ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 20 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ขอเชิญสมัครสมาชิกอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม twitter วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


ปฏิบัติธรรมภาวนา ณ สังเวชนียสถาน 4 ตำบลระหว่าง 5-17 มีนาคม 67
 
5-17 มีนาคม 2567 ไปกราบนมัสการสังเวชนียสถาน 4 ตำบล และถ้ำอาชันต้า เอ็ลโลร่า 12 คืน 13 วัน พาคณะลูกศิษย์ไป 61 ชีวิต ไปปฏิบัติธรรมภาวนา ถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา คงมีเรื่องอะไรดี ๆ มาเล่าให้ฟังเยอะ ใครสนใจก็คอยติดตาม เครื่องออกจากสุวรรณภูมิ 18.55 น.
 
Day-1
5 มี.ค.67 เวลา 18.55 น. เครื่องออกจากสุวรรณภูมิไปมุมไบใช้เวลาบินประมาณ 4 ชม.
 
เวลาของอินเดียช้ากว่าไทย 1.30 ชม. ถึงมุมไบเครื่องลงเวลาท้องถิ่น 22.00 น. รอต่อเครื่องอินดิโกไปออรังกาบัด เครื่องออกเวลา 05.30 น. ของวันที่ 6 กว่าจะผ่านด่าน ตม.ไปได้ก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับคณะทั้งหมด
.
สนามบินมุมไบก็แออัดยัดเยียดน่าจะพอ ๆ กับสุวรรณภูมิ แต่ของเขาตกแต่งภายในดูจะอลังการสวยงามกว่าของบ้านเรามากทีเดียว ร้านค้าตลอดทางเดินไปประตูขึ้นเครื่องก็ดูหรูดูแพง คนที่จะเข้าไปซื้อน่าจะต้องกระเป๋าหนักพอควร คืนนี้ก็นั่งพักกันที่ประตูขึ้นเครื่องรอเวลาเครื่องออก ก็มีทั้งคนนั่งรอ นอนรอ
.
เวลาคุยกับคนอินเดีย ถ้าเขาส่ายหน้าให้รู้ว่า นั่นคือการตอบรับ แต่ถ้าเขาพยักหน้า นั่นคือการปฏิเสธ ภาษากายจะไม่เหมือนของบ้านเรา ดังนั้น อย่าสับสน
Day-2
6 มีนาคม 2567 เมืองออรังกาบาด-ถ้ำเอลโลร่า-ป้อมดาลาตาบาด
.
ถ้ำเอลโลร่า อยู่ห่างเมืองออรังกาบาดไป 30 กม. รถวิ่งประมาณ 1 ชม. ถ้ำมี 3 ศาสนา คือ พุทธ ฮินดู เชน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี 2526 ตั้งอยู่ในเทือกเขาจรนันทรี ถูกสร้างในระหว่าง พ.ศ.1200-1500 โดยการเจาะเข้าไปในภูเขา คล้ายกลุ่มถ้ำอาชันต้า ภายในมีแกะสลักพระพุทธรูปอยู่ในถ้ำมีความวิจิตรงดงามมาก แต่ถูกเผาทำลายเสียหายไปเยอะเหมือนกัน (ถ้ำจะปิดทุกวันอังคาร)
.
ถ้ำเอลโลร่ามีทั้งหมด 34 ถ้ำ เป็นของพุทธ 12 เป็นเทวาลัยของชาวฮินดู 17 ถ้ำ เป็นของลัทธิเชน 5 ถ้ำ บรรยายไม่ถูกให้ภาพถ่ายบรรยายแทนละกัน ในระหว่างทางผ่านป้อมดาลาตาบาด เป็นป้อมโบราณอยู่รอบภูเขาดัลคีรี เคยเป็นเมืองหลวงของราชวงศ์ยารวะ แต่ถูกกษัตริย์อลาอุดดินคัลจิ ชาวมุสลิมยึดได้ในปี 1839 ตกอยู่ภายใต้ปการปกครองของมุสลิมอยู่ระยะหนึ่ง ก่อนที่จะถูกทิ้งร้างไป ยังมีซากเสามัสยิด 106 ต้น มีป้อมปราการพระราชวังบนเสาอายุกว่า 700 ปี เรียกพระราชวังลอยฟ้า
.
แต่คณะเราไม่ได้ขึ้นไปชมหรอก เกรงว่าจะหมดเรี่ยวหมดแรงเสียก่อน เพราะเมื่อคืนไม่ได้นอนกันทั้งคืน ทำได้แค่นั่งพักรอเครื่องที่สนามบินมุมไบ พอถึงเมืองออรังกาบัดใช้เวลาบินเกือบช้่วโมง รับประทานอาหารเช้าทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินทางต่อเลย
.
จุดสุดท้ายไปนั่งภาวนากันที่ชั้น 3 ของถ้ำที่ 12 เป็นถ้ำที่ใหญ่ที่สุด มีแกะสลักพระพุทธรูป 28 พระองค์ ซึ่งก็ถูกเผาทำลายไปเป็นส่วนใหญ่ ก็มองให้เป็นเรื่องธรรมดาไปเสีย ถึงจะไม่มีการเผาทำลาย ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องแตกทำลายด้วยตัวเองอยู่แล้ว
.
คนที่ยังติดอยู่ในความเชื่อ ยังเข้าไม่ถึงความจริง ก็ต้องทำไปตามความเชื่อของตัวเอง ถ้าเชื่อถูกก็ทำถูก ถ้าเชื่อผิดก็ทำผิด ต่างต้องได้รับผลแห่งกรรมของตัวเอง จะเชื่ออย่างไรก็ตาม ถ้าทำดีก็ต้องได้รับผลดี ทำชั่วก็ต้องได้รับผลชั่ว ไม่เป็นอย่างอื่น ไม่ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร เพราะความจริงย่อมเป็นความจริงอยู่ตลอดกาล
.
เราพาคณะนั่งภาวนา 30 นาที เทศน์ให้ฟังถึงหลักเบื้องต้นว่า เรามาไกลกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ ไม่ใช่ของง่าย ตั้งใจจะมาปฏิบัติบูชาพระพุทธเจ้า แล้วรู้ไหมว่า การปฏิบัติบูชาที่ถูกต้องทำอย่างไร ต้องวางจิตไว้แบบไหน มิใช่ดีแต่พูดว่า ปฏิบัติบูชา แต่การกระทำคำพูด กลับเป็นตรงกันข้าม ไม่ใช่อย่างนั้น
.
เทศน์ไม่นานเพื่อให้พอดีกับเวลา แต่ได้รายละเอียดครบถ้วนพอเหมาะพอดีกับสถานการณ์ตรงจุดนั้น มีพระอาจารย์สิทธิโชค ท่านกรุณามาเป็นพระวิทยากรให้ความรู้แก่คณะเกี่ยวกับถ้ำเอลโลร่า ถ้ำอาชันต้าด้วย ท่านมีความรู้แน่นมากทีเดียว ขอขอบคุณท่านไว้ ณ ที่นี้
Day-3
7 มีนาคม 2567 ถ้ำอาชันต้าอยู่ห่างจากเมืองออรังกาบาด
 
ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ 110 กม. รถวิ่ง 2.30 ชม. (ถ้ำปิดทุกวันจันทร์) เป็นถ้ำที่เป็นประติมากรรมในพระพุทธศาสนาที่งดงามและเก่าแก่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนเทือกเขาอินทิยาทรี เมืองออรังกาบาด มีถ้ำทั้งหมด 30 ถ้ำ ถ้ำยุคแรก ๆ เป็นพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท ยุคหลังเป็นของฝ่ายมหายาน
.
ถูกสร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ.350-1200 ค้นพบโดยจอห์น สมิธ ในปี พ.ศ.2362 และองค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกในปี พ.ศ.2527
.
เราเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ ปี 2559 มาครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ปี 2567 ได้พระอาจารย์สิทธิโชค เป็นพระวิทยากรนำชมแต่ละถ้ำที่เป็นจุดสำคัญ ท่านบรรยายให้ความรู้แก่คณะได้ดีมาก ได้พาคณะนั่งภาวนา 30 นาที ถวายเป็นปฏิบัติบูชา เทศน์เน้นย้ำเรื่องของการทำจิตให้สงบที่จำเป็นต้องมีศีลเป็นพื้นฐานแห่งคุณธรรมเบื้องต้น ให้กำลังใจที่จะปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ได้อย่างไร
.
ถ้ำที่เป็นไฮไลท์ของที่นี่ คือ ถ้ำ 26 เป็นถ้ำใหญ่แกะสลักพระพุทธรูปเล่าเรื่องราวพุทธประวัติไว้พอสังเขป พาคณะเดินทำประทักษิณรอบพระพุทธรูป 3 รอบ พร้อมสวดอิติปิโส สวากขาโต สุปฏิปันโน เป็นบทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ถวายเป็นพุทธบูชา นั่งภาวนาที่นี่ได้ไม่นาน เพราะเป็นจุดสำคัญที่มีคนเข้าชมเรื่อย ๆ
.
มีภาพถ่ายที่มีลายเซ็นของ จอห์น สมิธ ผู้ค้นพบถ้ำแห่งนี้ด้วย ใครสนใจก็ดูในภาพที่ลงไว้ จะทยอยนำภาพมาลงเรื่อย ๆ
.
กราบนมัสการถ้ำสุดท้ายแล้ว ก็กล่าวคำขอขมาพระรัตนตรัย ลาแล้วถ้ำอาชันต้า ถ้ามีบุญมีวาสนาค่อยมาใหม่ ทุกสรรพสิ่งที่เกี่ยวข้องกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนอบน้อมถวายความเคารพอย่างไม่มีวันจืดจาง
.
จากนั้นก็เดินกลับลงมาขึ้นรถเดินทางกลับที่พักที่โรงแรม Fern Hotel คณะได้รวบรวมปัจจัยถวายพระอาจารย์สิทธิโชค เพื่อช่วยท่านซื้อที่ดินสร้างวัดที่หน้าถ้ำอาชันต้า 32,000 บาท จากนั้นก็ร่ำลากันไป
.
ถึงเวลาก็ต้องจากกัน มีบุญวาสนาร่วมกันจึงได้มาเจอกัน ถ้าไม่มีบุญวาสนาร่วมกัน ต่อให้เดินชนกันก็ไม่รู้จักกันหรอก ทุกอย่างในโลกเกิดขึ้นเพราะมีเหตุ เมื่อหมดเหตุก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา ถ้าเราเข้าใจความจริงของทุกสิ่ง ก็จะรู้ว่า ไม่มีอะไรให้เรายึดถือไว้ได้เลย