วันนี้ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๑ ก็เป็นวันเข้าพรรษา แรม ๑ ค่ำ เดือน ๘-๘ (หลัง) ฤดูฝนจะเริ่มต้นในวันนี้
.
เมื่อถึงกาลเข้าพรรษาในแต่ละปี โบราณาจารย์แต่ปางก่อน ท่านได้สอนสืบ ๆ กันมาว่า ควรที่ชาวพุทธจะทำบุญกุศลคุณความดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามสมควรแก่กำลังความสามารถของตน ใครจะตั้งสัจจะอธิษฐานอย่างไร ก็ให้กระทำเสียแต่ในวันนี้อาทิเช่น
.
๑. จะใส่บาตรพระให้ได้ทุกวัน ๆ ละ หนึ่งองค์ สององค์ สามองค์ ก็แล้วแต่จะทำ ถ้าทำแล้วตั้งใจตัดกิเลสความโลภ ความตระหนี่ถี่เหนียว ความเห็นแก่ตัว ออกไปจากใจเสียได้ด้วย ยิ่งทำมากก็ยิ่งดีเลิศประเสริฐแท้ จนกว่าทานบารมีจะเต็ม อย่าทำทานแล้วหวังอยากได้โน่น อยากได้นี่ จะกลายเป็นทำทาน แต่สั่งสมความโลภให้มีมากขึ้น อย่างนี้แย่นะ! ถึงจะได้บุญ แต่ก็น้อยมาก
.
๒. จะรักษาศีลห้า ศีลแปดให้ได้ตลอดพรรษา หรือเอาเฉพาะวันพระ วันรับ วันส่ง ก็ดีทั้งนั้น แล้วแต่จะเลือกทำเอา ยิ่งทำมาก ความดีก็ยิ่งมากไปตาม
.
เพราะการรักษาศีล คือการไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่ทำร้ายคนอื่น ไม่เอาทุกข์ไปให้คนอื่น ตัวเรารักสุขเกลียดทุกข์ฉันใด คนอื่นก็รักสุขเกลียดทุกข์ฉันนั้น ถ้าเรารักสุขแต่กลับเอาทุกข์ไปยัดเยียดให้คนอื่นได้ลงคอ ใจเราก็เป็นมิจฉาทิฏฐิเห็นผิดไปจากคลองธรรม ก็เป็นอันปิดกั้น มรรค ผล นิพพาน เสียเอง ไม่ดีเลย!
.
๓. จะทำวัตรสวดมนต์ทุกเช้า-ค่ำ ให้ได้ทุกวัน ๆ ละ ๓๐ นาที ๔๐ นาที ๕๐ นาที ก็แล้วแต่จะทำ ย่ิงทำมากจิตใจก็ยิ่งปลอดโปร่งชุ่มชื่นสดใสเบิกบานมากขึ้นไปตาม เพราะการสวดมนต์ ได้ชื่อว่า เอาเสียงบูชาคุณพระพุทธเจ้า บทสวดมนต์ก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า สวดสาธยายเพื่ออาศัยเสียงสวดมนต์กล่อมจิตให้สงบเป็นสมาธิเบื้องต้น
.
ไม่ใช่สวดมนต์เพื่อสั่งสมกิเลส ความโลภ สวดมนต์ให้มีเงินหมื่นเงินแสนเงินล้านไหลมาเทมา หรือให้อยู่ยงคงกระพัน ไม่ต้องแก่ ไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องตาย ล้วนเป็นเรื่องบ้าบอคอแตกทั้งนั้น
.
สวดมนต์เพื่อให้จิตสงบรู้ธรรมเห็นธรรมก็พอแล้ว อย่างอื่นจะมีจะได้อะไร เดี๋ยวมันเป็นเอง ไม่ต้องไปทำความอยากให้กิเลสมันหัวเราะเยาะเอาเปล่า ๆ
.
๔. จะนั่งสมาธิทุกเช้า-ค่ำ ให้ได้ทุกวันหลังจากทำวัตรสวดมนต์แล้ว หรือเวลาใดที่เหมาะที่ควร อย่างน้อยวันละ ๑๐ นาที ๒๐ นาที ๓๐ นาที ก็แล้วแต่จะทำ ยิ่งทำมากจิตใจก็ยิ่งสงบผ่องใสเป็นสมาธิมากยิ่งขึ้นไปตาม
.
เปรียบการสวดมนต์เป็นเหมือนการซ้อมรบ การนั่งสมาธิก็คือการเข้าสู่สนามรบจริง มันจะส่งเสริมซึ่งกันและกันให้มีความชำนาญช่ำชองยิ่ง ๆ ขึ้นไป
.
๕. จะพิจารณาสังขารคือร่างกายและจิตใจ นี้ น้อมลงสู่ไตรลักษณ์ โดยความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ให้ได้ทุกวัน เท่าที่จะพิจารณาได้ ก็จะเป็นเหตุให้ได้สติปัญญา เกิดความรู้แจ้งเห็นจริงในพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สามารถละวางอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นเสียได้
.
เมื่ออุปาทานไม่มีแล้ว จิตก็จะหลุดพ้นจากอาสวะกิเลส เป็นเหตุให้ได้บรรลุถึงธรรมวิเศษ คือพระนิพพาน ซึ่งเป็นธรรมชาติดับเพลิงกิเลสและกองทุกข์ อันเป็นผลที่สุดแห่งความดีในพระพุทธศาสนา
.
เหตุนั้น ควรที่พวกเราชาวพุทธจงตั้งใจฝึกตนให้ตั้งอยู่บนหนทางแห่งความดี อย่าได้กระทำผิดศีลผิดธรรม อันจะเป็นเหตุนำมาซึ่งความเดือดร้อนเผาผลาญใจในภายหลัง
.
ทรัพย์สมบัติทั้งปวงล้วนเป็นของนอกกาย จะมีมากจนเป็นเศรษฐีมหาเศรษฐี หรือจะมีน้อยจนกลายเป็นยาจกขอทาน ก็ช่างมันเถอะ ให้พอใจตามที่ตนมีตนได้ เรามีอย่างนี้ก็จงพอใจอย่างนี้ อยากได้มากกว่านี้ ก็จงหามาให้ได้ด้วยความดี อย่าไปทำชั่วแล้วได้มา มันจะได้ไม่คุ้มเสีย
.
เพราะสมบัติทั้งปวงมีมากเท่าไร พอตายแล้วก็ต้องทิ้งไปเท่านั้น ไม่มีใครจะหอบเอาอะไรไปได้ แม้ยังไม่ตายก็แค่เอามาปรนเปรอร่างกายนี้พอให้มันดำรงอยู่ได้เท่านั้น จะเลี้ยงมันดีแค่ไหน หรือจะเลี้ยงมันแบบอด ๆ อยาก ๆ สุดท้ายก็ต้องตายเหมือน ๆ กัน เน่าเหม็นเหมือน ๆ กัน ศพเศรษฐีกับศพขอทาน ก็ไม่มีศพใครหอมกว่าใครหรอก
.
ถ้าจะเป็นคนจนก็ให้จนอยู่กับความดี ถ้าจะเป็นคนรวยก็ให้รวยอยู่กับความดี อย่าไปทำชั่ว ทำผิดศีลผิดธรรม มันจะกลายเป็นบาปเผาผลาญใจให้เดือดร้อนในภายหลัง
.
เพราะทั้งบุญและบาป ไม่ใช่ของที่เราจะทิ้งเอาไว้ แต่มันจะติดตามดวงจิตของเราไปทุกภพทุกชาติ ไม่ใช่แค่ติดตามไปเฉย ๆ แต่มันยังมีอิทธิพลชักนำให้เราไปสู่สุคติโลกสวรรค์ หรือไปสู่ทุคติอบายภูมิได้ด้วย
.
บุญย่อมให้ผลเป็นความสุข อยากมีความสุขก็ต้องสั่งสมบุญให้มาก คือความดีทุกประเภท เพราะทำดีก็ย่อมเป็นเหตุให้ได้รับผลดี ผู้มีสติปัญญาจึงต้องเลือกทำแต่ความดี ละเว้นความชั่ว ไม่ทำเสียเลยดีกว่า
.
ส่วนบาปย่อมให้ผลเป็นความทุกข์ อยากมีความทุกข์ก็ต้องสั่งสมบาปให้มาก คือความชั่วทุกชนิด ตั้งหน้าตั้งตาทำแม่ม.. เข้าไป เพราะทำชั่วก็ย่อมเป็นเหตุให้ได้รับผลชั่ว ผู้โง่เขลาเบาปัญญา จึงเลือกทำแต่ความชั่ว โดยละเว้นความดีไปเสีย
.
บุญวาสนาล้วนอยู่ที่ใจของพวกเราทุกคน หากไม่มีก็ทำให้มีได้ แม้มีน้อยก็ทำให้มีมากขึ้นได้ ถ้ามีมากอยู่แล้วก็ทำให้มีมากยิ่ง ๆ ขึ้นไปได้
.
ตราบใดที่ใจเรายังมีกิเลสตัวสกปรกหมักหมมอยู่ จงหมั่นสร้างสมบุญวาสนาขึ้นที่ใจให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ จงตั้งใจทำความดีให้ถึงที่สุด แม้จะตายก็จงยอมตายเถอะ แต่จะไม่ยอมทำความชั่วอย่างเด็ดขาด
.
นี่แหละ! ใจของผู้ที่มีบุญวาสนา ใจของผู้ที่จะก้าวข้ามภพข้ามชาติ ใจของผู้ที่จะก้าวเข้าสู่พระนิพพาน เป็นใจเช่นนี้เอง ใจที่สามารถสละชีพบูชาธรรมได้ ใจย่อมอยู่เหนือบุญเหนือบาปเหนือความดีความชั่วทั้งปวง