
หลวงตามหาบัว ผิดหวัง นายกทักษิณ เสียใจเคยอุ้มชู คิดว่ารวยแล้วจะไม่โกงไม่รีดไม่ไถ
“หลวงตามหาบัว” ผิดหวัง “ทักษิณ” อย่างรุนแรง ยอมรับเสียใจที่เคยอุ้มชูเพราะเห็นว่ารวยแล้วคงไม่โกง หวังจะให้มาช่วยคนยากคนจน แต่พอได้เป็นนายกฯ กลับยังโลภ คดโกงไม่รู้จักพอ ครอบครัวตัวเองร่ำรวยเป็นเศรษฐี แต่ชาวบ้านเดือดร้อนไปทั่ว
เมื่อเวลา 15.40 น.วันนี้ (16 ก.พ.) พระธรรมวิสุทธิมงคล หรือหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ได้เทศนาอบรมฆราวาส ณ สวนแสงธรรม กรุงเทพฯ ในหัวข้อ “ธรรมนำโลก” โดยหลวงตามหาบัวได้แสดงความผิดหวังในตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่หลวงตาเคยอุ้มชูช่วยเหลือ เพราะเห็นว่าเป็นคนที่มีความพร้อมเรื่องทรัพย์สมบัติ หวังจะให้มาเป็นผู้นำช่วยเหลือคนยากคนจน ไม่คิดว่าจะมากอบโกย แต่ตอนนี้กลับยังกอบโกยไม่รู้จักพอ ซ้ำไม่ฟังใคร กลายเป็นเศรษฐีเหม็นคลุ้งสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว
คำเทศนาโดยละเอียดของหลวงตามหาบัว มีดังนี้
“นี่ละเรื่องธรรม เป็นอย่างไรธรรม ธรรมพอ โลกนี้ไม่พอ เห็นไหมที่เขาโจมตีนายกฯ อยู่เวลานี้ เราพูดชัดๆ อย่างนี้ละ นายกฯ คนนี้ก็เป็นนายกฯ ที่สมบูรณ์พูนผลทุกสิ่งทุกอย่าง ควรที่จะเป็นผู้นำพี่น้องทั้งหลายที่ยากจนในประเทศไทยของเราได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย โดยไม่ได้มาเกี่ยวกับเจ้าของที่จะไปรีดไปไถเขาแบบใดๆ เลยนะ จะเรียกว่าเรา จะว่าเราเผลอตัวก็ได้ นายกฯ คนนี้เราเป็นผู้อุ้มขึ้น เหตุที่เราอุ้มขึ้นมาก็เพราะเห็นความยากจนของประชาชนและถูกรีดถูกไถตลอดมา วาระสุดท้ายก็ถูกรีดไถเสียจนจะไม่มีเงินค้างคลังหลวงเลย ถึงขนาดที่เราได้ห้ามในคลังหลวงรวมบัญชีไม่ให้รวม เข้าใจไหมละ ใครไปห้ามละ เราก็ห้าม นี่มันหนักขนาดบ้านเมืองนี้ล่มจมลงไป ทำอย่างไร ผู้ใดที่จะพออาศัยได้บ้าง
เราก็มองเห็นคุณทักษิณนายกฯ เรานี่ นี่พูดออกจากนี้ให้มันชัดทั่วประเทศไทย เราไม่ได้คิดธรรมมากนะ เราคิดทางด้านวัตถุมาก สกุลนี้เป็นสกุลที่มั่งคั่งสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศไทย เป็นสกุลที่ควรจะได้ให้บรรดาพี่น้องชาวไทยที่ยากจนได้อาศัยพอสมควร เราจึงอุ้มคนนี้ขึ้นมา เพราะว่าคนนี้เป็นผู้ที่สมบูรณ์พูนผลแล้วจะมีแต่การสงเคราะห์โลกช่วยโลกโดยถ่ายเดียวๆ เจ้าของไม่หิวโหยพอที่จะมาหากอบหาโกยออกจากผู้ใด เพราะมีแล้วโดยหลักธรรมเป็นอย่างนั้นนะ
ทีนี้มันไม่ไปตามหลักธรรมละซิ เดี๋ยวนี้มันฟังเสียงที่ไหน มันก็หูคน หูคนด้วย หูธรรมด้วยนะ ใจธรรมด้วย ไปที่ไหนฟังว่าเดือดร้อนกันไปทั่วทุกแห่งหนตำบล เศรษฐีทำไมทำความเดือดร้อนแก่โลก และเจ้าของมาเป็นเศรษฐีกลายเป็นเศรษฐีที่เหม็นคลุ้งทั่วประเทศไทย แน่ะ เศรษฐีเน่าเฟะ พอไปที่ไหนมีแต่คนชี้หน้าชี้ตา ชี้ลับหลัง ชี้ทุกแบบทุกฉบับด้วยความรีดไถคดโกงแบบนั้นแบบนี้ ไม่มีใครเกินเศรษฐีเงินไปโกงเขา ด้วยความอยากไม่พอ มันกระเทือนมาถึงใจเรา เราจึงพูดอย่างนี้เอง
