
๖. จิตตวรรค คือ หมวดจิต ๓๐. อนวฏฺฐิต จิตฺตสฺส สทฺธมฺมํ อวิชานโต เมื่อมีจิตไม่มั่นคง ไม่รู้พระสัทธรรม มีความเลื่อมใสเลื่อนลอย
๓๑. อปฺปมาณํ หิตํ จิตฺตํ ปริปุณฺณํ สุภาวิตํ จิตเกื้อกูลที่อบรมบริบูรณ์ดีแล้ว เป็นจิตหาประมาณมิได้, กรรม
สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ใดไม่อบรมให้บริบูรณ์, ทั้ง
๓๓. อานาปานสฺสติ ยสฺส ปริปุณฺณา สุภาวิตา สติกำหนดลมหายใจเข้าออก อันผู้ใดอบรมบริบูรณ์ดีแล้ว, ทั้ง
๓๔. ทิโส ทิสํ ยนฺตํ กยิรา เวรี วา ปน เวรินํ โจรกับโจรหรือไพรีกับไพรี พึงทำความพินาศให้แก่กัน, ส่วน
๓๕. ทูรงฺคมํ เอกจรํ อสรีรํ คุหาสยํ ผู้ใดจักสำรวมจิตที่ไปไกล เที่ยวไปดวงเดียว ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำ
๓๖. น ตํ มาตา ปิตา กยิรา อญฺเญ วาปิจ ญาตกา มารดาบิดาหรือญาติเหล่าอื่น ไม่พึงทำเหตุนั้นให้ได้, ส่วนจิต
๓๗. ผนฺทนํ จปลํ จิตฺตํ ทุรกฺขํ ทุนฺนิวารยํ คนมีปัญญาทำจิตที่ดิ้นรน กวัดแกว่ง รักษายาก ห้ามยาก
ฝนย่อมรั่วรดเรือนที่มุงไม่ดีฉันใด, ราคะย่อมรั่วรดจิตที่ไม่ได้
๓๙. โย จ สทฺทปฺปริตฺตาสี วเน วาตมิโต ยถา ผู้ใด มักหวาดสะดุ้งต่อเสียง เหมือนเนื้อทรายในป่า, ท่านเรียก
๔๐. วาริโชว ถเล ขิตฺโต โอกโมกตอุพฺกโต จิตนี้ถูกยกขึ้นจากอาลัยคือกามคุณ เพื่อละที่ตั้งแห่งมาร ย่อม
จิตของท่านย่อมเดือดร้อน เพราะเข้าใจผิด, ท่านจงเว้นเครื่อง
ภูเขาหินแท่งทึบ ไม่สั่นสะเทือนเพราะลมฉันใด, บัณฑิตย่อมไม่ |