
24พย54 ที่คลองบางแวก คลองบางไผ่-บ.สิริเกษม 24พย54 ช่วยที่คลองบางแวก คลองบางไผ่-บ.สิริเกษม ทราบว่าแถบคลองบางไผ่มีชุมชนหนาแน่น ส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงานอยู่ตามชุมชน ซึ่งเมื่อน้ำท่วมโรงงานปิดก็ขาดรายได้ ชาวบ้านอีกส่วนก็เป็นชาวสวนซึ่งก็ประสบความเดือนร้อนเช่นเดียวกับชาวสวนทุกที่ที่ต้องหมดไปกับสายน้ำ วันนี้จึงได้วางแผนไปที่นี่ วันนี้เริ่มที่โรงทานหลวงตามหาบัวที่วัดดวงแข มีอาสาสมัครมาช่วยกันมาก ได้ขออาหารจากโรงทานหลวงตา 1,500 ชุด เพราะไปในพื้นที่ที่มีชุมชนหนาแน่น แต่ก็ต้องช้ากว่าทุกวันเพราะต้องรอคิวอาสาสมัครที่รีบด่วนได้ขออาหารไปก่อน กว่าจะได้อาหารก็บ่ายแล้ว ต่อแถวนำอาหารขึ้นรถ สังเกตุดู วันนี้มีชาวต่างชาติมาเป็นอาสาสมัครด้วย พอประกาศรับอาสาสมัครเพื่อลงพื้นที่ ก็ปรากฎดังภาพที่เห็น ทำให้ต้องรื้อภาษาอังกฤษในสมองออกมาอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีที่มีน้องอีกคนเก่งภาษา ก่อนเดินทางได้แจ้งทุกครั้งว่า ในพื้นที่ที่ไปช่วยผู้ประสบอุทกภัย อาจได้พบจระเข้อย่างใกล้ชิดโดยไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตูสวนสัตว์ เพราะมีชาวบ้านได้เห็นมาก่อนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครถอย (หวังว่าอาสาสมัครชาวต่างชาติที่ฟังภาษาไทยไม่ได้ คงเข้าใจถูกต้อง) ถึงถนนพุทธมณฑล สาย 1 แล้ว วันนี้น้ำแห้งเกือบสนิท ข้างหน้ามีนิดหน่อย บริเวณพื้นที่สูงก็ยังมีรถจอดซ้อนกันอย่างแน่นหนา คงเพราะตามซอยส่วนใหญ่ยังมีน้ำท่วมขัง ตลาดเปิดใหม่ที่ไม่ต้องขออนุญาตจากเทศบาลและไม่ต้องกลัว กทม.มาไล่จับ และเปิดได้ตามใจชอบโดยไม่ต้องเสียค่าตั้งแผง ตลาดกลางถนนเป็นที่นิยมกว่าร้านสะดวกซื้อที่ถูกน้ำท่วมในยามนี้ เลยตลาดไปไม่ไกลก็พบว่ายังมีน้ำท่วมขังอยู่ ขออภัย ช่างกล้องมือใหม่ลืมตั้งค่าก่อนถ่าย ในซอยปรากฎยังมีน้ำท่วมขังสักครึ่งแข้ง สวนกล้วยไม้ที่เป็นอาชีพเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของชาวบ้าน บัดนี้เหลือแต่ต้นกล้วยที่ใกล้ตาย ถึงท่าเรือแล้ว ชาวบ้านมาคอยตามคาดหมาย ชาวบ้านแห่กันมาปิดท่าเรือโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งคราวนี้รู้อยู่แล้วจึงเตรียมอาหารมาเยอะ เอื้อมกันจนสุด หนักก็หนัก กลัวตกน้ำก็กลัว อาสาสมัครชาวแคนาดาได้เรียนรู้การลงเรือท้องกลมของไทยที่พร้อมพลิกได้ทุกเมื่อ หากไม่รู้วิธี และอีกเสี้ยววินาทีหลังจากถ่ายภาพนี้ เรือก็เกือบล่ม... พายเรือเข้ามารับของไม่ได้ก็ต้องใช้วิธีส่งต่อ บรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนานและตลกขบขัน ทั้งส่งทั้งเอิ้อมยังไงก็ไม่ถึง เรือก็จะล่ม ตะโกนเรียกกันขรมเพราะชาวบ้านแถวนี้รู้จักกันหมด วันนี้ได้เรียนรู้ว่า นอกจากน้ำท่วมทำให้รถติดแล้วก็ยังทำให้เรือติดได้ หลังจากชาวบ้านได้อาหารแล้วก็ยังพายเรือไปไหนไม่ได้ ขณะกำลังเก็บภาพชาวบ้าน ได้ยินเสียงเฮ...