เรายกขึ้นเองเพื่อจะให้ช่วยชาติบ้านเมือง จึงไม่ค่อยคำนึงเรื่องอรรถเรื่องธรรมว่าควรหรือไม่ควรนัก เพราะฐานะเขามันสูงมากอยู่แล้ว เราจึงไม่เอาธรรมเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็เห็นว่าฐานะมากแล้วจะไม่ยุ่งกับใคร มีแต่จะช่วยโลกเต็มเม็ดเต็มหน่วย เราคิดอย่างนั้น เราจึงอุ้มขึ้นมาให้เป็น เมื่อเป็นไปแล้วมันกลับตรงกันข้ามกับที่เห็น จนกลายเป็นเศรษฐีเหม็นคลุ้งทั่วประเทศเขตแดน เศรษฐีมีอยู่ที่ไหนเป็นที่ชื่นชมยินดีของประชาชนทั่วโลกดินแดน แต่เศรษฐีในเมืองไทยเราทำไมเป็นเศรษฐีที่เหม็นคลุ้งทั่วโลก เน่าเฟะทั่วโลก เป็นความเดือดร้อนแก่ประชาชนด้วยความเป็นเศรษฐีของซากศพเน่าเฟะในท่ามกลางแห่งประเทศไทยอย่างนี้น่ะ มันก็พูดได้ซีเรา
นี่มันเป็นอย่างนี้นะความโลภ ฟังซิความโลภ มันได้พอเมื่อไร ไม่พอ ได้เท่าไรไม่พอความโลภนะ โลภเอาเสียทุกสิ่งทุกอย่าง มันฟังไม่ได้นะกับธรรม จึงพูดออกมาอย่างนี้ละเรา ทีนี่จะหาผู้แทนที่ไหนอีก เราก็คาดผิด เรายอมรับว่า เราคาดผิด เพราะเราไม่ได้เอาธรรมเข้าไปจับเหมือนสิ่งทั้งหลาย สิ่งทั้งหลายเราเอาธรรมจับพิจารณาเสียก่อนทุกอย่างให้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วออกๆ อันนี้เราบกพร่อง เราไม่ค่อยใช้ธรรมพินิจพิจารณานัก เอาวัตถุเห็นว่ามีความแน่นหนามั่นคงอยู่แล้ว ร่ำลือมาทั่วประเทศเราเป็นเวลานานแสนนาน จึงหลงคิดลืมคิดไปว่าจะไปรีดไถใครหรือไม่ คิดอย่างเดียวว่าทีนี้จะไม่รีดไถละเพราะเขามั่งมีแล้ว มีแต่จะช่วยโลก สมบูรณ์พูนผล แล้วมันกลับเป็นอย่างที่เห็น เห็นไหมละ อย่างนี้ละจึงทำให้เราคิด เราผิดไป คือเรามองวัตถุ ข้ามธรรมไป
ทีนี้เวลาวัตถุแสดงพิษภัยขึ้นมาธรรมจึงขึ้นมารับ มันสายไปเสียแล้ว เป็นอย่างนี้ละ โอ๋ยทุเรศนะเรา นี่ละกิเลสตัณหามันไม่พอนะ ทีนี้ธรรมเป็นอย่างไร เอายันเลยนี่ พอ เราพอทุกอย่าง เราไม่เอาอะไร บรรดาประชาชนมาถวายปัจจัยไทยทานมากน้อยเพียงไรออกช่วยโลกทั้งนั้น ไม่มี เราไม่เอาอะไรเลย เราจึงกล้าพูด ยันกันได้กับโลก โลกนำโลกนำเพื่อความล่มจม ธรรมนำโลกนำเพื่อความฟื้นฟูจริงๆ อย่างที่เรานำ เราไม่คุย เราทำย่างนี้ตลอดมา เราบริสุทธิ์ในหัวใจเราตลอด แม้แต่คิดออกมาแว็บ อะไรเป็นผิดมันจะปัดของมันทันที ปัดของมันทันที ไม่นำออกใช้เลย ถูกต้องแม่นยำแล้วออกใช้ตามกิริยาของธรรมที่เราเห็นว่าถูกต้องมากน้อยเพียงไร จะออกตามนั้นๆ เรื่อยมาอย่างนี้ เราช่วยโลกอย่างนี้เหมือนกันนะ นี่ละธรรมกับโลก”
โดยผู้จัดการออนไลน์ 16 กุมภาพันธ์ 2549 19:10 น.
|