ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 17 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ขอเชิญสมัครสมาชิกอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม twitter วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


ความสุขถ้าไม่รู้จักหา ก็ไม่มี แต่ความทุกข์ไม่ต้องหาก็มีตลอด โดย... ธรรมธาดา

                                            


       คนดีก็รักที่จะทำแต่ความดี มีให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นต้น คนดีย่อมไม่คิดตำหนิติเตียนผู้อื่นด้วยเจตนามุ่งร้าย การคิดเพ่งโทษผู้อื่น ก็ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายใจให้กับตนเอง หากจะตำหนิติเตียนเพื่อโอปนยิโก  น้อมมาสอนใจตนเอง ให้ละชั่ว ทำดี ก็ยังพอเป็นประโยชน์ต่อตนเองได้บ้าง  การตำหนิติเตียนผู้อื่นเปล่าๆ แม้เป็นความถูกต้อง นักปราชญ์ก็ไม่สรรเสริญ  เพราะผู้ที่ตั้งหน้าติเตียนคนอื่น ย่อมมีจิตอันขุ่นมัว และแค้นเคืองต่อการทำไม่ดีของคนอื่นตลอดไป ซึ่งโลกนี้มีคนไม่ดีอยู่เป็นจำนวนมาก และคนไม่ดี ก็ย่อมทำสิ่งที่ไม่ดีเป็นธรรมดา หากมัวแต่โกรธเคืองคนที่ทำไม่ดี ก็ต้องโกรธไปตลอดชาติ เพราะคนที่ทำไม่ดี ไม่มีวันจะหมดสิ้นไปจากโลก ต้องคอยโกรธคอยเกลียดกันอยู่ร่ำไป ก็จะเป็นการหาทุกข์ให้กับตัวเอง อย่างไม่มีวันสิ้นสุด

       เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญาจึงไม่นิยมติเตียนใครๆโดยไม่มีเหตุผลอันควร  เพราะนอกจากจะทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทกันแล้ว ยังอาจถูกทำร้ายอีกต่างหาก เพราะคนไม่ดีก็ย่อมทำในสิ่งที่ไม่ดี  ควรพิจารณาสิ่งที่ประสบพบเห็นไม่ว่าจะเป็นความดีหรือความชั่ว ให้เข้าใจถึงเหตุแห่งความดี ความชั่ว นั้นๆ เพื่อน้อมมาสอนใจตนเอง และนำไปปฏิบัติในสิ่งที่ตนเห็นว่าดี และละเว้นไม่ปฏิบัติ ในสิ่งที่ตนเห็นว่าไม่ดี  จึงจะชื่อว่า เป็นผู้มีปัญญารู้รักษาตนให้รอดพ้นจากความเป็นมิจฉาทิฏฐิได้  สิ่งที่เป็นภัยสร้างทุกข์ให้กับตัวเองมากที่สุดนั้น คือ ความคิดที่ผิดจากคลองธรรมซึ่งมีอยู่ในใจของแต่ละคน และถูกผลักดันออกมาโดยไม่รู้ตัว มิหนำซ้ำยังหลงเข้าใจผิดว่าเป็นความคิดที่ดี  หลายคนจึงต้องเผชิญกับทุกข์อย่างไม่รู้สาเหตุ เพราะฉะนั้น อย่าเชื่อความคิดตัวเองให้มากไป ควรตรวจตรองดูให้เป็นไปตามหลักธรรมเสียก่อน

       ผู้โง่เขลาเบาปัญญานั้น  มักชอบอวดตน สำคัญตนว่าฉลาด พอใจแต่จะเพ่งโทษของผู้อื่น  โทษของตนเองกองเท่าภูเขา ก็ไม่สนใจใยดี  วันคืนล่วงไปๆ ก็ไม่อาจยกตนออกจากความชั่วช้าเลวทรามได้  เหมือนหมู่หนอน ที่เพลิดเพลินอยู่ในกองมูตรกองคูถ  ไม่เคยคิดที่จะออกจากกองมูตรกองคูถนั้น
 
       คนโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เคยคิดว่า ความคิดของตนเองจะเป็นตัวสร้างทุกข์สร้างภัย ให้กับตนเองโดยแท้  จึงสนุกใช้ความคิดนั้น ย่ำยีตนเอง อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก  นอกจากจะทำร้ายจิตใจตนเองด้วยความคิดไม่ดีแล้ว ยังอาจทำร้ายผู้อื่นด้วยการกระทำที่ไม่ดี อย่างที่คิดไว้นั้น อีกด้วย
 
      
ส่วนคนฉลาด ย่อมเห็นว่า  ไม่มีอะไรจะสร้างพิษสร้างภัยให้กับจิตใจตนเอง ยิ่งไปกว่าความคิดปรุงของตนที่เกิดขึ้นที่ใจ  เพราะเหตุนั้น  ผู้ฉลาดจึงมักตั้งสติ กำหนดดูความคิดปรุงของใจอย่างเอาจริงเอาจัง  ไม่ให้ความคิดปรุงที่ไม่ดี เกิดขึ้นมาย่ำยีจิตใจตนเองได้  การรู้จักควบคุมความคิด ให้อยู่ในกรอบแห่งธรรม คือความดีงาม ย่อมเป็นคุณประโยชน์อันใหญ่หลวง ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น

       เพราะเหตุนั้น จึงว่า คนดีทำดีได้ง่าย จะให้ทำชั่วนั้น เป็นไปได้ยาก เพราะคนดีย่อมไม่คิดเบียดเบียนผู้อื่น คนดีย่อมมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา คือพรหมวิหารสี่ เป็นเครื่องอยู่  ตรงกันข้ามกับคนชั่ว ที่ทำดีทำได้ยาก แต่จะทำชั่วนั้น เป็นไปได้ง่ายมาก เพราะทำจนเคยชินอยู่แล้ว เพราะจิตใจเต็มไปด้วย กิเลส คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง อย่างที่ไม่เคยสำเหนียกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นภัยเป็นข้าศึก เป็นตัวสร้างทุกข์สร้างภัยให้กับตนเองมาแล้วอย่างมากมาย
 
       ผู้มีปัญญาจึงไม่ควรคิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้  หรือถึงแม้เป็นไปได้ แต่ยังไม่ถึงกาลอันควรเป็นไป  ใครมัวนั่งคิดอยู่ ก็เท่ากับหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตนโดยแท้  ควรคิดในสิ่งที่จะเป็นไปได้ และเป็นไปในปัจจุบันอยู่เสมอ ได้ชื่อว่า เป็นผู้เห็นโทษเห็นภัย ในวัฏฏสงสาร และมีความมุ่งมั่นพยายามที่จะก้าวให้พ้นไปจากทุกข์ทั้งปวงโดยชอบ
 
       คนเรานั้น ถ้ารู้จักกำจัดความคิดที่ไม่ดี อันบังเกิดขึ้นภายในใจ แม้เพียงวันละเล็กละน้อย  ก็ถือว่าเป็นบุญอักโขอักขังแล้ว ความสุขไม่ต้องไปถามหามันก็ได้ เมื่อความคิดไม่ดีลดน้อยลง ทุกข์ก็ลดน้อยลงไปตามๆกัน ความสุขก็มีมาเอง ความคิดที่ไม่ดีนั้น ก็คือ ความคิดโลภอยากได้ของคนอื่น ความคิดอาฆาตพยาบาทปองร้ายผู้อื่น ความคิดที่ทวนกระแสแห่งธรรม เหล่านี้ใครมีมากก็ยิ่งทุกข์มาก
 
       และถ้ามัวคิดแต่ในเรื่องชั่วร้ายตามการชักนำของกิเลส และคิดเพ่งโทษผู้อื่นอยู่ทั้งกลางวันกลางคืน ไม่เห็นโทษแห่งความคิดปรุงไม่ดี ของตนเองบ้างเลย  จะวิ่งไล่หาความสุขอย่างไร ก็ไม่มีวันได้พบเห็น

       ความสุขย่อมมีอยู่ที่ใจ แต่ต้องหาวิธีที่จะไม่ทำให้ทุกข์มันเกิดขึ้นมาย่ำยีจิตใจ ด้วยการไม่สร้างเหตุที่จะให้ทุกข์มันเกิด ในขณะเดียวกัน ก็พยายามทำเหตุที่จะให้ความสุขมันเกิดขึ้นมาแทน อยากมีความสุขแบบง่ายๆ ก็ให้ระวังความคิดของตัวเองให้ดี  คิดในวงปัจจุบันที่เป็นไปได้ และถือเอาประโยชน์ได้ ถ้าจะคิดถึงอดีต อนาคต ก็ควรเป็นอคีต อนาคตที่เกี่ยวข้องกับปัจจุบันเท่านั้น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับปัจจุบัน ก็ไม่ควรคิด เพราะเท่ากับเป็นการฝันลมๆแล้งๆ  หรืออย่างที่นิยมเรียกกันว่า เป็นการสร้างวิมานในอากาศ และการคิดในวงปัจจุบัน ก็ควรคิดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่น  ควรคิดในสิ่งที่จะเป็นไปได้ ที่มันเป็นไปไม่ได้ก็ไม่ควรคิด  ฝึกหัดควบคุมความคิดของตนเองให้ได้อย่างนี้  แล้วนานๆไป ความสุขก็จะมีมาเอง
 
ถ้าทำตรงกันข้าม ถึงอยากได้ความสุขอย่างไร ก็ไม่มีวันจะได้พบเห็นไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ

ธรรมธาดา




สมถวิปัสสนาในชีวิตประจำวัน

หนังสือ"ชีวิตนี้น้อยนัก" พระนิพนธ์ของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
หนังสือญาณสัมปันนธัมมานุสรณ์
หนังสือ "ชาติสุดท้าย" ของหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ดาวน์โหลดคลิกเลย
หนังสือกายคตาสติ สำหรับผู้สนใจฝึกจิตชั้นสูง
หนังสือนวโกวาท
มาฟังบทสวดมนต์ธิเบตที่เขาว่าเพราะๆ
ดีใดไม่มีโทษ ดีนั้นชื่อว่า ดีเลิศ
ศีลเป็นรากแก้วของศาสนา โอวาท ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
มงคล ๓๘ โดย..ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์