ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 8 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


25พย54 ช่วยที่คลองบางไผ่-บ.สิริเกษม-บ.ชัฎดาวิลล่า สวนแสงธรรม

25พย54 ช่วยที่คลองบางไผ่-บ.สิริเกษม-บ.ชัฎดาวิลล่า สวนแสงธรรม

            เมื่อวานได้ไปมอบอาหารให้ผู้ประสบอุทกภัยแถบคลองบางไผ่ ได้พบชาวบ้านริมคลองจำนวนมากที่อยู่รวมตัวเป็นชุมชน รวมทั้งชาวบ้านอีกกลุ่มที่ยากจน วันนี้จึงตัดสินใจไปที่นั่นอีกครั้งเพื่อให้ความช่วยเหลือ โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือ สวนแสงธรรม เพราะได้รับแจ้งจากคุณนวลที่ดูแลสวนแสงธรรมว่ามีผู้เดือดร้อนอยู่ในแถบพุทธมณฑล สาย 3 ซึ่งเป็นกลุ่มชาวบ้านที่หลวงตามหาบัวเคยให้ความช่วยเหลือมาตั้งแต่ก่อนน้ำท่วม

 

           วันก่อนแจกนมหมดทั้งนมผงทารกและนมUHT จึงได้เข้าไปหาซื้อเพิ่มเติม รวมทั้งยาสีฟัน ขนม และอาหารสุนัข 1 กระสอบใหญ่ หมดไปเกือบ 8,000 บาท (ทำใจอยู่พักหนึ่ง)

มาตรวจบัญชีดู ปรากฎว่าเจอต้นเหตุ ซึ้อนมผงดูมิลค์รสจืดไป 3,024 บาท

คือ ตอนซื้อคิดถึงแต่ความจำเป็น ดีที่มีคนรู้จักร่วมบุญมาด้วย

 

หลังจากนั้น ตรงมาที่นี่ 

ที่เห็นเป็นชั้น ๆ  เห็นมาหลายครั้งแต่ไม่มีเวลาเข้าไปดู วันนี้ได้เข้าไปดูใกล้ ๆ

            เป็นซึ้งหุงข้าวสวย ถามคนหุงดูปรากฎว่าซึ้งนี้หุงข้าวได้ครั้งละ 30 กก.(นน.ข้าวสาร) ช่วยให้หุงข้าวได้เร็วขึ้นมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ไม่รู้ใครเป็นคนคิด ทราบว่าเป็นของยืมมาจากโรงทานวัดสังฆทาน อนุโมทนาสาธุ

ถือเป็นนวัตถกรรมใหม่ที่ช่วยชาวโลกได้ เพราะต่อไปไม่รู้ว่าจะมีภัยธรรมชาติอะไรมาอีก

ชักที่ครอบซึ้งลงมา เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาก

วันนี้คนมาช่วยกันมากเหมือนเดิม

เตรียมข้าวห่อมากขึ้น เพราะวันนี้มีเรือไว้ 2 ลำ เพื่อช่วยกระจายกันแจก

ในภาพกำลังลำเลียงของขึ้นรถ

ขออนุญาตถ่ายรูปคุณป้า อายุ 60 กว่าก็ยังมาช่วย เห็นเกือบทุกวัน

ช่วย ๆ กันห่อ ข้าวและกับแยกใส่ถุง เพื่อป้องกันไม่ให้อาหารเสียง่าย

 อาสาสมัครปกติจะคุยกันสนุก แต่พอจะถ่ายรูปก็จะทำท่าเรียบร้อย

            คนมาช่วยทอดก็ทอดไปคุยไปสนุกสนาน แต่พอไปถามดูก็ปรากฎว่าทำกับข้าวไม่เป็น เพียงแต่ถูกเรียกให้มาช่วยพลิกไก่ไปมาเท่านั้น ส่วนคนปรุงจริง ๆ อยู่ดูใกล้ ๆ

ดูแล้วก็ใช้ได้ น่าทานดี

           อาหารที่เตรียมไปแจก ข้าวห่อพร้อมกับข้าวนับพันชุด

          ข้าวห่อ น้ำ มาม่า นม UHT นมผงเด็กทารก มะม่วง ขนมเด็ก ยาสีฟัน อาหารสุนัข ของครบ เมื่อพร้อมแล้วก็ออกเดินทาง