มาจากอีกฝั่ง หางตาได้เหลือบเห็นอะไรลอยแหวกอากาศ ก็ได้ซูมกล้องตามอย่างรวดเร็วตามภาษานักแม่นปืนเก่า ใครรู้บ้างว่าลูกอะไร ? ทายถูกจะให้มะม่วง 1 ใบ ใช่แล้ว! มะม่วงเขียวเสวย ขนส่งทางอากาศคู่แข่ง Fedex แต่ไม่แพง มะม่วงไปทางชายเสื้อดำที่ไม่ได้ตั้งท่ารับ แต่ดูท่าแล้วเหมือนเตรียมจะโหม่งมากกว่า สงสัยสัญชาติญาณนักบอลเก่า ชาวบ้านทั้งมาทั้งกลับ ทำให้คลองดูเล็กไปถนัดตา วันนี้มีเด็กมามาก คงเพราะมาแจกนมผงหลายครั้ง จนชาวบ้านรู้กันดีก็เลยพาเด็ก ๆ มาด้วย เพื่อลูกน้อยที่รอคอย เรือที่จ้างไว้เดินทางมาถึงพอดี ได้เวลาบอกลาน้องหมา คุณปู่พายเรือตามมา พาลูกสาวกับหลานพร้อมกับความหวัง ซึ่งมีทั้งนมกล่อง นมผง ผลไม้ ข้าวและกับพร้อมทานที่เตรียมไว้ให้ น้าคนนี้เป็นชาวสวน ไม่มีเรือเพราะบ้านไม่ได้อยู่ติดคลอง ได้อาศัยยางในรถบรรทุกใส่กาละมังตรงกลางมาขอรับอาหารในคราวน้ำท่วม ขนของลงเรือ เวลาเริ่มเย็นแล้ว ชาวคลองบางแวกก็ยังหนาแน่น ที่กำลังมาก็มี ในที่สุดก็มีทีมงานเสียสละอยู่แจกของที่ท่าน้ำ อีกส่วนก็ลงเรือไปแจกที่คลองบางไผ่ต่อ รวมทั้งชาวแคนาดา อาสาสมัครใจดีที่กำลังร่ำลาชาวบ้านก่อนเดินทาง คุณใหม่ อาสาสมัครที่เป็นคนในย่านนี้ ได้อธิบายว่า ปกติน้ำจะต่ำกว่าคันกั้นน้ำ 1 เมตร แต่ตอนนี้น้ำปริ่มคลอง สังเกตุเห็นบ้านชาวบ้านหลายหลังยังจมน้ำ แต่ไม่สูงแบบคราวที่แล้ว ผ่านบ้านแถบคลองบางแวกไปค่อนข้างเร็ว เพราะชาวบ้านได้เดินทางไปรับที่ท่าน้ำเมื่อครู่กันแล้ว เข้าสู่เขตคลองบางไผ่ที่อยู่ไกลออกไป ก็โพล้เพล้พอดี ถึงชุมชนหนึ่งในย่านนี้ หลังจากแจกเสร็จก็เดินทางต่อ ไปถึงศูนย์อพยพซึ่งตั้งในโรงเรียน...ย่านคลองบางไผ่ เด็กหญิงกับเพื่อนเล่นกันอยู่ท่าน้ำพอดี ไปตามผู้ใหญ่ที่ดูแลศูนย์ มีอยู่ด้วยกันประมาณเกือบสองร้อยคนรวมทั้งเด็กเล็ก ก็ได้จัดอาหารไปตามจำนวน ผลไม้ พร้อมนมผงสำหรับเด็กเล็ก มีเต้นท์เปิดไฟอยู่กลางสะพาน ลักษณะนี้เป็นที่อยู่ของผู้อพยพที่บ้านถูกน้ำท่วมไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ผู้คนเหล่านี้ค่อนข้างลำบาก ไม่มีน้ำประปา ห้องน้ำ เป็นกลุ่มที่เข้าไปช่วยเหลือทุกครั้งที่พบ แจกอาหาร ผลไม้ นมUHT นมผงเด็กอ่อน แจกไปก็ต้องคอยระวังไป เพราะเรือไม่มีสมอ ไม่สามารถจอดนิ่ง ๆ ได้ ถ้าเผลอเรือลอยเข้าใต้สะพาน คนแจกก็ต้องตกเรือ คุณเก็ตผู้ชำนาญการ อาศัยโทรโข่งเรียกชาวบ้านมารับของแจก อาสาสมัครชาวแคนาดากับน้องที่เป็นล่ามเรียนรู้งานและช่วยกันทำหน้าที่ได้ดีมาก พบกลุ่มผู้อพยพอีกสะพานแต่สะพานนี้สูงกว่า ส่งของได้ยาก ได้เรียกให้ตัวแทนพายเรือมารับ เรือลำนี้ไม่ใช่ผู้แทนกลุ่มอพยพบนสะพาน แต่เป็นผู้โดยสารที่ผ่านมาขอรับอาหารมื้อเย็น บางทีเราก็ไม่สามารถรู้ได้ ว่าชาวบ้านบางคนในเรือลำนี้อยู่สภาพเดียวกันกับผู้อพยพบนสะพานหรือไม่ ตัวแทนผู้อพยพบนสะพาน พร้อมไฟนำทางเรือติดตั้งแบบพิเศษที่มาพร้อมรอยยิ้ม (ระวังไฟฉายตกด้วย) ช่วยกันรับส่งของให้กันด้วยความยินดี บ้านนี้น้ำเข้าบ้านไม่ต่ำกว่าต้นขา และเป็นบ้านชั้นเดียวทำให้ไม่สามารถอาศัยได้ อีกทั้งแถบพุทธมณฑลก็มีคนพบเห็นจระเข้เป็นประจำ อาจเป็นสาเหตุให้เจ้าของบ้านตัดสินใจย้ายออก และบางทีอาจอยู่บนสะพานเมื่อครู่ก็ได้ คิดว่าต้องกลับมาช่วยอีก กำลังตกปลา...ถ้าหลวงตายังอยู่และมาพบ ท่านจะพิจารณาอย่างไรนะ ? เพราะต่างก็ชีวิตหนึ่งเช่นกัน ถ้ายังต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ก็อาจได้เกิดมาเป็นปลาให้คนตกไปกินชดใช้กรรม ก็จนใจ เพราะชาวบ้านก็ตกอยู่ในสภาพยากลำบากเหมือนกัน อาหารที่นำมาแจกมีมาพร้อมกับข้าว ผลไม้ หวังไว้ว่า อาจทำให้เปลี่ยนใจไม่ต้องตกปลาฆ่าสัตว์มาเป็นอาหารสำหรับมื้อนี้ กำลังพยายามถ่ายภาพยุงบนผิวน้ำที่มีอยู่ตามคลองที่ผ่านขณะล่องเรือ ซึ่งอาจมีนับหมื่นนับแสนตัว (แต่ได้ภาพดังที่เห็น) เวลาคุยไม่กล้าหันไปทางหัวเรือเพราะยุงจะเข้าปาก เดี๋ยวจะฆ่าสัตว์และอิ่มโดยไม่ตั้งใจ ถ่ายรูปยุงแต่เห็นเป็นดวงกลม ถ้าอธิบายตามหลักของคนชอบเดาอาจเพราะภาพไม่เข้าโฟกัส และโดนแฟลซทำให้แสงกระจาย วิ่งเรือมาไกลจากท่าน้ำมาก จากพุทธมณฑลสาย 1 ผ่านสาย 2 มาสักระยะ ใช้เวลาเป็นชั่วโมง บังเอิญมาพบบ้านชาวบ้านที่ยากจน สอบถามดูก็ปรากฎว่าไม่มีคนเข้ามาช่วย (ถ้าเป็นเช่นนี้ คิดว่าต้องทานมะพร้าวแทนข้าว) พายเรือทำจากโฟมมารับอาหาร ถ้าไม่มีคนเข้ามาช่วย มะพร้าวอาจเป็นที่พึ่งสุดท้ายได้ สภาพบ้านเรือนจมน้ำอีกหลังของชาวบ้านแถบนี้
ชาวบ้านแถบนี้ยังอยู่ในบ้านได้เพราะนำไม้กระดานมาต่อให้พ้นน้ำ และยังดีที่มีไฟฟ้า และต้นไม้ที่ยังไม่ตาย พอให้ได้อาศัยร่มเงาในเวลาเที่ยงวัน และหลบลมในเวลากลางคืน บ้านชั้นเดียวหลังนี้ก็ท่วมหนัก แต่ก็ยังมีคนอยู่ คุณน้าพายเรือออกมารับอาหาร ได้สืบถามดูปรากฎว่ามีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในคลองซอยเล็ก ๆ ด้านข้างมีอยู่อีกราว 20 กว่าหลัง ซึ่งเรือใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้ คุณน้าจึงอาสานำอาหารไปแจกต่อ สภาพบ้านอีกหลังที่จมน้ำ และเจ้าของบ้านที่กำลังพายเรือมาขอรับอาหารหลังจากได้ยินประกาศทางโทรโข่ง
