คนไทยจะดีใจไหม? ถ้านายกหญิงคนแรกของไทยจะชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ถ้าจะตอบตามความรู้สึกของคน ก็จะมีคำตอบอยู่ 3 คำตอบ คือ

1. สำหรับคนเสื้อแดง(บางคน) ก็คงจะดีใจ ที่พวกเดียวกันได้เป็นผู้นำประเทศ พวกนี้อาจไม่เจาะจงว่า นายกจะต้องเป็น คุณยิ่งลักษณ์ แต่ขอให้เป็นคนที่พรรคเพื่อไทยสนับสนุนก็แล้วกัน เพราะอยากได้อำนาจเพื่อมาสะสางเรื่องราวเก่าๆโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คดีความต่างๆ ที่คั่งค้างอยู่ให้มันจบๆไปเสียที

2. พวกที่ไม่ใช่เสื้อแดงก็อาจจะรู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง เพราะหวั่นเกรงว่า พวกเสื้อแดงจะกระทำการอันเป็นภัยต่อสถาบันหนักขึ้น และเป็นภัยต่อประเทศชาติรุนแรงยิ่งขึ้น เนื่องจากหัวเรือใหญ่ของพวกนี้ ยังอยู่ในสถานะนักโทษหนีคุก เมื่อพรรคเพื่อไทยมีอำนาจบริหารจัดการประเทศ อาจทำอะไรที่เอื้อประโยชน์แก่นักโทษหนีคุกก็ได้

3. พวกที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด จะเป็นพวกหลากสี หรือไม่มีสีก็แล้วแต่ ก็คงยังไม่รู้สึกอะไรนัก รอดูเขาทำงานไปสักระยะหนึ่งก่อน  ถ้าทำดีก็สนับสนุน ถ้าทำไม่ดี ก็ค่อยคิดอ่านว่ากันทีหลัง พวกนี้ชอบทำตัวเป็นพลังเงียบ ไม่ค่อยชอบออกแนวหน้า จะคอยดูอยู่ข้างหลัง ดีไม่ดี ก็ค่อยๆดูกันไป

อันที่จริง การที่คุณยิ่งลักษณ์จะเป็นนายกหญิงคนแรกของไทย นั้น ถ้าว่ากันตามระบอบการเมืองของไทยในตอนนี้ ก็ถือว่ามีสิทธิ์อันชอบธรรม  เพราะเธอชนะการเลือกตั้ง และได้รับเสียงสนับสนุนจาก พวก สส.ที่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อให้เป็นนายก  แม้ สส.จำนวนไม่น้อยที่ชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้  มาจากการซื้อเสียง  แต่ระบบการเมืองของไทยมันเป็นเช่นนี้  ก็คงต้องยอมรับกันไป

หากถามว่า การที่คุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกหญิงคนแรกของไทย ซึ่งจะถูกบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ของชาติไทยไปอีกยาวนาน  จะเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย  และเป็นเกียรติยศ เป็นศักดิ์ศรีแก่ประเทศไทยได้หรือไม่ คำตอบก็คงต้องตอบว่า ไม่ได้

การที่ประเทศไทย จะมีนายกรัฐมนตรีเป็นผู้หญิงสักคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนแรกในประวัติศาสตร์  มันน่าจะเป็น สุภาพสตรีที่มีความเก่งกล้าสามารถ มีสติปัญญาฉลาดแหลมคม มีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี เป็นที่ยอมรับของคนทั้งประเทศ  เมื่อเป็นแล้วก็กลายเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ที่มีนายกหญิงที่เก่ง แม้ไม่ถึงกับเก่งที่สุด แต่ก็เป็นหน้าตาของประเทศ อวดอ้างท้าทายต่อสายตาของประชาคมโลกได้

แต่ตอนนี้ อย่างที่เห็นๆกัน ถ้าตั้งคำถามว่า คุณยิ่งลักษณ์ มีคุณสมบัติคู่ควรกับการเป็นนายกหญิงคนแรกของประเทศไทยไหม?  คนไทยจะตอบคำถามนี้อย่างไร ถ้าจะตอบตามความรู้สึกพอใจของคน ก็คงเป็นคำตอบทำนองเดียวกับที่กล่าวไว้เบื้องต้น

แต่ถ้าตอบด้วยเหตุผลความถูกต้องดีงาม นึกถึงชื่อเสียงเกียรติยศ และประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ คงต้องตอบว่า ไม่สมควรเลย ที่ไม่สมควร มิใช่เป็นเพราะ คุณยิ่งลักษณ์ไม่ดี หรือไม่มีความสามารถ  แต่เป็นเพราะ เธอมีพี่ชายที่ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลตัดสินจำคุก และถูกยึดทรัพย์ในคดีโกงชาติโกงแผ่นดิน เป็นเงินถึง 4.6 หมื่นล้านบาท คนดีใครจะโกงชาติได้ลงคอ คนที่โกงชาติได้ ยังจะมีความน่าเชื่อถือใดๆหลงเหลือให้เป็นที่วางใจมาบริหารราชการแผ่นดินได้อีก

แล้วถามว่า ผิดหรือ? ที่เธอมีพี่ชาย ชื่อ ทักษิณ ชินวัตร  ก็ตอบว่าไม่ผิด มันเป็นเรื่องของกรรมที่เคยทำไว้ร่วมกัน ไม่มีใครบังคับได้  แต่เธอสามารถเลือกได้ ว่าจะทำ หรือ ไม่ทำอะไร ก็ได้ตามที่เธอเห็นสมควร  ไม่จำเป็นต้องทำตามความต้องการของใคร

มันคงจะไม่มีความสง่างามใดๆเลย กับการที่คุณยิ่งลักษณ์เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย โดยการสนับสนุน ของคุณทักษิณ และจะต้องทำงานตามคำสั่งของคุณทักษิณ ที่เป็นนักโทษหนีคุกอยู่ในขณะนี้  แม้คุณยิ่งลักษณ์จะบอกว่า  เธอมีความสามารถพอ ที่จะทำงานจะเป็นตัวของตัวเอง ไม่เกี่ยวข้องกับพี่ชายก็ตาม แต่นั่นก็ เป็นเพียงลมปากที่พ่นออกมาแล้วก็ดับไปเท่านั้น  ส่วนการจะทำได้จริงอย่างที่พูดหรือไม่ มันก็เป็นเรื่อง  ที่พอจะคาดเดากันได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมายืนยัน

คอยดูเถอะ  นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย  จะกลายเป็นประวัติศาสตร์อันดีงามที่น่าภาคภูมิใจ หรือจะกลายเป็นประวัติศาสตร์อันขมขื่นที่น่าอัปยศอดสู  จนลูกหลานไทยอาจต้องลบประวัติศาสตร์ทิ้ง เพราะทนต่อความอัปยศไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณยิ่งลักษณ์เอง ในขณะที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนี้

คุณทักษิณ ทำบาปทำกรรมให้กับประเทศชาติอย่างมากมาย แค่ขบวนการเสื้อแดงที่เกิดขึ้น ก่อความไม่สงบภายในประเทศ สร้างความแตกร้าวให้กับคนไทยทั้งชาติ แบ่งสี แบ่งพวก แบ่งฝัก แบ่งฝ่าย จนถึงขั้น ก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง และหมิ่นเหม่ต่อการล้มล้างสถาบัน จนได้ชื่อว่า เป็นขบวนการล้มเจ้า มีคดีฟ้องร้องกันอยู่มากมาย ก็เป็นที่รู้ๆกันว่า ใครอยู่เบื้องหลัง

ไม่รวมถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ที่กระทำต่อสมเด็จพระสังฆราช โดยการตั้งผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช  โดยไม่ได้กราบทูลขออนุญาต และปรึกษาปรารภกับพระองค์ท่านมาก่อนเลย ก็เท่ากับเป็นการปลดสมเด็จพระสังฆราชดีๆนี่เอง แม้คุณทักษิณไม่ได้ทำเองโดยตรง แต่ให้ลูกน้องทำแทน ก็มีค่าเท่ากัน มิหนำซ้ำ ยังกล่าวจาบจ้วงองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน และ กระทำตัวเป็นศิษย์เนรคุณไม่เชื่อคำเตือนของหลวงตา จนหลวงตาต้องตัดขาดจากความเป็นศิษย์ และถึงกับเอ่ยปากว่า "ท่านดูคนผิดไป " แม้กระนั้น หลวงตาก็ยังคงเมตตาเตือนทักษิณ ให้ทำตามที่ท่านบอก ถึงกับเอ่ยปากว่า  "ถ้าไม่เชื่อเรา จะไม่เหลืออะไร"  แต่ทักษิณก็ยังปฏิเสธคำเตือนของหลวงตา มิหนำซ้ำ ทักษิณยังพูดว่า "ต้องเมตตาหลวงตา" อีกต่างหาก  แค่นี้ก็ถือว่าหนักพอแล้ว

ถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้ว คุณทักษิณต้องคดีอาญามีโทษจำคุกติดตัว อยู่ในสถานะนักโทษหนีคุก ทั้งยังถูกศาลสั่่งยึดทรัพย์เป็นจำนวนเงินถึง 4.6 หมื่นล้านบาท  เพียงเท่านี้ ก็ควรยุติบทบาทของตัวเอง และคนในครอบครัวได้แล้ว ไม่ควรที่จะมายุ่งเกี่ยว กับการบริหารราชการแผ่นดินอีกต่อไป  เพราะไม่เป็นที่ยอมรับในความซื่อสัตย์สุจริต และ เป็นเหตุสร้างความหวาดระแวงว่า จะมาทำงานเพื่อประเทศชาติจริงหรือไม่? การถูกยึดทรัพย์ในคดีโกงชาติโกงแผ่นดิน  มันเป็นเครื่องยืนยันความรักชาติของคุณทักษิณได้เป็นอย่างดี  คนรักชาติ จะทำร้ายประเทศชาติได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ?

แต่เมื่ออาศัยเม็ดเงินมหาศาลที่มีอยู่ สามารถส่งน้องสาวเข้ามาตามระบอบประชาธิปไตยปลอมๆของประเทศไทย จนสามารถก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำของประเทศได้  ยึดอำนาจการปกครองประเทศไว้ในกำมือได้  ไม่ว่าจะด้วยความมีศักดิ์ศรี หรือ ไร้ศักดิ์ศรีก็ตาม  และมีเจตนาแอบแฝงที่จะใช้อำนาจกระทำการใดๆ เพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง โดยไม่คำนึงถึงความชอบธรรม  มันก็เท่ากับ เป็นการส่งน้องสาวของตัวเอง เข้าสู่หลักประหารอย่างโหดเหี้ยมที่สุด

ธรรมดาพี่ชายไม่ควรทำเช่นนั้น กับน้องสาวของตัวเอง มันช่างเป็นความเห็นแก่ตัวอย่างร้ายกาจ เพียงต้องการคนที่ตัวเองไว้ใจ เพื่อมากุมอำนาจบริหารประเทศ เพื่อที่ตนเองจะใช้ให้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงว่า น้องสาวจะมีความสามารถเพียงพอหรือไม่   และจะสามารถต้านแรงเสียดทานจากสังคมได้หรือไม่ ถ้าหากจะต้องทำอะไรตามคำสั่งคุณทักษิณ   คุณยิ่งลักษณ์เอง ก็เป็นบุคคลที่มีบุคลิกภาพที่ดี ไม่ใช่คนเลวร้าย แต่เมื่อเธอจำเป็นต้องรับตำแหน่งนายกหญิงคนแรกของไทย ยอมตัวเป็นหุ่นเชิดของคุณทักษิณ ก็เท่ากับนำพาตัวเองเข้าสู่สงครามการเมือง  จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องถูกจับตามอง และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่เธอเองก็อาจจะไม่ทันได้คาดคิดว่า จะต้องเผชิญกับอะไรบ้าง

บางทีเธออาจคิดว่า การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกหญิงคนแรกของไทย ย่อมเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง หรืออาจคิดเลยเถิดไปถึงว่า ย่อมเป็นเกียรติประวัติอันยิ่งใหญ่ของวงศ์ตระกูลอีกด้วย แต่เธอจะรู้ไหมว่า ภาระอันหนักอึ้งที่เธอจะต้องแบกในขณะที่ก้าวขึ้นสู่อำนาจนั้น  บางทีเธออาจจะแบกมันไม่ไหว หรือรับไว้ไม่ได้  เพราะเธอมิใช่ ผู้มีอำนาจตัวจริง  สิ่งที่เธออาจต้องเผชิญ ก็อาจเป็นเหมือนเช่น ที่นายสมัคร สุนทรเวช กับ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เคยเจอมาแล้ว จนแทบจะเสียผู้เสียคน

แต่สำหรับเธอ มันอาจจะเลวร้ายยิ่งกว่า  เพราะความที่เธอเป็นผู้เปิดบันทึกหน้าใหม่ของประวัติศาสตร์ชาติไทย ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ไม่ใช่ธรรมดา อาจเป็นความคาดหวังของคนไทยจำนวนมาก ที่คิดว่าเธอต้องเก่ง และต้องทำงานเพื่อประเทศชาติได้ เป็นที่เชิดหน้าชูตาของคนไทยทั้งประเทศได้  จึงยอมให้เธอเป็นนายกหญิงคนแรก ถึงแม้จะได้มาเพราะระบอบประชาธิปไตยที่พิกลพิการก็ตาม

ก็รู้สึกสงสารคุณยิ่งลักษณ์ เหมือนกัน  เป็นโชคไม่ดีที่เธอก้าวเข้ามาสู่อำนาจในฐานะ น้องสาวของคนโกงชาติ ในท่ามกลางแห่งความแตกแยกของคนในสังคม ในช่วงแห่งวิกฤติเศรษฐกิจที่สังคมมีแต่การเอารัดเอาเปรียบ และเล่นเกมช่วงชิงผลประโยชน์กันอย่างรุนแรง โดยไม่คำนึงถึงความผิดชอบชั่วดี

และในท่ามกลางแห่งสมัครพรรคพวกที่เต็มไปด้วย เสือ สิงห์ กระทิง แรด ที่มีเขี้ยวลากดิน พร้อมที่จะขย้ำเธอให้กลายเป็นเหยื่อได้ตลอดเวลา และในท่ามกลางแห่งแรงเสียดทานของกระแสสังคม ทีจับจ้องมองดูเธออยู่ ว่าในระหว่างประเทศไทย กับพี่ชาย เธอจะยืนตรงไหน จะเลือกทำเพื่อใครในที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีภารกิจอื่นๆอีกมากมาย  ที่นายกหญิงคนแรกคนนี้ต้องเผชิญ  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับนโยบายประชานิยมที่คุยไว้ตอนหาเสียง  ล้วนเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสทั้งสิ้น หากจะทำให้ได้ตามนั้น ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเรื่องที่ต้องคิดหนัก และคิดยาว

ก็คงต้องพิสูจน์กันว่า มโนธรรมภายในใจของเธอ จะแข็งแกร่งเพียงพอ ที่จะต้านทานต่อแรงเสียดทานทั้งหลายทั้งปวงได้หรือไม่  ตำแหน่งนายกหญิงคนแรกของไทย จะกลายเป็นเกียรติประวัติอันสูงส่งให้ลูกหลานไทยกล่าวขานชื่นชมไปอีกนานแสนนาน หรือมันอาจจะกลายเป็นเกียรติประวัติอันสุดแสนขมขื่น และอัปยศอดสู จนแทบไม่อยากนึกถึงมัน ก็่ขึ้นอยู่กับการกระทำของคุณยิ่งลักษณ์ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ก็ขอให้คุณยิ่งลักษณ์ จงมีพลังสติปัญญาในการทำหน้าที่นายกหญิงคนแรกของไทยนี้ให้ดีที่สุด ขอให้มีมโนธรรมอันแข็งแกร่งที่พร้อมจะต่อต้านกับแรงเสียดทานทุกประเภท  ที่จะบีบคั้นกดดันให้เกิดการกระทำที่ผิดๆ

และขอให้จงเลือกยืนอยู่ข้างประเทศไทย  ทำหน้าที่ของนายกของคนไทย  ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้อำนาจเอนเอียงไปเพื่อผลประโยชน์ของผู้ใดทั้งนั้น  ทำได้เช่นนี้ จึงคู่ควรกับฐานะนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย  หากเป็นตรงกันข้าม เธออาจจะต้องเผชิญกับ การถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง ถูกตำหนิ ถูกเสียดสี ถูกด่าทอ จนบางทีเธออาจทำใจรับไว้ไม่ได้ และสุดท้าย ตำแหน่งนายกหญิงคนแรกของไทย อาจกลายเป็นฝันร้ายอยู่ในความทรงจำของเธอไปตลอดชาติทีเดียว