ทำดีมาตลอด แต่ทำไมชีวิตไม่ได้ดี
มีคนถามมา....
.
ตอนนี้รู้สึกหมดหวังและไม่มีกำลังใจทำดีต่อไปอีกแล้ว ทำแต่สิ่งดี ๆ แต่ไม่ได้ดี แต่คนที่เค้าทำเรื่องไม่ดี ทำไมเค้ากลับได้ดีไปซะงั้น ตอนนี้มีความรู้สึกเหมือนเราโง่มาตลอด ที่เลือกทำดี ไม่ทำตามคนอื่น ๆ เค้า ไม่อย่างนั้นชีวิตคงสบายไปแล้วตอนนี้ ไม่อยากคิดแบบนี้เลยค่ะ แต่มันรู้สึกไม่มีกำลังใจจะทำดีต่อไปอีกแล้ว
.
คนหมดกำลังใจ
.
ตอบ คุณคนหมดกำลังใจ
.
คุณรู้สึกหมดหวัง เพราะคิดว่า ทำดีแล้วไม่ได้ดี แต่คนที่เขาทำไม่ดี กลับได้ดี และรู้สึกเหมือนตัวเองโง่มาตลอด ที่เลือกทำแต่ความดี ไม่ได้ทำไม่ดีเหมือนคนอื่น คุณหมดกำลังใจที่จะทำดีต่อไปแล้ว
.
กรุณาอย่าเพิ่งหมดกำลังใจ การที่เราละชั่ว ทำดี ได้ชื่อว่า เราปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ผลย่อมต้องปรากฏเป็นความดีอย่างแน่นอน พระพุทธองค์ไม่เคยตรัสผิดพลาดเลย หนึ่งไม่มีสอง คือ คำตรัสของพระพุทธเจ้า เมื่อพระองค์ตรัสว่า ทำดีย่อมได้รับผลดี ทำชั่วย่อมได้รับผลชั่ว ต้องเป็นความจริงอย่างนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น พอเราทำดี เรามักจะหวังว่า ผลแห่งความดีที่เราทำ ควรจะส่งผลให้เราเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เวลานั้นเวลานี้ นั่นเป็นเพราะเราคาดเดาไปเอง ครั้นพอความดี มิได้ส่งผลให้อย่างที่เราคาดหวัง ก็มักจะน้อยเนื้อต่ำใจ เพ่งโทษตัวเองว่า ทำดีแล้วไม่ได้ดี ตัวเองโง่ที่ไม่ทำไม่ดีเหมือนคนอื่นเขา
.
อันนั้นเป็นเราคิดผิดไปเอง ไม่ใช่ความจริง ความจริงก็คือ เราทำดีเวลาใด ความดีที่เราทำก็ส่งผลดีแก่เราทันที คือ จิตใจของเราจะมีความสุขสบาย ชุ่มเย็น เพราะอำนาจแห่งการทำดีของเรา นึกถึงความดีที่เราทำขึ้นมาคราใด จิตใจก็อิ่มเอิบด้วยปีติยินดี ปรีดาปราโมทย์ นี่เป็นผลที่เกิดขึ้นที่ใจ โดยที่เราไม่รู้ตัว
.
ส่วนผลอันจะเกิดขึ้นที่กาย เป็นวัตถุสมบัติ ข้าวของ เงินทอง อะไรนั้น มันขึ้นอยู่กับเหตุ คือ ความดีของเรามีกำลังมากพอที่จะส่งผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้แล้วหรือไม่ แม้ความดีจะยังไม่ส่งผลทางวัตถุอย่างใดก็ตาม แต่ความดีก็ไม่สูญหายไปไหน คงเก็บสั่งสมไว้ตลอดเวลา เมื่อถึงกาลอันควรจะให้ผลอย่างไร ต้องให้ผลทันที ตามกำลังแห่งความดีที่ทำไว้นั้นอย่างแน่นอน
.
ส่วนการที่เราได้รับผลไม่ดีนั้น ย่อมเกิดแต่เหตุอื่นที่เราอาจเคยทำกรรมไม่ดีเอาไว้ และกรรมนั้นบังเอิญมาให้ผล ในช่วงที่เรากำลังทำความดีอยู่ ทำให้เรารู้สึกเหมือนว่า เราทำดีแล้วกลับได้รับผลที่ไม่ดี พึงเข้าใจว่า ผลไม่ดีนั้น มิได้เกิดแต่เหตุที่เราทำดีในปัจจุบันแต่อย่างใด หากเกิดจากกรรมไม่ดีที่เราเคยทำไว้ในอดีตต่างหาก
.
เรื่องของกรรมย่อมมีความลึกลับซับซ้อนเกินกว่าที่สามัญชนจะเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้ง เพราะกรรมมีจำแนกออกไปอย่างมากมาย กรรมอาจให้ผลในชาตินี้ หรืออาจให้ผลในชาติหน้า ให้ผลก่อน ให้ผลหลัง หรือให้ผลทันที ขึ้นอยู่กับกำลังของกรรมที่ทำ แต่ไม่ว่ากรรมจะมีมากอย่างไร ก็มีหลักการอันเดียวกัน สมดังที่พระพุทธองค์ตรัสไว้
.
จงเชื่อมั่นอย่าได้คลอนแคลน ทำดีต้องได้รับผลดีอย่างแน่นอนไม่เป็นอื่น คนทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่วเช่นเดียวกัน จงอย่าได้ไปอิจฉาเขา ที่เขาทำชั่วแล้วอาจจะดูเหมือนได้ดี เพราะดีอย่างนั้นไม่ดีจริง มันมีโทษแอบแฝงอยู่ เมื่อผลแห่งความชั่วปรากฏ เขาต้องได้รับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เขาอาจเคยทำดีมาบ้าง และผลแห่งกรรมดีของเขา เผอิญมาให้ผลในขณะที่เขากำลังทำชั่วอยู่ มิใช่เขาได้ดี เพราะเหตุแห่งการทำชั่ว หาเป็นเช่นนั้นไม่
.
พระพุทธองค์ตรัสว่า "ตราบใดที่กรรมชั่วยังไม่ให้ผล คนชั่วย่อมสนุกสนานเริงร่าพอใจต่อการทำชั่วเสมอไป" เราจงหลีกหนีเสียให้ไกล อย่าเอาตัวเองเข้าไปพัวพันด้วยเลย
.
จงทำความเห็นให้ถูกต้อง และตรงตามหลักธรรมที่พระพุทธเจ้าสอน คุณรู้ได้อย่างไรว่า คนทำชั่วแล้วเขาจะมีความสุขใจ ภายนอกเขาอาจดูดีมีฐานะสูงส่ง แต่ภายในเขาอาจเร่าร้อนเป็นฟืนเป็นไฟเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพราะเขาย่อมรู้ดีว่า เขาได้ดีมาเพราะการทำทุจริตคดโกง มันไม่ใช่ได้ดี เพราะเกิดจากการทำดีจริง ๆ
.
คนทำชั่วจิตใจย่อมหวาดระแวง กลัวคนอื่นรู้เห็น กลัวถูกจับได้ตลอดเวลา สมบัติ ข้าวของ เงินทองที่ได้มา ก็เป็นของบาป กินใช้อยู่ไม่เป็นสุข กินเข้าไปก็กลายเป็น เลือดบาป เนื้อบาป กระดูกบาป อยู่ภายในร่าง มีลูก มีเมีย มีผัว ก็จะกลายเป็นมีแต่ ลูกบาป เมียบาป ผัวบาป ที่จะมาเกี่ยวข้อง เพราะผลแห่งการทำชั่วนั่นเอง ไม่ผิดอะไรกับถูกไฟนรกเผาไหม้ตลอดเวลา อิจฉาเขาทำไม?
.
คุณโชคดีแล้ว จงภูมิใจ ที่ไม่ได้ทำชั่วเหมือนคนอื่นเขา คุณจึงไม่ต้องทุกข์ทรมานใจเร่าร้อนกระวนกระวายเพราะไฟแห่งความชั่วเผาใจ คุณได้รับแต่ความสุขชุ่มเย็นอยู่ในใจ อันเกิดจากความดีที่ได้ทำไว้ ยังว่าไม่ดีอีกหรือ? ที่คุณต้องเป็นทุกข์ ก็เพราะคุณคิดสร้างทุกข์ให้กับใจตัวเองต่างหาก เพราะความคิดที่เข้าใจอะไรผิด ๆ มันก็เลยเป็นเหตุสร้างทุกข์ขึ้นที่ใจ คุณทุกข์ใจ มิใช่ทุกข์เพราะความดีที่คุณทำเลย แต่เป็นทุกข์เพราะความคิดเห็นผิด ๆ ของคุณเองต่างหาก
.
จงแก้ความคิดเห็นผิดของตนเองเสียใหม่ อย่าไปอิจฉาเขา เขาจะทำชั่วแล้วได้ดี ก็ช่างเขา มันดีแต่เปลือกเฉย ๆ ภายในใจมันทุกข์จะตาย เขาไม่มาเล่าให้คุณฟังหรอก มีเงินมีทองร่ำรวยเพราะโกงเขามา หรือทุจริตต่อหน้าที่ ฉ้อราษฎ์บังหลวง รวยแบบนี้มันดีตรงไหน ถูกคนประณามไปทั่วประเทศ ดูตระกูลนักโทษหนีคุกเป็นตัวอย่าง ภายนอกดูเหมือนมีความสุขสบายดี แต่ภายในใจเร่าร้อนเหมือนตกนรกทั้งเป็น
.
ตั้งหน้าตั้งตาทำความดีไปนั่นแหละดีแล้ว และไม่ต้องไปเรียกร้องให้ความดีให้ผลเวลานั้นเวลานี้อย่างนั้นอย่างนี้ จงทำดีไปเถอะ ถึงเวลาความดีย่อมให้ผลเอง เปรียบเหมือน เราตักน้ำใส่ตุ่มใหญ่ ๆ อย่ามัวแต่ชะเง้อคอรอคอยว่า เมื่อไรน้ำจะเต็มตุ่มล้นออกมาเสียที
.
จงรีบขยันหมั่นเพียรตักน้ำไปใส่ตุ่มโดยเร็วพลัน ไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ไม่งอมืองอเท้ารอใครมาช่วย รีบตักเร็วไว เมื่อถึงกาลอันควรที่น้ำจะเต็มตุ่ม น้ำย่อมล้นออกมาให้เราเห็นเอง มัวแต่นั่งงอมืองอเท้า ตัดพ้อต่อว่า เมื่อไรน้ำจะเต็มจะล้นออกมาเสียที ไม่ตักน้ำใส่ตุ่ม น้ำจะเต็มจะล้นได้อย่างไร
.
ดังนั้น จงอย่ามัวตัดพ้อต่อว่า ความดีอยู่เลยนะ ว่าทำเท่าไรก็ไม่เห็นผลสักที จงเพียรทำไปเถอะ แล้วเมื่อไรความดีเต็มเปี่ยมแล้ว เราจะได้ชื่นชมผลแห่งความดีที่เราได้ทุ่มเทความเพียรพยายามทำไว้นั้น อย่างสมใจ ไม่มีวันเหนื่อยเปล่าหรอกน่า
.
ส่วนคนอื่นเขาจะเป็นอย่างไร ก็ยกให้เป็นเรื่องของเขา อย่าไปอิจฉาเขา เพราะต่างคนต่างมีกรรมเป็นของของตัว เอาอย่างกันไม่ได้ อย่าเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับเขา ถ้าจะเปรียบ จงเปรียบเทียบกับคนที่ดีกว่าเรานะ เราจะได้ทำตัวให้ดีเหมือนอย่างเขา ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป อย่าไปเปรียบกับคนที่ชั่วกว่าเรา เดี๋ยวเราจะพลอยกลายเป็นคนชั่วไปด้วย
.
จงตั้งใจทำดีต่อไป ถึงแม้ไม่มีใครเห็น แต่เราผู้ทำเป็นผู้เห็นอยู่ว่า เราได้ทำดี บุญย่อมเกิดขึ้นที่ใจเราเป็นความสุขอิ่มเอิบใจ ก็เป็นเพราะการทำดีของเรา บุญไม่ได้เกิดขึ้นหรือหายไป เพราะการมีคนเห็น หรือไม่มีคนเห็น สมดังพระบรมราโชวาท ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ว่า
.
"ถ้ามีแต่คนปิดทองหน้าพระ ไม่มีใครปิดทองหลังพระบ้างเลย พระจะเป็นองค์พระที่สมบูรณ์ไปไม่ได้"
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๗
.