ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 11 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ขอเชิญสมัครสมาชิกอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม twitter วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


พระธาตุแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

พระธาตุของคุณแม่แก้ว เสียงล้ำ พระอรหันต์แห่งบ้านคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

ผอบพระธาตุแม่ชีแก้ว (ถ่ายเมื่อปี 2539) ที่ผอบเกิดแสงสว่างจ้า และแสงสีรุ้ง ดังภาพ ซึ่งผู้ถ่ายก็ไม่สามารถอธิบายได้

 



พระธาตุ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

 



คุณแม่ชีแก้ว (องค์หลัง) ถ่ายกับเพื่อนแม่ชีที่บ้านห้วยทราย มุกดาหาร

ย้อนไปเมื่อ 89 ปีที่แล้ว (พศ.2460) ณ บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร หญิงสาวผู้หนึ่งได้ถางป่าเพื่อจับจองที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมหลวงปู่มั่นได้ธุดงค์ผ่านมาพร้อมคณะพระ ท่านได้เห็นที่บริเวณนั้นเหมาะที่จำทำเป็นที่พักสงฆ์ จึงได้ขอที่บริเวณนั้น หญิงสาวนั้นมีปิติยินดี ได้ถวายที่แด่ท่าน หลวงปู่ได้ให้พรว่า "ต่อไป เจ้าจะไม่มีวันอดอยาก" วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองน่อง (น่องคือเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง ใช้เป็นยาเบื่อยาสลบ)

 

 

หลวงปู่มั่นและคณะพระได้อยู่ปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนั้น สั่งสอนชาวบ้านแถบนั้น ให้ละจากการนับถือผีมานับถือพระพุทธศาสนา ยังให้เกิดศรัทธา เข้าใจศาสนามากขึ้น หนึ่งในนั้นก็มีเด็กสาวรุ่น อายุ 16 ผู้เป็นผู้ถวายที่ คือคุณแม่ชีแก้ว ในปัจจุบัน

ก่อนหลวงปู่มั่นกับคณะพระจะธุดงค์จากไป หลวงปู่มั่นได้ปรารภกับคุณแม่ชีแก้วว่า "หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณรและให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรมพระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน"

 


หลังจากที่หลวงปู่มั่นจากไป แม่ชีแก้วก็ได้แต่งงาน เมื่ออายุได้ 17 ปี และได้ใช้ชีวิตผ่านสุขทุกข์ต่าง ๆ ตามประสาโลก สำหรับผู้มีวาสนาย่อมเห็นโทษของการครองเรือน จึงได้ขอสามีบวชชี แต่สามีไม่ยินยอม ได้พยายามอยู่ถึง 2 ปี สามีจึงยินยอมให้บวช ชีวิตนักบวชจึงได้เริ่มต้น เมื่ออายุได้ 36 ปี ณ วัดหนองน่อง บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยมีหลวงพ่อกา (ปู่ของพระอาจารย์อินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์

 



พรรษาแรกผ่านไป สามีจะให้สึก เพราะอนุญาตให้บวช 1 พรรษา คุณแม่ชีแก้วจึงได้ย้ายไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์คำพัน ณ วัดภูเก้า ได้เกิดความรู้แปลก ๆ มากมาย ตามประวัติท่านกล่าวว่า จิตท่านผาดโผนมาก ออกรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องราวอดีต อนาคต ทั้งนรก สวรรค์ จิตดวงภาวนานี้ได้ทราบหมด

 



8 ปีจากนั้น พระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาไป แม่ชีจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านห้วยทราย ตั้งสำนักแม่ชีขึ้น เมื่อปี พศ.2488 คือสำนักชีในปัจจุบัน

 



ต่อมาเมื่อปี พศ. 2493 คุณแม่ชีแก้วได้นิมิตดังที่หลวงปู่มั่นได้เคยกล่าวไว้ ว่า กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน แม่ชีแก้วก็ได้เล่าให้เพื่อนแม่ชีฟังเพื่อเตรียมจัดสถานที่และรอพิสูจน์ความจริงร่วมกัน ปรากฎว่า มีพระผ่านมา แต่แม่ชีแก้วก็ว่าไม่ใช่องค์นี้ จนกระทั่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมากับพระเณรจำนวนหนึ่ง แม่ชีแก้วเห็นเข้ารู้ทันทีว่าเป็นพระอาจารย์องค์นี้ที่ปรากฎตามนิมิตแน่ จึงได้พากันนิมนต์ต้อนรับ

 


หลวงตามหาบัว ได้เทศน์ไว้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ความตอนหนึ่งว่า

"อย่างแม่ชีแก้วนั่นออกรู้ข้างนอก กระจายไปเลย พอไปก็ว่าหลวงปู่มั่นท่านเวลาท่านจะจากไปท่านห้ามไม่ให้ภาวนา เราสะดุดกึ๊ก ต้องมีจุดใดจุดหนึ่งเราจะคอยฟังจุดนั้น พอแกแย็บออกความรู้ของแก อ๋อ อันนี้เอง แน่ะอย่างนั้นละเข้าใจทันที แล้วที่ไล่แกลงภูเขาก็จุดนี้จะเป็นอะไรไป

คือมันอยากภาวนามากเข้าๆ ก็เลยภาวนา แต่ระวังเอาแกว่างั้น บทเวลาเอากันจริงๆ แล้วก็นั่นละไล่ลงภูเขาร้องไห้ ก็คืออันนี้เอง แกไม่ยอม ความรู้ของแกดีไม่ดีเอามาทับหัวเราอีก ว่าเราเป็นลูกศิษย์ของแกไปอีก ใส่เปรี้ยงนี้ก็ไล่ลงภูเขา ร้องไห้ลงไป แกก็มีเหตุมีผลอยู่ ที่ท่านไล่ลงภูเขาเพราะอะไร ก็เพราะไม่เชื่อฟังคำท่าน เอาแต่ความรู้ของตนไปอวดท่าน ท่านก็ไล่เอาบ้างซิ ถ้าหากว่าจะปฏิบัติตามท่าน ในฐานะถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์แล้วก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนซิ ท่านสอนว่าไง ทีนี้ก็เลยปล่อยเรื่องของแกหมด เข้ามาหาจุดที่เราสอน อย่างนั้นนะ

 



พอเข้ามามันก็ถูกนี่ ก็สอนด้วยความถูกต้อง ผู้นั้นผิด งมเงาไปเฉยๆ พอเข้ามาจุดนี้มันก็จ้า สว่าง อัศจรรย์เกินคาดเกินหมายแกว่า ก็อย่างนั้นแล้ว พอออกจากที่ภาวนาก็หันหัวไปทางโน้นกราบ เราอยู่บนภูเขากับเณรภูบาล ทางด้านตะวันตก วัดห้วยทรายอยู่ทางนั้น บ้านห้วยทรายอยู่ทางนี้ วัดอยู่ทางนั้นเราอยู่ทางนั้น สำนักชีเขาข้ามทุ่งไปเลย วันพระเขาไปยกขบวนไปเลย พอ ๔ โมงเขาก็ขึ้นไปถึง ๕ โมงกว่าๆ เขาก็ลงมา ไปพูดถึงเรื่องปัญหานั่นละ นี่ละที่ว่าไล่ลงภูเขา ควรไล่มันต้องไล่จะว่าไง เมื่อเอาไว้ไม่อยู่แล้วก็ซัดกัน นิวเคลียร์ก็มานิวตรอนก็มาเข้าใจไหม ร้องไห้ลงภูเขาไป

ทีแรกก็ว่าองค์นี้แหละ แน่ะ แกก็แม่นยำดีอยู่ ว่าออกพรรษาแล้ว ปีนี้จะมีครูบาอาจารย์มาโปรดพวกเรานะ พระเณรมากมายคล้ายคลึงกับหลวงปู่มั่นมาจำพรรษาที่หนองน่องปีนั้นว่างั้น พระเณรมากมายคล้ายคลึงกันคอยดู พอครูบาอาจารย์องค์ไหนมาก็ไปดู เป็นไงใช่ไหม ไม่ใช่ๆ เรื่อยๆ เลย พอถึงวาระที่เราไป ออกไปดู ใช่ไหม บอกใช่เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ นี้ละใช่แล้ว พูดให้เปิดเผยเสียว่าทั้งปวดหนักทั้งปวดเบามันอะไรพูดไม่ถูก ทั้งกลัวทั้งเคารพเลื่อมใสทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด เรียกว่าทั้งปวดหนักปวดเบา ถามว่าองค์นี้ไหม ใช่องค์นี้แหละคอยดูว่าท่านจะสอนพวกเราไหม คอยดูก็แล้วกันท่านจะสอนไหม

บทเวลาไล่ลงภูเขาสอนหรือไม่สอน แน่ะ แกก็ได้ตรงนั้นละ ได้ตอนที่ไล่ลงภูเขา ไปได้สติละซิ ที่ไม่ยอมฟังเราเราก็ไล่ลงภูเขาไปเลยซิ เมื่อไม่มีทางไปว้าเหว่ เราหวังจะพึ่งครูบาอาจารย์องค์นี้แล้วท่านก็สลัดปัดทิ้งไล่ลงภูเขาเสีย เราจะไปพึ่งใคร แล้วการไล่ท่านนั้นเพราะเหตุไร นั่นแกก็จับเอาตรงนั้น ก็เพราะไม่ฟังคำท่าน เอ้า ถ้าอย่างนั้นก็ฟังคำท่านซิ เราก็เอากันมาเสียพอแล้วก็ไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไร ก็ฟังท่านซิ นั่นละพอฟังแล้วลง แล้วก็ลงผึงเลย ได้สี่วันแกก็ขึ้นไปเราไม่ลืมนะ ขึ้นไปขนาบอีก จากนั้นก็ต่อให้ละที่นี่ต่อให้เรื่อย

แกรวดเร็วอยู่นะ ออกทางด้านปัญญานี้ก็หมุนติ้วเหมือนกัน ๙๓ จำหนองผือ ๙๔ จำห้วยทราย ๙๕ จำห้วยทราย ๒ ปีนี้แกก็ผ่านปี ๙๕

 

 

 


เจดีย์ศรีไตรรัตนานุสรณ์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมาบรรจุอัฐิธาตุ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2549

 

อัฐิธาตุ คุณแม่ชีแก้ว