           วันนี้รถไม่ติด ใช้เวลาไม่นานในการเดินทางมาถึงถนนพุทธมณฑล สาย 2 ซึ่งตอนนี้น้ำแห้งเกือบทั้งสาย สถานการณ์ดีขึ้นมาก

           วันนี้ไม่ได้นัดหมายที่ท่าน้ำเดิม(พุทธมณฑล สาย1) เพราะต้องการประหยัดเวลาในการเดินทางโดยทางเรือที่ต้องใช้เวลามาก เพื่อจะได้มีเวลาเข้าถึงพื้นที่สุดท้ายคือ สวนแสงธรรม

           แต่พอสังเกตุดูแล้ว พบว่าน่าจะมีน้ำขังตามซอยสูงในระดับที่รถเล็กไม่สามารถวิ่งได้ เพราะชาวบ้านที่นำมาจอดบนเกาะกลางถนนยังไม่ได้นำรถไปใช้

               จุดนัดพบคือที่ที่ใต้สะพานคลองบางไผ่ ถ.พุทธมณฑล สาย2 ไม่นาน เรือที่นัดไว้ก็มาถึง

            น้ำดื่ม เป็นของที่มีน้ำหนักมาก ควรนำลงเรือก่อนอย่างอื่น หลังจากนั้นเป็นนมUHT ข้าวห่อ ผลไม้ และขนมตามมา

 

 ช่วยกันขนของที่มีน้ำหนักทั้งหมด 1 ตันเศษ(ไม่รวมคน) เพื่อลงเรือ

 อาสาสมัครต่างขยันขันแข็ง

 

อาสาสมัครชักชวนเพื่อนใหม่มาช่วยกัน เป็นกลุ่มหญิงเหล็กที่ไม่กลัวจระเข้

             (วันนี้อาหารมากเป็นพิเศษ สังเกตุคุณน้าข้างหลังที่อยู่ในบ้าน กำลังชะเง้อมอง รอคอยด้วยความหวัง)

 

           ทุกอย่างพร้อมออกเดินทาง (ลืมคุณน้าเสียแล้ว...)

          วันก่อนเตรียมอาหารมาก แต่วันนี้อาหารมากกว่า เพราะจะมีเรืออีกลำล่องลงมาจากสวนแสงธรรมเพื่อถ่ายของไปช่วยกันแจก สังเกตุกราบเรือเพียบกว่าทุกครั้ง

วันนี้คนขับเรือต้องประคองเรืออย่างมาก เพราะเรือเพียบจากน้ำหนักบรรทุก (Over Load) ไม่อยากบอกอาสาสมัครเพราะกำลังมีความสุขจากประสบการณ์ใหม่

และไม่อยากทำลายความหวังของคุณน้า จึงกลับไปส่งอาหารให้ เพราะคนขับเรือไม่เห็น 

น้าคนนี้ขอมากหน่อย เพราะเป็นผู้ใหญ่บ้าน ขอเพื่อไปแจกลูกบ้านที่เดือดร้อน

รถฝากไว้ให้คุณน้าผู้ใหญ่บ้านช่วยดูแล คุณน้ารับรองว่าปลอดภัยเพราะแถวนี้ไม่มีขโมย

           ระหว่างทาง สังเกตุเห็นบ้านหลังนี้ที่มีข้าวของเครื่องใช้ลอยน้ำมากมาย และจะกลายเป็นขยะหลังน้ำลด ไม่ทราบว่าจะตีเป็นเงินได้เท่าไร  ซึ่งที่สุดแล้ว ความสูญเสียนี้ ชาวบ้านก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง เหตุการณ์เหล่านี้เป็นผลพวงหนึ่งจากภาวะโลกร้อน แม้จะมีใครโทษรัฐบาลในเรื่องการปล่อยน้ำในเขื่อนก็ตามแต่ก็เป็นเงื่อนรองลงมา เพราะภัยธรรมชาติในปีนี้เป็นสิ่งที่เกินจะคาดหมาย

ผ่านเขตหลักสองเข้าสู่เขตศาลาแดง

ผู้ประสบภัยรายหนึ่ง กำลังช่วยเหลือตัวเองโดยการทอดแหหาปลา

 ถ้าบอกตรง ๆ ไปเลยว่า "คุณ ๆ อย่าฆ่าปลาเลย เดี๋ยวจะตกนรก"

ให้ทายว่าจะเกิดอะไรขึ้น ?

ที่นี่ น้ำยังสูงระดับครึ่งรั้ว

และนี่...

ก่อนหน้าน้ำท่วม เรือต้องจอดไว้นอกบ้าน บางครั้งอาจมีขโมยมาเอาไป

         แต่พอน้ำท่วมก็เลยทำให้ชาวบ้านคลายกังวลจากการถูกขโมยเรือ เพราะเรือจอดในบ้านได้แล้ว

 

เหลือครึ่งหลัง แต่ของข้างในไม่รู้ว่าของที่ไม่ถูกน้ำท่วม เหลือถึงครึ่งหรือไม่ ?

 

                   บริเวณนี้สวยงามเหมือนทะเลสาบ แต่เบื้องหลังความงามนี้ คือแปลงปลูกผัก ดูคร่าว ๆ ก็น่าจะสัก 10 กว่าไร่ ถ้าเป็นรายได้ที่สูญเสียก็อาจไม่มากสำหรับคนมีอันจะกิน แต่ก็หมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบคร้วเจ้าของสวน

 

มาแล้ว เป็นรายที่ 2 อาจเป็นเจ้าของแปลงผักเมื่อครู่

           เข้าใจผิด คิดว่าเป็นผู้ประสบอุทกภัยมาขอรับอาหาร ที่แท้คุณนวล มาจากสวนแสงธรรม

            ช่วยกันขนของลงเรืออีกลำ เพื่อแยกกันแจกให้ผู้ประสบอุทกภัยแถบสวนแสงธรรม อาสาสมัครชายตามไปช่วยแจก

มาถึงก็ได้เริ่มงาน

           ชาวบ้าน 2 สามีภรรยาช่วยกันพายเรือลำเก่า ๆ ที่รั่ว มารับของด้วยความยินดี เพราะนาน ๆ ทีจะมีคนมาหยิบยื่นความช่วยเหลือให้

สังเกตุ สามีใช้เครื่องสูบน้ำที่ทำขึ้นง่าย ๆ จากท่อพีวีซี ส่วนภรรยาเป็นคนพายเรือ

2 คนนี้ ถ้าขาดคนใดคนหนึ่ง ก็จะไม่สามารถมารับของได้

          แม้จะยากจน แต่ก็มีความดีพอที่จะผูกใจให้อยู่ร่วมกัน ความเข้าใจที่มีต่อกัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันจะประสานใจให้เข้ากันได้ เหล่านี้คือความดีงามในจิตใจที่ควรมีให้กันในคู่ชีวิต แม้จะประสบภัย แต่ความดีนี้ก็ทำให้เกิดการเกื้อกูลให้ชีวิตพอบรรเทาไปได้ ครอบครัวนี้ทุกข์แต่ภายนอก แต่สุขภายใน

          แต่ตรงกันข้ามหากมีชีวิตที่ร่ำรวยเงินทอง ยศ เกียรติ์ แต่ขาดความดีในการรักษาคู่ครอง ก็อาจทำให้ชีวิตระสำระสาย ครอบครัวเช่นนี้สุขแต่ภายนอก แต่ภายในเป็นทุกข์

          เงินจึงตอบโจทย์ทุกข้อของชีวิตไม่ได้ แต่ความดีต่างหากที่ช่วยให้จิตใจเป็นสุข

(ภาพ ขณะยังมีชีวิตอยู่ หลวงตามักสั่งให้แจกทานที่สวนแสงธรรมอยู่เสมอ)

            ดังที่หลวงตาเคยสอนไว้ว่า ความสุขไม่ได้อยู่ที่ข้าวของเงินทองกองเท่าภูเขา แต่อยู่ที่จิตใจ ขอให้จิตใจมีคุณความดี  ให้พากันรักษาศีล 5 นะ  ศีลนี้แลเป็นเครื่องรักษาใจให้ใจได้ชุ่มเย็น

           ส่วนการแสวงหาเงินทองท่านก็ไม่ได้ห้าม ท่านก็ไม่ได้ตำหนิคนที่หาเงินจนได้เป็นเศรษฐี ท่านสอนว่า ทุกอย่างเป็นตามเหตุตามความดีที่เคยทำมาจากอดีต แต่ที่ท่านตำหนิคือคนที่ขี้เกียจขี้คร้าน หนักไม่เอา เบาไม่สู้ กินแล้วนอน ท่านมักปลุกใจให้สลัดความขี้เกียจออก ซึ่งผู้เขียนก็เคยเป็นมา 

 

 

            หลังหลวงตาฉันและเทศน์เสร็จ ลูกศิษย์ส่วนใหญ่กลับกันไปแล้ว ก่อนเที่ยงก็จะเป็นเวลาให้ทานของหลวงตา มีชาวบ้านแถบพุทธมณฑล มารับทานเป็นจำนวนมาก หลวงตาทำอย่างเงียบ ๆ ไม่มีการประกาศออกข่าวใด ๆ  หลวงตาทำเช่นนี้ทุกวันที่อยู่สวนแสงธรรม (ภาพที่เห็นเป็นวันพิเศษ เป็นวันแจกทานใหญ่)

            และชาวบ้านกลุ่มนี้นี่เอง ที่เป็นเหตุให้ศิษย์หลวงตาต้องหาทางเข้ามายังพื้นที่ในวันนี้ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนจากอุทกภัย สืบความช่วยเหลือต่อจากองค์หลวงตา ผู้เป็นต้นแบบอันดีงามแห่งความเมตตาที่ไม่มีสิ้นสุด

ทั้งหมดคือภาพในอดีต

กลับมาสู่ปัจจุบัน

สภาพบ้านของผู้ประสบอุทกภัย  ที่แม้ไม่มีอุทกภัยก็ควรให้ความช่วยเหลือ

           การให้ทาน นอกจากเป็นการบรรเทาความทุกข์ร้อนจากความเป็นอยู่แล้ว ยังเป็นการเติมความชุ่มชื่นใจให้แก่กันและกัน

          ผลทานอันนี้ย่อมยังให้ผู้ทำทานได้พัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น เช่นเดียวกับผู้รับทาน ที่ได้รับแบบอย่างเติมเต็มชีวิตให้ดีขึ้นด้วยทานทั้งความเป็นอยู่และจิตใจไม่มากก็น้อย  เป็นผลจากความเป็นชาวพุทธของประชาชนไทยที่ถูกปลูกฝังต่อกันมา จากญาติผู้ใหญ่สู่ผู้น้อย จากครูบาอาจารย์สู่ศิษย์

         อีกทั้งสถาบันกษัตริย์ผู้ทรงพระเมตตาเป็นแบบอย่างอันงามในการช่วยเหลือประชาชน

 

 ในภาพ ทรงทอดพระเนตรรายงานสถานการณ์น้ำท่วม ณ รพ.ศิริราชอย่างใส่พระทัย  

แม้ทรงมีพระชนมายุถึง 84 พรรษาและมีพระอาพาธ ก็ยังทรงเป็นห่วงประชาชน

             ทรงวางแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและพระราชทานถุงยังชีพไปยังจังหวัดที่ประสบอุทกภัย 

ความทรงจำในอดีตตั้งแต่เด็กจนโตได้ผุดขึ้น

         หลายสิบปีที่ผ่านมา ในยามบ้านเมืองทุกข์ร้อน หลายต่อหลายครั้งที่ได้เคยเห็นข่าวที่ทรงพระราชทานความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ต่าง ๆ  แต่ก็น่าเสียดาย ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับข่าวมากนัก เพราะช่วงนั้นยังเป็นวัยที่ต้องการความสนุกสนาน จึงเพียงแต่รอรายการบันเทิงที่ต้องการรับชมเท่านั้น เวลาล่วงเลยมาหลายปีที่ได้เห็นจนชินตา แต่ก็ได้ซึมซับเข้ามาทีละเล็กละน้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นไปอย่างไม่ตั้งใจ

จากหนังสือพระราชกรณียกิจ ทำให้เราทราบว่า

             

           บางค่ำคืน เรากำลังหลับบนที่นอนแสนสบาย ขณะพระองค์กำลังทรงงานในหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางป่าเขา

            

          บางช่วงเวลา เราอาจกำลังทานอาหารจากภัตตาคารหรู ในขณะที่พระองค์กำลังเสวยพระกระยาหารอย่างเรียบง่าย เพื่อประทังพระวรกายให้ไปถึงที่หมายในถิ่นทุรกันดาร     

           คลองลัดโพธิ์และประตูระบายน้ำที่ช่วยผันน้ำได้วันละ 60 ล้าน ลบ.เมตร และช่วยกันน้ำทะเลหนุนยามน้ำขึ้น จึงมีส่วนอย่างมากที่ทำให้คนกรุงเทพชั้นในไม่ถูกน้ำท่วม และช่วยพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมให้ระบายน้ำออกได้รวดเร็วขึ้น นี้เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริ (ข้อมูลส่วนหนึ่งจาก ดร.เสรี ศุภราทิตย์ และเวปไซด์ผู้จัดการ)

          ที่ผ่านมา แม้จะรู้ในคุณของพระองค์อยู่บ้าง แต่หากจะว่าเพียงน้อยนิดก็ไม่ผิดนัก  เพราะเมื่อได้ลงพื้นที่จริงเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ทำให้ซาบซึ้งในคุณของพระองค์มากยิ่งกว่าเดิม เพราะทำให้ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ง่าย ต้องอาศัยความเสียสละ ทั้งเงินทอง เวลา กำลังกาย กำลังใจ ทนแดด ทนร้อน ทนหิว ทนกระหาย  ทั้งต้องวางแผนและเตรียมพร้อมที่จะแก้ไขอุปสรรคที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งเป็นสิ่งเดียวกันกับทุกคนที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยจะได้พบและจะต้องฝ่าฟันให้ผ่านพ้นไป ซึ่งในหลวงทรงปฏิบัติเช่นนี้มาตลอดพระชนม์กาลที่ผ่านมา

 

อีกทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ก็ได้สืบตามรอยบาทฯ

           สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ทรงประทับบนรถบรรทุกทหารเพื่อทรงเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัย

           ท่านที่เคยนั่งรถทหารมาก่อนจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ไม่มีเก้าอี้นั่ง ต้องทนร้อนจากแสงแดด รถมีแรงสั่นสะเทือนสูงกว่ารถยนต์เพราะใช้แหนบ อีกทั้งมีหลุมขรุขระจากผิวจราจรที่ชำรุดจากน้ำท่วม ทำให้ยากลำบากต่อการเดินทางที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าปกติมาก เพราะน้ำท่วมทำให้ไม่สามารถเดินทางได้เร็วเช่นปกติ ต้องอดทนนานนับชั่วโมง และไม่มีห้องน้ำให้ใช้เพราะพื้นที่ถูกน้ำท่วม

ทรงพระราชทานถุงยังชีพด้วยพระองค์เอง

           สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ได้เสด็จลงพื้นที่เพื่อพระราชทานถุงยังชีพให้แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ทรงยืนยันพร้อมที่จะรับน้ำท่วมเช่นเดียวกับประชาชน

 

 

           และเมื่อได้เข้าพบผู้ประสบภัยด้วยตนเอง จึงได้รู้ว่า เป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นมากสำหรับความช่วยเหลือ  และเมื่อได้น้อมนำเอาสิ่งที่ในหลวงทรงปฏิบัติต่อชาวไทยมาพิจารณา ทำให้เห็นคุณค่าที่หาที่เปรียบมิได้  ซึ่งเป็นเช่นอย่างที่หลวงตามหาบัวได้เคยเทศน์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551 ว่า

 

          "ส่วนรวมเป็นของสำคัญมากนะ พ่อกับแม่เป็นของสำคัญมาก ผู้ใหญ่ผู้ปกครองบ้านเมืองเป็นผู้สำคัญ มีเมตตามากจึงเป็นผู้ใหญ่ได้ เป็นผู้น้อยไปเป็นใหญ่ใช้ไม่ได้เลย ผู้ใหญ่ต้องมีจิตใจกว้างขวาง มองกว้าง มองไกล ผู้น้อยมันมองคับแคบแต่ตัวของมันๆ ไม่ดี ผู้ใหญ่นี่มองออกนอกรอบไปหมด ต่างกันนะ"

         "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี นี้คือหัวใจของชาติไทยเรา ให้พากันเทิดทูน อย่าพากันดูถูกเหยียดหยามทำลาย เช่นอย่างจะทำลายจะไม่ให้มีพระเจ้าอยู่หัว คนเกิดมาแล้วพ่อแม่ตายหมด มีแต่ลูกกำพร้าหยิมแหยมๆ มันใช้ไม่ได้นะ สกุลใดที่มีคนคับแคบอยู่ในบ้านนั้นเมืองนั้นแล้วสกุลนั้นไม่เจริญ สกุลใดที่มีความกว้างขวาง มีจิตใจอันกว้างขวาง พิจารณารอบคอบเพื่อทำประโยชน์แก่ส่วนรวมผู้นั้นเป็นผู้ดี"

 

 

 

          โชคดีของคนไทยทุกคนที่ได้เกิดในแผ่นดินที่มีศาสนาและพระมหากษัตริย์อันแสนประเสริฐ  (ในภาพ คุณป้ากับถุงพระราชทาน)

          จากภาพ เป็นช่วงเริ่มต้นของโครงการช่วยชาติฯ ในหลวงและสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ทรงเสด็จกราบหลวงตาพร้อมพระราชทานพระราชทรัพย์เพื่อร่วมช่วยชาติกับหลวงตา ในเย็นวันที่ 23 เมษายน 2541 ด้วยความเชื่อมั่นในศาสนา เป็นกำลังใจให้แก่คณะศิษย์เป็นที่ยิ่ง

          สถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ได้ช่วยเหลือประชาชนมาอย่างยาวนานในประวัติศาสตร์ชาติไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน เป็นแบบอย่างอันดีงามให้คนไทยมีนิสัยโอบอ้อมอารี อันเป็นสิ่งประสานชาติบ้านเมืองให้เป็นปึกแผ่น เป็นที่พึ่งทั้งชีวิตความเป็นอยู่และทั้งทางด้านจิตใจให้ชุ่มเย็น และที่สุดแล้ว บุญอันเกิดจากการช่วยเหลือเกื้อกูลกันก็เป็นที่พึ่งไปถึงภพหน้า

ขอเทิดทูนในคุณขององค์หลวงตา และ ทรงพระเจริญ...

อุปนิสัยการแบ่งปันที่ได้สืบทอดมาจากเรื่องราวข้างต้น ได้ช่วย 2 สามีภรรยาคู่นี้ไว้

            ในย่านคลองบางไผ่นี้ เป็นพื้นที่ที่มีชาวบ้านที่อัตคัตในความเป็นอยู่ ทราบจากเมื่อวานที่ได้มาที่นี่ว่า มีอีก 20 กว่าครอบครัวที่มีชีวิตอยู่ในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอยู่ในคลองซอยที่เรือของเราไม่สามารถเข้าไปแจกได้ จึงได้ฝากให้ทั้ง 2 ท่านไปช่วยแจกให้กับเพื่อน ๆ ในย่านนี้

ในภาพ ทั้งสองกำลังลำเลียงอาหารลงเรือพายขนาดเล็ก

 

           ผู้ประสบอุทกภัยรายนี้ชอบกินอาหารเม็ด คงติดอยู่บนสะพานมานาน ท่าทางผอมโซ อาสาสมัครเลยต้องให้ไป 2 ถุง

ที่อาศัยของชาวบ้านแถบนี้

มาตามเสียงโทรโข่ง

อาสาสมัครที่ขยันขันแข็งหลายคน ทำให้การแจกของเสร็จเร็วขึ้น

หมาที่นี่เมื่ออยู่ในเรือ จะสิ้นฤทธิ์และหางตกทุกตัว

          คุณลุง(ภาพบน)และคุณน้า หลังจากที่ได้รับอาหารแล้ว ก็มีกำลังใจพร้อมที่จะสู้ต่อไปในฐานะที่เป็นผู้รับน้ำแทนชาวกรุงเทพ ก็คงต้องช่วยกันจนกว่าน้ำจะลด

 

 

 




คณะศิษย์หลวงตาช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

ที่คลองราชมนตรี
ที่คลองบางแวก-คลองบางเชือกหนังบางส่วน
ที่คลองบางเชือกหนัง-ชุมชนทองพูน1
24พย54 ที่คลองบางแวก คลองบางไผ่-บ.สิริเกษม



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล