
หากินแบบผิดศีลผิดธรรม ทุกวันนี้คนเราก็หากินกันแปลก ๆ นะ ทำได้ทุกรูปแบบ อะไรที่จะทำให้มีลาภสักการะชื่อเสียงเงินทอง ก็หยิบฉวยเอาทันที โดยไม่คำนึงถึงว่า วิธีการที่ได้มาจะผิดศีลผิดธรรมอะไรหรือไม่
.
มีผู้ส่งคลิปมาให้ เขาลงคลิปใน TikTok โดยอ้างว่า เป็นคำทำนายของหลวงตามหาบัว แต่เขาฉลาดพูดให้กำกวม ไม่ได้ระบุชัดว่าเป็น หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด แต่ให้คนคิดเอาเอง
.
ใครเป็นศิษย์องค์หลวงตา และเป็นทนายความ ช่วยไปถามเขาดูทีว่า หลวงตามหาบัว ที่เขาอ้างถึงในคลิป คือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด ใช่หรือไม่?
.
ถ้าเขาบอกว่า ใช่! ให้ถามต่อไปว่า คำทำนายที่เขาว่านั้น เขาได้ยิน ณ ที่ใด? วันใด? เวลาใด? เขาได้ยินกับหูตัวเองหรือไม่? มีการบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐานไหม? จะได้ให้ทางลูกศิษย์องค์หลวงตาตรวจสอบดูว่า เป็นความจริงไหม? เพราะคำพูดขององค์หลวงตาย่อมมีการบันทึกไว้ตลอดเวลา และเราแน่ใจว่า องค์หลวงตา ไม่มีวันจะพูดอย่างนั้น
.
ถ้าเขาบอกว่า ไม่ใช่องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด ก็แล้วกันไป
.
ส่วนจะเป็นหลวงตามหาบัว องค์ไหน? มีอยู่จริงหรือไม่? ที่มีญาณแก่กล้าตามที่เขาพูด ก็คงต้องไปสืบเสาะค้นหากันเอาเอง ทางที่ดีก็ให้เขาบอกให้ชัดเจนว่า หลวงตามหาบัว ที่เขาเอ่ยถึงนั้น เขาหมายถึงใคร?
.
คนเราถ้าจะตั้งตัวเองเป็นอาจารย์สอนธรรม ควรพูดความจริงให้ชัดเจน อย่าใช้เล่ห์เพทุบาย ด้วยเจตนาจะพูดให้คนหลงเข้าใจผิด มันไม่ใช่วิสัยของผู้มีธรรม คนที่พูดโกหกได้ทั้ง ๆ ที่รู้ มันก็ทำชั่วได้ทุกอย่างนั่นแหละ! ให้จำเอาไว้
.
ส่วนใหญ่ชอบเอาคำพูดของตัวเองไปยัดใส่ปากครูบาอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่คนเคารพนับถือให้ท่านพูดแทน นี่แหละ!! ที่เรียกว่า สัทธรรมปฏิรูป หลอกคนโง่ให้หลงไปตาม อย่างเช่น พวกกล่าวตู่คำตรัสของพระพุทธเจ้า ก็อ้างแต่ว่าเป็นคำของพระพุทธเจ้า ทั้งที่ปากตัวเองพูดเองเออเอง
.
พ่อแม่ครูอาจารย์ องค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน ที่เหล่าศิษย์เคารพนับถือนั้น องค์ท่านดับขันธ์เข้าสู่พระนิพพานไป ๑๒ ปีแล้ว เราเองก็ไม่เคยได้ยินว่า องค์ท่านเคยพูดทำนายแบบนั้นไว้ที่ไหน เมื่อไหร่ ถ้าเป็นกรรมฐานแหวกแนว ก็ใช่เลยนะ! แต่กรรมฐานแนวใหม่ นี่! ไม่เคยได้ยินจริง ๆ
.
เพราะไอ้กรรมฐานแนวใหม่ ที่ง่าย ลัด สั้น ที่จะทำให้คนบรรลุธรรมได้ง่าย ๆ และรวดเร็ว เนี่ย! กิเลสมันชอบ มันไม่ใช่กรรมฐานแนวใหม่ มันเก่าแล้ว เพราะกิเลสมันใช้หลอกต้มข้าทาสบริวารของมันมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาลโน่น!
.
ถ้ามันมีวิธีทำได้จริง พระพุทธเจ้าก็เอามาสอนก่อนนานแล้ว เพราะพระองค์ปรารถนาที่จะรื้อขนสัตว์ให้พ้นจากทุกข์ไปด้วยกัน จะมาสอนวิธียาก ๆ ไปทำไม ถ้าใครบอกว่า มีทางลัดทำกรรมฐานได้ง่าย ๆ และเห็นผลเร็ว ก็แสดงว่า คนนั้นเก่งกว่าพระพุทธเจ้า
.
แม้กระทั่งองค์หลวงตา กว่าจะได้บรรลุ มรรค ผล นิพพาน ท่านก็ยังออกปากว่า ถึงขั้นเดนตาย และองค์ท่านก็ยอมรับว่า องค์ท่านฝึกจิตแบบปฏิปทาทรหด อย่างที่เรียกว่า ทุกขาปฏิปทา ทันธาภิญญา คือทั้งปฏิบัติลำบาก และรู้ได้ช้า กว่าจะรู้ได้ก็ต้องนั่งสมาธิสู้กับเวทนาตลอดรุ่งจนถึงก้นแตกก้นพอง
.
ส่วนประเภทที่เป็นสุขาปฏิปทา ขิปปาภิญญา คือ ทั้งปฏิบัติได้ง่าย และรู้ได้เร็ว นั้น ผู้ที่ท่านทำได้ง่ายก็ยอมรับว่ามี แต่นั่นเป็นเฉพาะสำหรับผู้อบรมบ่มนิสัยวาสนาบารมีมาบริบูรณ์แล้ว จนมีอริยมรรคฝังมาในขันธสันดาน ไม่สาธารณะที่ใคร ๆ นึกอยากจะเป็น ก็เป็นขึ้นมาได้เอง ไม่ใช่อย่างนั้น
.
ส่วนเรื่องของฌาน ไม่ว่าจะเป็น รูปฌาน ๔ อรูปฌาน ๔ ถ้าได้ทั้งสองเรียกว่า สมาบัติ ๘ ก็เป็นได้เฉพาะผู้มีจริตนิสัยที่จะได้ฌานเท่านั้น ไม่สาธารณะกับบุคคลทั่วไป
.
ผู้ที่ได้สมาบัติ ๘ เมื่อได้บรรลุธรรมสำเร็จพระอนาคามี หรือพระอรหันต์ ก็จะสามารถเข้านิโรธสมาบัติได้ จะมีฤทธิ์มีอภิญญา อาจมีวิชชา ๓ ที่เรียกว่า เตวิชโช หรืออภิญญา ๖ ที่เรียกว่า ฉฬภิญโญ จนถึงจตุปฏิสัมภิทัปปัตโต หรือที่เรียกว่า ปฏิสัมภิทาญาณ ๔
.
ท่านเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ชำนาญในสมาบัติ ๘ มาก่อนทั้งนั้น เรียกว่าเป็นผู้มีความรู้พิเศษตามนิสัยวาสนาบารมีของแต่ละท่านที่ได้บำเพ็ญมาไม่เหมือนกัน
.
ส่วนผู้ไม่มีจริตนิสัยในทางฌาน รักษาศีล เจริญสมาธิ อบรมปัญญาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ได้ ก็สามารถบรรลุมรรค ผล นิพพานได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ไม่มีฤทธิ์ ไม่มีอภิญญาดังกล่าวแล้ว
.
ส่วนพวกที่ชอบคุยว่า เข้าฌานได้เร็วภายใน ๓ วิ ๕ วิ ๑๐ วิ ก็เถอะ ถ้าทำได้จริงก็ถือว่า เก่งมาก น่ายกย่อง ใครที่เป็นลูกศิษย์ก็ควรลองทดสอบดูสักหน่อยก็ได้ว่า เข้าฌานได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า?
.
ธรรมท่านสอนไม่ให้เชื่อใครง่าย ๆ ยิ่งยุคสมัยนี้คนดีแต่พูดมันมีเยอะ บางคนพูดอย่าง ทำไปอีกอย่าง ใจคิดไปอีกอย่าง โห! ปลิ้นปล้อนหลอกลวง โคตรน่าขยะแขยงมาก
.
วิธีทดสอบก็ทำได้ง่าย ๆ ให้เขาเข้าฌานให้ดูต่อหน้าคนหลาย ๆ คนเพื่อเป็นสักขีพยาน พอได้เวลาที่เขากำหนดว่า เข้าฌานได้ ก็ให้เอาไม้หน้าสามฟาดลงไปที่หัวกระบาล ค่อย ๆ ฟาดไปตามขั้นตอนไล่ตั้งแต่เบาไปหาหนัก ถ้าหัวไม่แตก ก็แสดงว่า เขาเข้าฌานได้จริง แต่ถ้าหัวแตกก็แสดงว่า มันขี้โม้ พิสูจน์แค่นี้แหละ!
.
ก็ในครั้งพุทธกาล สังกิจจสามเณร ถูกพวกโจรเอาดาบฟันคอ สังกิจจสามเณรเข้าฌานปั๊บ พอดาบกระทบคอ ดาบม้วนงอทันทีเลย หาได้ระคายผิวของสามเณรแม้แต่น้อย
.
สมัยก่อนกับสมัยนี้ ก็ณานแบบเดียวกัน ถ้าใครคุยว่าเข้าฌานได้เร็ว ก็ทดสอบดูได้ แต่ไม่ต้องใช้ดาบนะ เอาแค่ไม้หน้าสามก็พอ ถ้าใช้ดาบเกิดมันเข้าฌานไม่ได้จริง จะพลอยซวยไปด้วยกัน กลายเป็นฆาตกรฆ่าคนตายไปโดยไม่รู้ตัว ถ้าใช้ไม้หน้าสามฟาดหัวร้างข้างแตกไปบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้าจะผิดกฎหมายโทษก็ยังเบาอยู่
.
คนเราอย่าหูเบา อย่าให้เขาจูงจมูกได้ง่าย ๆ กรรมฐานแนวใหม่ ง่าย ลัด สั้น มันอาจทำได้ชั่วพักชั่วครู่ เอาไว้เล่นปาหี่หลอกคนก็พอได้นะ แต่จะให้กำจัดกิเลสบรรลุมรรค ผล นิพพาน มันไม่มีหรอก
.
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ ในภูมิสาวกจะสำเร็จพระอรหันต์ได้ ต้องสร้างบารมีถึงหนึ่งแสนมหากัปป์ บารมีจึงจะเต็มพร้อมสำเร็จพระอรหันต์เข้าสู่พระนิพพานได้เลย
.
ถ้าสร้างบารมีเป็นพระอัครสาวก ต้องสร้างบารมีถึงหนึ่งอสงไขยกับเศษอีกแสนมหากัปป์ บารมีจึงจะเต็มได้สำเร็จพระอรหันต์ในสำนักของพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่ง
.
ถ้าสร้างบารมีเป็นพระปัจเจกพระพุทธเจ้า ต้องสร้างบารมีถึงสองอสงไขยกับเศษแสนมหากัปป์บารมีจึงจะเต็ม และได้มาตรัสรู้ในช่วงยุคสมัยที่ไม่มีพระพุทธเจ้ามาอุบัติ ไม่ได้ประกาศศาสนา ไม่มีสาวกสืบทอด
.
ถ้าสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ปรารถนาจะเป็นพระพุทธเจ้าสักหนึ่งพระองค์ในภายภาคหน้า ก็เป็นพระพุทธเจ้าได้ ๓ ประเภท
.
๑. พระปัญญาธิกะ สร้างบารมี ๒๐ อสงไขยเศษแสนมหากัปป์ บารมีจึงเต็ม ดังเช่น พระสมณโคดมของพวกเรา
.
๒. พระศรัทธาธิกะ สร้างบารมี ๔๐ อสงไขย เศษแสนมหากัปป์ บารมีจึงเต็ม
.
๓. พระวิริยาธิกะ สร้างบารมี ๘๐ อสงไขยเศษแสนมหากัปป์ บารมีจึงเต็ม ดังเช่น พระศรีอริยเมตไตรยที่จะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ ๕ ในกัปป์นี้
.
แต่ถ้าใครเกิดมาแล้วทำแต่ความชั่ว ไม้ได้สร้างความดีอะไรเลย บารมี ๓๐ ทัศ ไม่มีวันเต็ม ก็ต้องเวียนเกิดเวียนตายไปเป็นแสนเป็นล้านอสงไขย ก็ไม่มีวันพ้นทุกข์ได้เลย ก็เกิดตายเกิดตายอยู่อย่างนั้น สุดท้ายก็ไปตายกองกันอยู่ในอเวจีมหานรก
.
นี่! พูดพอให้เข้าใจโดยสังเขป ทางไปของสัตว์โลกมีอยู่เท่านี้ ถ้ามันมีทางลัดที่ไปพระนิพพานได้ง่ายสั้นกว่านี้ เร็วกว่านี้ พระพุทธเจ้าก็บอกก่อนแล้วล่ะ ไม่ต้องให้พวกเรามาดิ้นรนขวนขวายสร้างบารมีให้ต้องทนทุกข์ทรมานเพราะการเวียนไหว้ตายเกิดไปจนนับถึงแสนมหากัปป์หรอก
.
ให้ระวัง!! พวกที่อวดว่า สำเร็จพระอรหันต์กันแบบง่าย ๆ ทั้งพระเณรเถรชี สำเร็จอรหันต์แข่งกันเป็นว่าเล่น สำเร็จแล้วก็มาโปรโมทกันเอง วันดีคืนดีก็เอารถตู้ตระเวนไปหาโยม ก็ว่าไปโปรดโยม หรือไปให้โยมโปรดก็ไม่รู้ได้ ที่ไหนมีลาภสักการะ มีเงินมีทองสะพัดดี ที่นั่นก็สัปปายะมาก เวลาเทศน์ก็บอกเลขบัญชีให้โอนเงินเสร็จสรรพ ยังดีที่ไม่เขียนเลขบัญชีใส่หน้าผากเอาไว้ด้วย ถ้าใครเจออรหันต์ประเภทนี้ให้หนีให้ไกล ๆ เน้อ!! ไม่อย่างนั้นก็อาจจะหมดตัว
.
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๖_๐๒
|
สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส