
"พระพุทธรัชมหามงคลธรรมบดี" ปิดทองเสร็จแล้ว ถ้าจะนับเวลาตั้งแต่เริ่มเททองหล่อพระประธาน ที่จะประดิษฐานในอุโบสถวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี พ.ศ.๒๕๔๘ โดยคณะศรัทธาญาติโยมจากทั้งกรุงเทพและเชียงใหม่ ร่วมทำพิธีเททองหล่อพระประธาน ณ โรงหล่อธรรมรังสี (ช่างแก้ว) โดยมีครูบาอาจารย์ที่นิมนต์มาร่วมพิธีไม่ต่ำกว่า ๕๐ รูป จนกระทั่งมาบัดนี้ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๒ เป็นวันที่พระประธานได้ปิดทองเสร็จสิ้นสมบูรณ์บริบูรณ์อย่างงดงาม นับรวมเวลาได้ถึง ๔ ปีกว่าเลยทีเดียว ถือเป็นการเดินทางอันยาวไกลมิใช่น้อย กว่าจะมาถึงวันนี้ และมาประทับนิ่งอย่างสง่างามอยู่บนแท่นหินอ่อน ภายในอุโบสถวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดเมตตาประทานนามให้ว่า "พระพุทธรัชมหามงคลธรรมบดี" เพื่อความเป็นสิริมงคลอย่างสูง และกว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ได้ ก็ต้องเหยียบย่ำมาบนเส้นทางอันแสนทุรกันดารอย่างยิ่งเลยทีเดียว เพราะพระประธานได้สร้างขึ้นก่อนโดยที่โบสถ์ยังไม่ได้เริ่มทำการก่อสร้าง จนกระทั่งวันนี้โบสถ์ได้ทำการก่อสร้างไปได้กว่า ๘๐% แล้ว แม้จะยังไม่แล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ แต่ก็พอเป็นไปอย่างช้าๆ และน่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในปี ๒๕๕๓ สำหรับศรัทธาญาติโยมที่ได้ร่วมกันก่อสร้างทั้งพระประธานและอุโบสถวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน หลายท่านเสียสละกำลังกาย หลายท่านเสียสละกำลังทรัพย์ รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า ๗ ล้านบาทในขณะนี้ เมื่อได้ชมความงามของพระประธานและอุโบสถแล้ว ก็คงปลาบปลื้มและอิ่มเอิบใจกันในระดับหนึ่ง และจะเกิดปิติยินดีอย่างยิ่งยวด เมื่อวันที่อุโบสถเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทำพิธีผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย เป็นความสมบูรณ์ทั้งในแง่กฎหมาย และในแง่พระธรรมวินัย ซึ่งวันนั้นกำลังเดินทางใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา... มาชมภาพความงามกันเลยดีกว่า พระอัครสาวกซ้าย-ขวา สร้างเป็นคู่สาวกของพระเชียงแสน สิงห์หนึ่ง ซึ่งประดิษฐาน ณ ชั้นล่างของพระอุโบสถ ปิดทองเสร็จพร้อมกัน
ให้ดูภาพย้อนหลังตอนที่ช่างยังปิดทองไม่แล้วเสร็จ กว่าจะถึงวันนี้ วันที่ช่างเดินทางมาปิดทองที่วัดได้ ก็เจอกับโรคเลื่อนมาหลายครั้ง ทั้งที่ได้อัญเชิญพระประธานมาประดิษฐานแล้ว ตั้งแต่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๕๒ และศรัทธาญาติโยมก็ร่วมกันบริจาคทองคำเปลวเกรดเอคัด ๑๐๐% จำนวน ๕ หมื่นแผ่น มารออยู่ที่วัดแล้ว แต่ก็มาติดขัดตรงที่ช่างปิดทองยังไม่ว่างที่จะมา เนื่องจากมีงานเข้าเยอะมาก ก็เลยไม่ว่างสักที ช่างปิดทองก็เป็นลูกสาวของช่างแก้ว เจ้าของผู้ก่อตั้งโรงหล่อธรรมรังสี (ซึ่งบัดนี้ช่างแก้วก็ได้ละสังขารล่วงลับจากโลกนี้ไปแล้ว คงฝากไว้แต่ผลงานการปั้นพระพุทธชินราชฝีมือชั้นเยี่ยมอยู่ในวัดดังหลายๆวัด วัดที่มีพระพุทธชินราชงดงาม อาทิเช่น วัดอโศการาม (ท่านพ่อลี) วัดเขาน้อยสามผาน (หลวงปู่ฟัก) วัดป่าไชยชุมพล (อ.จีรวัฒน์) ล้วนสำเร็จด้วยฝีมือของช่างแก้วแห่งโรงหล่อธรรมรังสีนี่เอง (ที่อื่นๆอีกมาก) ตอนนี้ก็มีลูกชายคือ เปี๊ยก แป๊ก และลูกสาวสืบทอดมรดกฝีมืองานปั้นของช่างแก้วไว้ได้อย่างดี ส่วนจะดีแค่ไหน ก็ดูพระประธานในรูปละกัน)
|