่อพระองค์ทรงปรินิพพาน คือ กาลอันเป็นที่ดับไปของพระตถาคตเจ้า เป็นการดับทั้งรูปขันธ์ คือ พระพุทธสรีระ และการดับนามขันธ์ทั้งปวง อันได้แก่ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เป็นการดับอย่างไม่เหลือเชื้อ ที่เรียกว่า "อนุปาทิเสสนิพพาน" อันสามโลกธาตุต้องสะเทือนสะท้านหวั่นไหว ในพระพุทธคุณอันยิ่งใหญ่แห่งพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์นั้น ที่ได้ทรงดับขันธปรินิพพานจากโลกสมมตินี้ไปเป็นตลอดอนันตกาล
.
ดังนั้น ในวาระที่วันวิสาขบูชาเวียนมาบรรจบครบ พวกเราชาวพุทธควรน้อมรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญแห่งวันวิสาขบูชา นั้น อย่าได้ปล่อยให้วันวิสาขบูชาล่วงเลยผ่านไปเปล่า ๆ จงตั้งจิตสำรวมใจน้อมนำเอาธรรมที่พระพุทธองค์ได้ทรงประทานไว้แล้วแก่พวกเราคือ มัชฌิมาปฏิปทา อันได้แก่ ศีล สมาธิ ปัญญา นี้ มาปฏิบัติขัดเกลากิเลสที่ฝังจมอยู่ภายในใจให้เบาบางลงจนถึงหมดไปอย่างสิ้นเชิง จงอย่าได้ทำให้พระพุทธองค์ต้องทรงบำเพ็ญพระบารมีลำบากพระวรกายไปเปล่า ๆ กว่าที่จะได้ตรัสรู้ธรรมและนำธรรมมาสั่งสอนพวกเรานั้นเป็นการยากนักหนา แต่กลับไม่มีผู้ใดนำธรรมอันล้ำเลิศที่พระองค์ทรงประทานไว้แล้วนั้น มาประพฤติปฏิบัติให้เกิดสติปัญญารู้แจ้งธรรมตามรอยเสด็จของพระพุทธองค์สู่แดนพระนิพพานได้เลย
.
ธรรมทั้งปวงนั้น แม้จะทรงคุณค่ามากมายสักเพียงไหนก็ตาม แต่หากไม่มีผู้ใดสนใจนำธรรมมาประพฤติปฏิบัติ ธรรมนั้นก็เป็นเสมือนดังไร้ค่า การที่จะมีโอกาสได้ฟังธรรมของพระพุทธเจ้านั้น เป็นการยากนักหนา ควรที่จะถือเอาประโยชน์อันใดได้มากได้น้อยก็สมควรให้ได้ตามนิสัยวาสนาบารมีของตน อย่าปล่อยให้ตัวเองกลายเป็นโมฆะบุรษสตรี เสียทีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ได้พบพระพุทธศาสนา แล้วถือเอาประโยชน์อันใดจากธรรมมิได้เลย ทั้ง ๆ ที่ มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ เป็นธรรมอันล้ำเลิศที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงประทานไว้แล้วแก่พวกเราชาวพุทธทุกคน
.
ดังนั้น จึงควรที่พวกเราชาวพุทธต้องตระหนักให้มากว่า ทุกลมหายใจเข้าออกล้วนมีคุณค่ายิ่งนัก จงอย่าปล่อยให้ลมหายใจดับสลายไปก่อน โดยที่ไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติธรรม รู้ธรรม เห็นธรรมใด ๆ เลย
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๖_๐๖
.

https://www.facebook.com/doisaengdham

 

(อ่านบทความเพิ่มเติม)

   

 
 
 

  

 

ศาสนาพุทธไม่มีวันเสื่อมจากโลก
วันที่ 16/12/2020   11:57:12

ศาสนาพุทธจะไม่มีวันเสื่อมไปจากโลกไม่ว่ากาลไหนๆ เพราะศาสนาพุทธคือคำสอนที่เป็นสัจธรรม อันเป็นความเป็นจริงที่มีอยู่คู่โลกมาตลอดกาล ไม่ว่าจะมีพระพุทธเจ้ามาอุบัติตรัสรู้หรือไม่ก็ตาม ศาสนาพุทธก็ไม่มีวันเสื่อมไปจากโลก เป็นเพียงแต่ หากยุคสมัยใดที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติตรัสรู้ธรรม ก็จะไม่มีผู้ค้นพบความจริงอันนี้ แล้วนำมาตีแผ่ประกาศธรรมสอนโลกเท่านั้นเอง

ข้อวัตรปฏิปทาในพ่อแม่ครูอาจารย์
วันที่ 30/12/2020   22:50:58

อันที่จริงพวกเราก็รู้กันอยู่อย่างเต็มหัวอกแล้วว่า "พ่อแม่ครูอาจารย์" ท่านบรรลุธรรมสิ้นกิเลส เสร็จกิจในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่อายุ ๓๖ พรรษาที่ ๑๖ ตรงกับวันจันทร์ที่  ๑๕  พฤษภาคม ปี พ.ศ. ๒๔๙๓  เวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นคืนเดือนดับ  แรม ๑๔ ค่ำ เดือน ๖ ปีขาล ที่วัดดอยธรรมเจดีย์  จังหวัดสกลนคร  เหตุที่รู้ มิใช่เพราะพวกเรามีญาณหยั่งรู้จิตของท่าน หรือเพราะได้ยินได้ฟังจากคำบอกเล่าของใครคนใดคนหนึ่ง แล้วเชื่อถือสืบต่อกันมา

ภาพในหลวงช่วงปี 2503 (1960) โดยช่างภาพต่างชาติ
วันที่ 16/12/2020   12:01:58

 รูปภาพทั้งหมดที่นำมาให้ชมนี้เป็นการถ่ายโดยช่างภาพชาวต่างชาติ  ถือว่าเป็นขุมทรัพย์ภาพของในหลวงที่ถ่ายในช่วง พ.ศ. 2503 หรือปี 1960 ซึ่งถ่ายตีพิมพ์ลงบนนิตยสาร LIFE ฉบับวันที่ 20 มิถุนายน 2503



บริจาคให้กับทางมูลนิธิ รพ.สวนดอก ไว้เป็นทุนรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธต่อไป
  2022-01-14

๗ มกราคม ๒๕๖๕ รวบรวมปัจจัยจากลูกศิษย์และปัจจัยส่วนตัว ไปบริจาคให้กับทางมูลนิธิ รพ.สวนดอก ไว้เป็นทุนรักษาพระภิกษุสงฆ์อาพาธต่อไป



ส่งมอบเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติ 1 เครื่องให้โรงพยาบาลแม่อาย
  2021-08-02

๑๑ มิถุนายน ๒๕๖๔ ไปมอบเครื่องวัดความดันโลหิตอัตโนมัติแบบสอดแขนให้กับโรงพยาบาลแม่อาย ๑ เครื่อง ยี่ห้อ Terumo รุ่น BP500 มูลค่า ๕๐,๐๐๐ บาท เป็นรุ่นที่ดีที่สุดในตอนนี้



โครงการฝึกอบรม "นักเรียนคุณธรรมดีเด่น" รุ่นที่ ๑/๒๕๖๒
  2019-06-01

ขอประชาสัมพันธ์ไปยังโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต ๓



สรุปผลการตัดสินการประกวดเล่านิทาน ครั้งที่ ๘/๒๕๕๖
  2013-04-08

ประกาศผลการตัดสินของคณะกรรมการ ในการแข่งขัน ประกวดเล่านิทานธรรมชาดก ครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ ชิงโล่พระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์



ประมวลภาพ พิธีปิดการแข่งขัน และมอบโล่พระราชทาน การประกวดเล่านิทาน ครั้งที่ ๘
  2013-04-08

ชมภาพบรรยากาศ การประกาศผลตัดสิน และมอบโล่พระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์



ประมวลภาพพิธีเปิดโครงการประกวดเล่านิทานธรรมชาดก ครั้งที่ ๘/๒๕๕๖
  2013-04-08

ชมบรรยากาศพิธีเปิดการแข่งขัน และการฟ้อนพื้นเมืองอันเป็นวัฒนธรรมล้านนา จากคณะนักเรียนที่เข้าร่วมการแข่งขัน วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖



ประมวลภาพการแข่งขันประกวดเล่านิทาน ครั้งที่ ๘/๒๕๕๖ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๗ กุมภาพันธ์
  2013-04-08

ชมภาพบรรยากาศการแข่งขัน ประกวดเล่านิทานธรรมชาดก ครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖

หลักเขตวิสุงคามสีมา

กำหนดการพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต
  2018-10-22

 ขอเชิญร่วมงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิต ฉลองสมโภชอุโบสถ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน ในวันที่ ๘-๙-๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ดังกำหนดการที่ลงไว้นี้



พิธีปักหมายเขตวิสุงคามสีมา ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖
  2013-08-09

วันนี้ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๖ ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของวัดเราที่ต้องจารึกไว้ เราจัดงานแบบเงียบๆเป็นการภายใน โดยเรียนเชิญท่านนายอำเภอแม่อาย



บริษัทกุลธรเคอร์บี้ ถวายผ้าป่าสร้างแทงค์เก็บน้ำฝน ให้กับวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
  2012-09-12

บริษัทกุลธรเคอร์บี้มหาชน โดย คุณสุรพร สิมะกุลธร และคณะผู้บริหารระดับสูง ได้ร่วมกันทอดผ้าปาสร้างถ้งเก็บน้ำคอนกรีต ขนาด



ประวัติหลวงตา-ด้วยจิตสำนึกในพระคุณของพ่อแม่ครูอาจารย์
  2011-09-16

ฝึกตนเองดีแล้ว จึงฝึกผู้อื่นชื่อว่า ทำตามพระพุทธเจ้า หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ถือเป็นปูชนียบุคคลที่สำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา เป็นผู้มีคุณูปการต่อ



"พระพุทธรัชมหามงคลธรรมบดี" ปิดทองเสร็จแล้ว
  2011-07-19

ถ้าจะนับเวลาตั้งแต่เริ่มเททองหล่อพระประธาน ที่จะประดิษฐานในอุโบสถวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน...



81 เรื่องของ “ในหลวง” ที่คนไทยควรรู้
  2011-07-19

ตลอดเวลา 60 ปีที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือ “ในหลวง” ของปวงชนชาวไทยทรงครองสิริราชสมบัตินั้น พระองค์ทรงตรากตรำพระวรกาย...



พิธีอัญเชิญ "พระพุทธรัชมหามงคลธรรมบดี"
  2011-07-19

๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒ พิธีอัญเชิญ "พระพุทธรัชมหามงคลธรรมบดี" พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขนาดหน้าตัก ๖๙ นิ้ว



สมเด็จฯประทานพระบรมสารีริกธาตุ
  2011-09-26

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก ทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ จำนวน 9 องค์



ที่สุดแห่งสุวรรณภูมิ อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ
  2011-09-26

28 กันยายน 2549 การเปิดน่านฟ้าใหม่ ณ สนามบินสุวรรณภูมิ ถือเป็นหน้าหนึ่งในบันทึกประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งสนามบินแห่งนี้ถือเป็นสนามบินที่ทันสมัยที่สุด



“หลวงตามหาบัว” ผิดหวัง “นายกทักษิณ” เสียใจเคยอุ้มชู คิดว่ารวยแล้วจะไม่โกงไม่รีดไม่ไถ
  2011-09-16

 “หลวงตามหาบัว” ผิดหวัง “ทักษิณ” อย่างรุนแรง ยอมรับเสียใจที่เคยอุ้มชูเพราะเห็นว่ารวยแล้วคงไม่โกง หวังจะให้มาช่วย

 


หลวงตาบัวสั่ง "ทักษิณ" ลาออกทันที
  2011-09-16

 หลวงตามหาบัว ขอบิณฑบาตให้ “ทักษิณ” ลาออกทันที ระบุเน่าเฟะจนเหลือแต่ลมหายใจแล้ว จะดีดดิ้นไปหาอะไร



เอาคนหน้าด้านนี้หรือมาเป็นนายก เทศน์อบรมฆราวาส ๒๔ มี.ค.๒๕๔๙
  2012-08-28

วันนี้ตามข่าวทั้งหนังสือพิมพ์ทั้งทีวีบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีจะมาที่จ.ว.อุดรธานี เพื่อมาหาเสียงให้พรรคไทยรักไทยและตัวเองด้วย



“หลวงตาบัว” ให้สติ อย่าเห็นแก่เงินเกินกว่าชาติ-ศาสน์-กษัตริย์
  2015-08-05

  “หลวงตามหาบัว” เทศนาย้ำคิดผิดที่เคยสนับสนุน “ทักษิณ” เป็นนายกฯ เพราะไม่ได้ดูจิตใจว่าเป็นคนอย่างไร ดูแต่ฐานะการเงินหวังให้มาช่วยชาติ



หลวงตาเตือนทักษิณเป็นครั้งสุดท้ายระวังจะจม!!!
  2015-08-05

 วันนี้ (17 พ.ค. 2549) พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด ในเรื่อง “จะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย”