๘๗. อจินฺติตมฺปิ ภวติ จินฺติตมฺปิ วินสฺสติ
น หิ จินฺตามยา โภคา อิตฺถิยา ปุริสสฺส วา.
สิ่งที่ไม่ได้คิดไว้ ย่อมมีได้. สิ่งที่คิดไว้ ก็เสียหายได้, โภคะ
ของสตรีหรือบุรุษที่สำเร็จได้ด้วยนึกเอาไม่มีเลย.
(มหาชนกโพธิสตฺต) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๑๖๗.
๘๘. อชฺฌตฺตญฺจ พหิทฺธา จ เวทนํ นาภินนฺทโต
เอวํสตสฺส จรโต วิญฺญาณํ อุปรุชฺฌติ.
บุคคลไม่เพลินเวทนา ทั้งภายในทั้งภายนอก มีสติดำเนินอยู่
อย่างนี้ วิญญาณย่อมดับ.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๔๗. ขุ. จู. ๓๐/๒๑๘.
๘๙. อชฺฌตฺตเมว อุปสเม
นาญฺญโต ภิกฺขุ สนฺติเมเสยฺย
อชฺฌตฺตํ อุปสนฺตสฺส
นตฺถิ อตฺตํ กุโต นิรตฺตํ วา.
ภิกษุพึงสงบกิเลสและบาปธรรมที่เป็นภายในเสีย, ไม่พึงแสวง
หาความสงบจากที่อื่น, เมื่อระงับภายในได้แล้ว สิ่งที่จะพึงยึดถือใหม่
ย่อมไม่มี สิ่งที่ยึดถือไว้จำจะสละจะมีแต่ไหน.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๑๔. ขุ. มหา. ๒๙/๔๒๕,๔๒๖.
๙๐. อปฺปสฺสาทา ทุกฺขา กามา นตฺถิ กามา ปรํ ทุกฺขํ.
เย กาเม ปฏิเสวนฺติ นิรยนฺเต อุปปชฺชเร.
กามทั้งหลายมีความยินดีน้อย มีทุกข์มาก ทุกข์อันยิ่งกว่ากาม
ไม่มี ผู้ใดส้องเสพกาม ผู้นั้นย่อมเข้าถึงนรก.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา เอกาทสก. ๒๗/๓๑๕.
๙๑. อพฺยาปชฺโฌ สิยา เอวํ สจฺจวาที จ มาณโว
อสฺมา โลกา ปรํ โลกํ เอวํ เปจฺจ น โสจติ.
พึงเป็นคนไม่เบียดเบียน (ผู้อื่น) และกล่าวคำสัตย์อย่างนี้ ละ
ไปจากโลกนี้ไปสู่โลกอื่นแล้ว ย่อมไม่เศร้าโศก.
(พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๓๒.
๙๒. อลโส คิหี กามโภคี น สาธุ
อสญฺญโต ปพฺพชิโต น สาธุ
ราชา น สาธุ อนิสมฺมการี
โย ปญฺฑิโต โกธโน ตํ น สาธุ.
คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามเป็นผู้เกียจคร้าน ไม่ดี, บรรพชิตไม่
สำรวม ก็ไม่ดี พระราชาไม่ทรงใคร่ครวญก่อนแล้วทำ ไม่ดี.
บัณฑิตมักโกรธ ก็ไม่ดี.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. วีส. ๒๗/๔๔๖.
๙๓. อสาเร สารมติโน สาเร จาสารทสฺสิโน
เต สารํ นาธิคจฺฉนฺติ มีจฺฉาสงฺกปฺปโคจรา.
ผู้เข้าใจสิ่งที่ไม่เป็นสาระว่าเป็นสาระ และเห็นสิ่งที่เป็นสาระว่า
ไม่เป็นสาระ เขามีความดำริผิดเป็นโคจร จึงไม่ประสบสิ่งที่เป็นสาระ.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๑๖.
๙๔. อตีตํ นานุโสจนฺติ นปฺปชปฺปนฺติ นาคตํ
ปจฺจุปฺปนฺเนน ยาเปนฺติ เตน วณฺโณ ปสีทติ.
บุคคลไม่เศร้าโศกถึงสิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ใฝ่หาสิ่งที่ยังมาไม่พึง,
ยังชีวิตให้เป็นไปด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า เพราะเหตุนั้น ผิวพรรณ
ย่อมผ่องใส.
(พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๗.
๙๕. อนวฏฺฐิตจิตฺตสฺส ลหหุจิตฺตสฺส ทุพฺภิโน
นิจฺจํ อทฺธุวสีลสฺส สุขภาโว น วิชฺชติ.
เมื่อมีจิตใจไม่หนักแน่น เป็นคนใจเบา มักประทุษร้ายมิตร
มีความประพฤติกลับกลอกเป็นนิตย์ ย่อมไม่มีความสุข.
(สิงฺคิลโพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๔๒.
๙๖. อิตฺถีธุตฺโต สุราธุตฺโต อกฺขธุตฺโต จ โย นโร
ลทฺธํ ลทฺธํ วินาเสติ ตํ ปราภวโต มุขํ.
คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน
ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ. ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย.
(พุทฺธ) สุ. ขุ. ๒๕/๓๔๗.
๙๗. อิตฺถี มลํ พฺรหฺมจริยสฺส เอตฺถายํ สชฺชเต ปชา
ตโป จ พฺรหฺมจริยญฺจ ตํ สินานมโนทกํ.
หญิงเป็นมลทินของพรหมจรรย์ ประชาชนนี้ข้องอยู่ในหญิงนี้
ตบะและพรหมจรรย์เป็นเครื่องอาบ ไม่ใช่น้ำ.
(พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๕๒.
๙๘. อุปนียติ ชีวิตมปฺปมายุํ
ชรูปนีตสฺส น สนฺติ ตาณา
เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน
โลกามิสํ ปชเห สนฺติเปกฺโข.
ชีวิตคืออายุอันน้อยนี้ ถูกชรานำเข้าไป เมื่อสัตว์ถูกชรานำ
เข้าไปแล้ว ย่อมไม่มีเครื่องต้านทาน ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น มุ่ง
ความสงบ พึงละโลกามิสเสีย.
(พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๗๗.
๙๙. อุปสนฺโต อุปรโต มนฺตภาณี อนุทฺธโต
ธุนาติ ปาปเก ธมฺเม ทุมปตฺตํว มาลุโต.
ผู้สงบ เว้นบาป ฉลาดพูด ไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมขจัดบาปธรรม
เสียได้ เหมือนลมกำจัดใบไม้ฉะนั้น.
(มหาโกฏฺฐิตเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๒๖๐.
๑๐๐. เอวญฺเจ สตฺตา ชาเนยฺยุํ ทุกฺขายํ ชาติสมฺภโว
น ปาโณ ปาณินํ หญฺเญ ปาณฆาตี หิ โสจติ.
ถ้าสัตว์พึงรู้อย่างนี้ ' ชาติสมภพนี้เป็นทุกข์ ' สัตว์ก็ไม่ควร
ฆ่าสัตว์ เพราะผู้ฆ่าสัตว์ย่อมเศร้าโศก.
(รุกฺขเทวตาโพธิสตฺต) ขุ. ชา. เอก. ๒๗/๖.
๑๐๑. กาเมสุ นาภิคิชฺเฌยฺย มนสานาวิโล สิยา
กุสโล สพฺพธมฺมานํ สโต ภิกฺขุ ปริพฺพเช.
ภิกษุไม่ควรติดในกามทั้งหลาย ควรมีใจไม่ขุ่นมัว ควรเป็น
ผู้ฉลาดในธรรมทั้งปวง ควรมีสติอยู่ทุกอิริยาบถ.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๑. ขุ. จู. ๓๐/๒๖.
๑๐๒. ตานิ เอตานิ ทิฏฺฐานิ ภวเนตฺติ สมูหตา
อุจฺฉินฺนํ มูลํ ทุกฺขสฺส นตฺถิทานิ ปุนพฺภโว.
เห็นอริยสัจแล้ว ถอนตัณหาผู้นำไปสู่ภพได้แล้ว ตัดมูลรก
แห่งทุกข์ขาดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีกต่อไป.
(พุทฺธ) ที. มหา. ๑๐/๑๐๗.
๑๐๓. ทาเนน สมจริยาย สํยเมน ทเมน จ
ยํ กตฺวา สุขิโต โหติ น จ ปจฺฉานุตปฺปติ.
คนทำกรรมใดด้วยทาน ด้วยความประพฤติสม่ำเสมอ ด้วย
ความสำรวม และด้วยการฝึกตน ย่อมมีความสุข เพราะกรรมนั้น
ย่อมไม่ตามเผาผลาญในภายหลัง.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ปกิณฺณก. ๒๗/๓๙๘.
๑๐๔. นิทฺทาสีลี สภาสีลี อนุฏฺฐาตา จ โย นโร
อลโส โกธปญฺญาโณ ตํ ปราภวโต มุขํ.
คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน มีความมุทะลุ
ข้อนั้นเป็นเหตุของผู้ฉิบหาย.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๔๖.
๑๐๕. ธโช รถสฺส ปญฺญาณํ ธูโม ปญฺญาณมคฺคิโน
ราชา รฏฺฐสฺส ปญฺญาณํ ภตฺตา ปญฺญาณมิตฺถิยา.
ธงเป็นเครื่องปรากฏของรถ ควันเป็นเครื่องปรากฏของไฟ
พระราชาเป็นเครื่องปรากฏของแว่นแคว้น สามีเป็นเครื่องปรากฏ
ของสตรี.
(พุทฺธ) ขุ. ชา. มหา. ๒๘/๓๘๖.
๑๐๖. ธมฺมาราโม ธมฺมรโต ธมฺมํ อนุวิจินฺตยํ
ธมฺมํ อนุสฺสรํ ภิกฺขุ สทฺธมฺมา น ปริหายติ.
ภิกษุรื่นรมย์ยินดีในธรรม ใคร่ครวญธรรม และระลึกถึงธรรม
อยู่เนือง ๆ ย่อมไม่เสื่อมจากพระสัทธรรม.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๖๕.
๑๐๗. ปตฺถิ โลเก รโห นาม ปาปกมฺมํ ปกุพฺพโต
ปสฺสนฺติ วนภูตานิ ตํ พาโล มญฺญเต รโห.
ชื่อว่าที่ลับของผู้ทำความชั่วไม่มีอยู่ในโลก, คนทั้งหลายเห็นเป็น
ป่า แต่คนเขลาสำคัญที่นั้นว่าเป็นที่ลับ.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๓๑.
๑๐๘. น สานกามสฺส ทโม อิธตฺถิ
น โมนมตฺถิ อสมาหิตสฺส
เอโก อรญฺเญ วิหรมฺปมตฺโต
น มจฺจุเธยฺยสฺส ตเรยฺย ปารํ.
ในโลกนี้ ผู้ที่ชอบถือตัว ย่อมไม่มีการฝึกตน, ตนมีใจไม่
มั่นคง ย่อมไม่มีความรู้, ผู้ประมาทแม้อยู่ในป่าคนเดียว ก็ข้ามฝั่ง
แห่งแดนมฤตยูไม่ได้.
(เทวตา) สํ. ส. ๑๕/๖.
๑๐๙. น ปเรสํ วิโลมานิ น ปเรสํ กตากตํ
อตฺตโน ว อเวกฺเขยฺย กตานิ อกตานิ จ.
ไม่ควรฟังคำก้าวร้าวของคนอื่น, ไม่ควรมองดูการงาน
ของคนอื่นที่เขาทำแล้วยังไม่ได้ทำ, ควรพิจารณาดูแต่การงานของ
ตนที่ตนทำแล้วและยังไม่ได้ทำเท่านั้น.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๒๑.
๑๑๐. ปมาทํ ภยโต ทิสฺวา อปฺปมาทญฺจ เขมโต
ภาเวถฏฺฐงฺคิกํ มคฺคํ เอสา พุทฺธานุสาสนี.
เห็นความประมาทเป็นภัย และเห็นความไม่ประมาทเป็นความ
ปลอดภัยแล้ว พึงเจริญมรรคมีองค์ ๘ นี้เป็นพุทธานุศาสนี.
(พุทฺธ) ขุ. จริยา. ๓๓/๕๙๕.
๑๑๑. ปิยานํ อทสฺสนํ ทุกฺขํ อปฺปิยานญฺจ ทสฺสนํ
ตสฺมา ปิยํ น กยิราถ ปิยาปาโย หิ ปาปโก.
การไม่เห็นสิ่งที่รักเป็นทุกข์ และการเห็นสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์
เหตุนั้น จึงไม่ควรทำอะไรให้เป็นที่รัก เพราะความพรากจากสิ่งที่
รัก เป็นการทราม.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๔๓.
๑๑๒. มจฺจุนพฺภาหโต โลโก ปริกฺขิตฺโต ชราย จ
หญฺญติ นิจฺจมตฺตาโณ ปตฺตหณฺโฑว ตกฺกโร.
โลกถูกมฤตยูกำจัด ถูกชราล้อมไว้ ไม่มีผู้ต้านทาน ย่อม
เดือดร้อนเป็นนิตย์ ดุจคนต้องโทษต้องทำตามอาชญาฉะนั้น.
(สิริมณฺฑเถร) ขุ. เถร. ๒๖/๓๓๕.
๑๑๓. ยํ ลภติ น เตน ตุสฺสติ
ยํ ปตฺเถติ ลทฺธํ หีเฬติ
อิจฺฉา หิ อนนฺตโคจรา
วิคติจฺฉานํ นโม กโรม เส.
บุคคลได้สิ่งใด ไม่ยินดีด้วยสิ่งนั้น, ปรารถนาสิ่งใด ดูหมิ่น
สิ่งที่ได้แล้วนั้น, เพราะความต้องการไม่มีที่สุด, พวกเราจงทำความ
นอบน้อมผู้ปราศจากความต้องการเถิด.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ทุก. ๒๗/๙๔.
๑๑๔. ยถาหิ องฺคสมฺภารา โหติ สทฺโท รโถ อิติ
เอวํ ขนฺเธสุ สนฺเตสุ โหติ สตฺโตติ สมฺมติ.
เหมือนอย่างว่า เพราะคุมส่วนทั้งหลายเข้า เสียงว่ารถย่อมมี
ฉันใด เมื่อขันธ์ทั้งหลายยังมีอยู่ การสมมติว่าสัตว์ ย่อมมี ฉันนั้น.
(วชิราภิกฺขุนี) สํ. ส. ๑๕/๑๙๘. ขุ. มหา. ๒๙/๕๓๖.
๑๑๕. ยถาปิ มูเล อนุปทฺทเว ทฬฺเห
ฉินฺโนปิ รุกฺโข ปุนเรว รูหติ
เอวมฺปิ ตณฺหานุสเย อนูหเต
นิพฺพตฺตติ ทุกฺขมิทํ ปุนปฺปุนํ.
เมื่อรากยังมั่นคงไม่มีอันตราย ต้นไม้แม้ถูกตัดแล้วย่อมงอกได้
อีกฉันใด, เมื่อตัณหานุสัยยังไม่ถูกกำจัดแล้ว ทุกข์นี้ย่อมเกิดร่ำไป
ฉันนั้น.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๖๐.
๑๑๖. ยสฺส ราโค จ โสโส จ อวิชฺชา จ วิราชิตา
โส อิมํ สมุทฺทํ สคาหํ สรกฺขสํ
สอุมฺมิภยํ สุทิตฺตรํ อจฺจตริ.
ผู้สำรอกราคะโทสะและอวิชชาได้แล้ว ชื่อว่าได้ข้ามทะเลที่
มีสัตว์ร้าย มีผู้ร้าย มีภัยจากคลื่น อันข้ามไปได้ยากนักนี้.
(พุทฺธ) สํ. สฬ. ๑๘/๑๙๗.
๑๑๗. ยสฺมึ กามา น วสนฺติ ตณฺหา ยสฺส น วิชฺชติ
กถงฺกถา จ โย ติณฺโณ วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร.
ผู้ใดไม่มีกามอยู่ ผู้ใดไม่มีตัณหา และผู้ใดข้ามความสงสัย
ได้, ผู้นั้นย่อมมีความพ้น ที่ไม่แปรผันเป็นอย่างอื่นอีก.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๔๓. ขุ. จู. ๓๐/๑๗๐.
๑๑๘. โย ทุกฺขมทฺทกฺขิ ยโตนิทานํ
กาเมสุ โส ชนฺตุ กถํ นเมยฺย
อุปธึ วิทิตฺวาน สงฺโคติ โลเก
ตสฺเสว ชนฺตุ วินยาย สิกฺเข.
ผู้ใดเป็นทุกข์ว่าเกิดเพราะกาม, ผู้นั้นจะพึงน้อม (จิต) ไปใน
กามได้อย่างไร, ผู้รู้จักอุปธิว่าเป็นเครื่องข้องในโลกแล้ว พึงศึกษา
เพื่อกำจัดอุปธิเสีย.
(พุทฺธ) สํ. ส. ๑๕/๑๗๐.
๑๑๙. โย เว ตํ สหตี ชมฺมี ตณฺหํ โลเก ทุรจฺจยํ
โสกา ตมฺหา ปปตนฺติ อุทพินฺทุว โปกฺขรา.
ผู้ใดครอบงำตัณหาลามก อันล่วงได้ยากในโลก ความโศก
ทั้งหลายย่อมตกไปจากผู้นั้น เหมือนหยาดน้ำตกจากใบบัวฉะนั้น.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๖๐.
๑๒๐. รเสสุ เคธํ อกรํ อโลโล
อนญฺญโปสี สปทานจารี
กุเล กุเล อปฺปฏิพทฺธจิตฺโต
เอโก จเร ขคฺควิสาณกปฺโป.
ผู้ไม่โลเล ไม่ทำความติดในรส ไม่เลี้ยงผู้อื่น เที่ยว
บิณฑบาตตามลำดับ มีจิตไม่ติดในสกุล พึงเที่ยวไปผู้เดียวเหมือน
นอแรด.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๓๓๗. ขุ. จู. ๓๐/๔๐๖.
๑๒๑. ริตฺตสฺส มุนิโน จรโต กาเมสุ อนเปกฺขิโน
โอฆติณฺณสฺส ปิหยนฺติ กาเมสุ คธิตา ปชา.
มุนีผู้ประพฤติตนเป็นคนว่าง ไม่เยื้อใยในกรม ข้ามโอฆะ
ได้ ประชาชนผู้ยังติดในกามก็ชอบ.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๔๙๔.
๑๒๒. วิทฺวา จ โย เวทคู นโร อิธ
ภวาภเว สงฺคมิมํ วิสชฺช
โส วีตตณฺโห อนีโฆ นิราโส
อตาริ โส ชาติชรนฺติ พฺรูมิ.
ผู้ใดรู้จบพระเวทในโลกนี้ สละเครื่องข้องในภพน้อยใหญ่ได้
แล้ว, ผู้นั้นปราศจากตัณหา ไม่มีทุกข์ ไม่มีความทะเยอทะยาน, เรา
กล่าวว่า เขาข้ามชาติและชราได้.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๕๓๖. ขุ. จู. ๓๐/๑๐๔,๑๐๗
๑๒๓. วิเวกญฺเญว สิกฺเขถ เอตทริยานมุตฺตมํ
เตน เสฏฺโฐ น มญฺเญถ ส เว นิพฺพานสนฺติเก.
พึงศึกษาวิเวก ซึ่งเป็นคุณอันสูงสุดของพระอริยะทั้งหลาย, ไม่
ถือตัวว่าเป็นผู้ประเสริฐเพราะวิเวกนั้น ผู้นั้นแล ชื่อว่าปฏิบัติใกล้พระ
นิพพาน.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๔๙๔. ขุ. มหา. ๒๙/๑๙๑.
๑๒๔. สงฺเกยฺย สงฺกิตพฺพานิ รกฺเขยฺยานาคตํ ภยํ
อนาคตภยา ธีโร อุโภ โลเก อเวกฺขติ.
พึงระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง ผู้ฉลาด
ย่อมมองดูโลกทั้ง ๒ เพราะกลัวต่ออนาคต.
(อสฺสตฺถเทวตา) ขุ. ชา. จตุกฺก. ๒๗/๑๓๖.
๑๒๕. สญฺญํ ปริญฺญา วิตเรยฺย โอฆํ
ปริคฺคเหสุ มุนิ โนปลิตฺโต
อพฺพูฬฺหสลฺโล จรมปฺปมตฺโต
นาสึสติ โลกมิมํ ปรญฺจ.
กำหนดรู้สัญญาแล้วพึงข้ามโอฆะได้ เป็นมุนีไม่ติดในสิ่งที่
หวงแหน ถอนลูกศรแล้วเที่ยวไป ไม่ประมาท ชื่อว่าไม่หวังโลกนี้
และโลกหน้า.
(พุทฺธ) ขุ. สุ. ๒๕/๔๘๖. ขุ. มหา. ๒๙/๗๑.
๑๒๖. สนฺตํ ตสฺส มนํ โหติ สนฺตา วาจา จ กมฺม จ
สมฺมทญฺญา วิมุตฺตสฺส อุปสนฺตสฺส ตาทิโน.
เมื่อพ้นเพราะรู้ชอบ สงบคงที่แล้ว ใจคอของเขาก็สงบ คำพูด
และการกระทำก็สงบ.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๒๘.
๑๒๗. สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานาสนํ.
การไม่ทำบาปทั้งปวง การยังกุศลให้ถึงพร้อม การทำจิตของ
ตนให้ผ่องแผ้ว, ๓ ข้อนี้เป็นคำสั่งสอนของท่านผู้รู้ทั้งหลาย.
(พุทฺธ) ขุ. ธ. ๒๕/๓๙.
๑๒๘. สาธุ ธมฺมรุจี ราชา สาธุ ปญฺญาณวา นโร
สาธุ มิตฺตานมทฺทุพฺโภ ปาปสฺสากรณํ สุขํ.
พระราชาดี ที่ทรงยินดีในธรรม, คนดี ที่มีปัญญา, เพื่อดี
ที่ไม่ประทุษร้ายมิตร, สุข อยู่ที่ไม่ทำบาป.
(โพธิสตฺต) ขุ. ชา. ปญฺญาส. ๒๘/๒๐.