มาอีกลำ มีหมามาด้วย น้องหมาในย่านริมคลองนี้แทบทุกตัวจะนั่งเรือแบบกลัว ๆ สังเกตุหางตก และหน้าตาบ่งบอกถึงความวิตกกังวลอย่างยิ่ง (คงเคยตกน้ำกันมาแล้ว) ด้านหลังเห็นไกล ๆ นึกว่าคนขับ ที่แท้ ...(ดูภาพล่าง) น้องหมาอยู่หลังเรือ... เรือลำนี้เป็นเรือขุด คงตกทอดมาจากรุ่นคุณตาคุณยาย เพราะสมัยนี้ในย่านปริมณฑลไม่มีต้นไม้ใหญ่ขนาดนี้ เป็นเรือที่ยาว เก่าแก่ หาดูยาก ถ้ามาตั้งในเมืองอาจมีคนมาขูดหาหวย บ้านหลังนี้น้ำท่วมเกือบระดับเอว บ้านชั้นเดียวปิดไฟมืดแต่ยังมีคนอยู่ อาสาสมัครได้จัดของไปให้ เพราะน้ำยังอยู่สูง บ้านนี้จึงต้องมุดกอไม้เพื่อแจกอาหาร คุณลุงท่านนี้อาศัยแผ่นไม้วางบนโฟมแทนเรือเพื่อมารับอาหาร ผ่านบริเวณสวนมะพร้าว เข้าสู่เขตชุมชนขนาดใหญ่ ชาวบ้านใช้ต้นเสามาทำเป็นที่จอดรถและรถมอเตอร์ไซด์เพื่อหนีน้ำ หลังจากประกาศก็เริ่มออกมารับอาหาร คุณน้าคนนี้ลงทุนลงน้ำเพื่อจูงเรือพาคุณแม่มารับอาหาร เวลาก็ 19:51 น.แล้ว จุดที่เดินคงไม่ใช่คลองแต่น่าจะเป็นสะพานริมน้ำ คุณน้ายอดกตัญญู อนุโมทนาด้วยนะ ทะยอยกันมารับของเรื่อย ๆ คนบ้านใกล้เรือนเคียงฝากมารับ ไปต่อ ผ่านบ้านทาว์เฮาส์สลับกับบ้านสังกะสี แถบนี้ได้ฝากไปแจกเมื่อครู่แล้ว มีสะพานอยู่ข้างหน้า ดูแล้วต่ำมาก ไม่แน่ใจว่าเรือจะลอดได้หรือไม่ สะพานต่ำไป เรือไม่สามารถลอดได้ สอบถามชาวบ้าน จึงทราบว่าที่นี่คือชุมชนสิริเกษม คนที่นี่เคยไปรับอาหารแจกฟรีของหลวงตามหาบัว ที่สวนแสงธรรมบ่อย ๆ เพราะส่วนใหญ่เป็นพนักงานโรงงาน รายได้ไม่สูงมากนัก น้าผู้หญิงคนนี้ที่บ้านน้ำไม่ท่วม ได้ให้คนในชุมชนที่บ้านถูกน้ำท่วมมาอาศัย จึงได้เป็นหัวหน้าชุมชนไปโดยปริยาย ได้เล่าว่าที่นี่เป็นชุมชนใหญ่หลายร้อยหลังคาเรือน ต่างคนก็กำลังเดือดร้อน จึงได้รวมตัวช่วยเหลือกัน แต่ก็ไม่ค่อยพอทาน ทางคณะจึงได้จัดอาหารชุดใหญ่ไปให้ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับ หมาติดเกาะ 2 ตัวนี้ได้พบตั้งแต่คราวที่แล้วแต่อาหารไม่พอ ตั้งใจจะนำอาหารมาให้กินในครั้งนี้ หลังจากนั้นก็ตรงมาที่ชุมชนราชมนตรี ที่นี่มีคนมากมายเพราะเป็นชุมชนใหญ่มีคนอยู่อาศัยหลายร้อยคน คนในชุมชนทะยอยกันมารับอาหาร อาหารที่เหล่านี้จะมีตัวแทนชุมชนไปแจกต่อ เพื่อกระจายให้ทั่วถึงกัน บ้านสุดท้าย กลับถึงวัดดวงแขเพื่อส่งอาสาสมัคร เวลา 22:49 น. กลับถึงที่พัก 5 ทุ่มเศษ วันนี้ไปไกลกว่าวันก่อน ได้ทราบว่าการเดินทางโดยเรือล่าช้ากว่ารถยนต์มาก แต่การที่ได้เดินทางอย่างไม่รีบร้อนก็ทำให้การแจกชาวบ้านเป็นไปอย่างทั่วถึง อาหาร 1,500 ชุดได้หมดลง เป็นอาหารเพื่อปากท้องของคนนับพัน ขออนุโมทนาทุกท่านที่มีส่วนร่วม เสียสละกำลังทรัพย์ แรงกาย แรงใจ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมมา ณ ที่นี้
|
![]() ![]() ![]() ![]() |