
ความจริงที่ยากจะมองเห็น สิ่งที่กำจัดทำลายได้ยากที่สุด และก่อกวนจิตใจมนุษย์ให้เป็นทุกข์มากที่สุดก็คือ กิเลสกามที่ฝังอยู่ในใจคน และที่เลวร้ายยิ่งไปกว่านั้นก็คือ จะหาคนที่เห็นโทษของกิเลสกาม มุ่งมั่นทำความเพียรเพื่อที่จะกำจัดทำลายล้างกิเลสกามให้หมดสิ้นไปจากใจนั้น หาแทบไม่มีเลย ถ้าใครได้เสพสิ่งเหล่านี้ ก็มักเกิดความยินดีชอบอกชอบใจ อยากได้และติดพัน มีอย่างนี้ก็อยากจะได้อย่างนั้น มีอย่างนั้นแล้วก็อยากจะได้อย่างโน้น ไม่เคยคิดเบื่อหน่าย มีแต่จะติดพันหนักหน่วงรุนแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
พอได้มาเสพสมอารมณ์หมาย ก็เกิดเป็นความสุขใจพอใจเกิดความยินดีติดอยู่ในกลมายาของกิเลสกามเสียทั้งหมด สัตว์โลกจึงมองเห็นกามเป็นคุณ ไม่มีสัตว์โลกแม้รายเดียวที่จะไม่หลงใหลไปกับกามคุณทั้ง ๕ นี้ เว้นไว้แต่ผู้ทรงอริยธรรมชั้นสูงเท่านั้น
.
และอีกอย่างหนึ่ง เพราะสัตว์โลกหลงใหลในเสน่ห์เย้ายวนใจของกามคุณ ๕ นี้ จึงเป็นเหตุให้ต้องมาเวียนว่ายตายเกิด และได้มาเกิดในภพชาติมนุษย์ ได้อาศัยร่างมนุษย์นี้สร้างสมคุณงามความดีต่าง ๆ จนกระทั่งได้บรรลุอริยธรรมนำไปสู่ความดับทุกข์ทั้งปวงได้ อันนี้ก็ล้วนเป็นเพราะมีกิเลสกามเป็นเหตุพาให้มาเกิด เพราะความหลงใหลในกามคุณ ๕ นี้ ถ้าจะบอกว่า กามเป็นคุณ ก็ต้องถือว่า อันนี้ก็คือ คุณของกามอย่างหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้
.
นอกนั้นก็เห็นมีแต่โทษของกาม เพราะการที่สัตว์โลกล้วนติดอยู่ในกามคุณ ๕ นี้ ถ้าใครหลงมัวเมาเสพกามคุณ ๕ จนเกินพอดี มันก็กลายเป็นโทษได้ เพราะกิเลสกามเมื่อมีมากจนเกิดขอบเขต ย่อมสามารถก่อให้เกิดทุกข์โทษภัยนานัปการ เพราะจิตใจที่หมกมุ่นอยู่ด้วยกิเลสกาม ย่อมสั่งสมความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้มากขึ้นจนสามารถที่จะกระทำชั่วช้าลามกต่าง ๆ ได้อย่างไร้ขอบเขต
.
ทุกสรรพสิ่งในโลกย่อมมีทั้งคุณและโทษอยู่ในตัวมันเอง ขึ้นอยู่กับว่า เราจะเลือกใช้สิ่งนั้นให้เป็นประโยชน์ในทางใด ก็ต้องรู้จักใช้สติปัญญาคิดอ่านใคร่ครวญให้ดี และเลือกทำเอาเอง เลือกใช้ในสิ่งที่เป็นคุณ เป็นประโยชน์ หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะเป็นโทษเป็นภัยไปเสียให้ห่างไกล
.
ถ้าใช้กามคุณ ๕ ไปในทางดี คือใช้เป็นเครื่องมือสร้างสมคุณงามความดีต่าง ๆ มีให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ อบรมปัญญา ให้ดำเนินไปในทางอริยมรรคมีองค์ ๘ ไม่ประกอบการทุจริตผิดศีลผิดธรรม อย่างนี้กามก็เป็นคุณ
.
แต่ถ้าใครตั้งหน้าตั้งตาเสพกามคุณ ๕ อย่างหลงใหลมัวเมาอยู่นอกทางอริยมรรค ไม่คำนึงถึงว่า จะผิดศีลผิดธรรมหรือไม่อย่างใดเลย ถึงแม้จะผิดศีลผิดธรรมก็ยังพึงพอใจที่จะเสพกามคุณ ๕ นั้นอยู่ อย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่รู้ดีรู้ชั่ว เช่นนี้ กามก็กลายเป็นโทษแก่ผู้นั้น เพราะใจจะสั่งสมแต่บาปขาดศีลขาดธรรม ไม่มีสติปัญญารู้ดีรู้ชั่ว ก็เป็นเหตุให้จิตใจดำดิ่งไปสู่อบายภูมิ
.
ดังนั้น ชาวพุทธจึงควรต้องรู้ว่า วัตถุกามเป็นของมีอยู่คู่โลกไม่ใช่กิเลส แต่ตัวกิเลสแท้คือกิเลสกามที่สิงอยู่ในใจคน คือความหลงมัวเมายึดติดอยู่ในวัตถุกามทั้งหลาย นี้ จึงเป็นตัวกิเลสที่ก่อภพก่อภัยที่จำเป็นต้องกำจัดให้หมดสิ้นไปจากใจโดยถ่ายเดียว และเครื่องมือปราบกิเลสกามที่ได้ผล ก็มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ เท่านั้นเอง
.
ดังนั้น หากใครยังมีสติปัญญาไม่มากพอที่จะกำจัดมันได้ ก็ต้องหมั่นรักษาศีล เจริญสมาธิ อบรมปัญญาอยู่เสมอ เพื่อควบคุมกิเลสกามให้อยู่ในความพอดีให้ได้ คือให้อยู่ในขอบเขตแห่งศีลเป็นกำแพงขวางกั้นในเบื้องต้น ต้องอย่าให้กิเลสกามทะลุกำแพงศีลออกไปได้ หากใครทำได้ ก็จึงได้ชื่อว่า ใช้กามคุณ ๕ ให้เป็นคุณได้อย่างแท้จริง
.
จากนั้นการอบรมสมาธิ เจริญปัญญาในระดับสูงก็จะค่อย ๆ เป็นไปได้เรื่อย ๆ จนกระทั่งสามารถขุดรากถอนโคนกิเลสกามออกจากใจได้ก็เป็นอันไม่ต้องมาเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสารอีกเป็นตลอดอนันตกาล
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๕_๑๐
|
สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส