
๑๖. วาจาวรรค คือ หมวดวาจา ๑๖๔. กลฺยาณิเมว มุญฺเจยฺย น หิ มุญฺเจยฺย ปาปิกํ พึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจา
๑๖๕. ตเมว วาจํ ภาเสยฺย ยายตฺตานํ น ตาปเย บุคคลพึงกล่าววาจาที่ไม่เป็นเหตุยังตนให้เดือดร้อน และไม่เป็น ๑๖๖. นาติเวลํ ปภาเสยฺย น ตุณฺหี สพฺพทา สิยา ไม่ควรพูดจนเกินกาล ไม่ควรนิ่งเสมอไป เมื่อถึงเวลา ก็ควรพูด
๑๖๗. ปิยวาจเมว ภาเสยฺย ยา วาจา ปฏินนฺทิตา ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพา
๑๖๘. ปุริสสฺส หิ ชาตสฺส กุธารี ชายเต มุเข คนที่เกิดมา มีผึ่งเกิดอยู่ในปาก คนโง่กล่าวคำไม่ดี ก็ชื่อว่า
๑๖๙. ยญฺหิ กยิรา ตญฺหิ วเท ยํ น กยิรา น ตํ วเท บุคคลทำสิ่งใด ควรพูดสิ่งนั้น ไม่ทำสิ่งใด ไม่ควรพูดสิ่งนั้น, ๑๗๐. โย อตฺตเหตุ ปรเหตุ ธนเหตุ จ โย นโร คนใด ถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ดี เพราะ
๑๗๑. โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย ผู้ใดสรรเสริญคนควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ, ผู้นั้นย่อม
๑๗๒. สหสฺสมปิ เจ วาจา อนตฺถปทสญฺหิตา ถ้ามีวาจาที่ประกอบด้วยข้อความซึ่งเป็นประโยชน์แม้ตั้งพัน, |