
อย่าประมาทในชีวิตอันน้อยนิด บางคนอาจคิดว่า ตัวเองมีพร้อมทุกอย่างมากพอแล้ว ทั้งทรัพย์สมบัติ ข้าวของเงินทอง ยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงาน บ้านหรู รถหรู ลูกเมีย เพื่อนฝูง บริวาร สุขภาพร่างกายแข็งแรง อีกทั้งไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บ
.
ใครมีทรัพย์สมบัติได้ขนาดนี้ ก็น่าจะถือว่ามากพอจริงดังว่า แต่ยิ่งมีทรัพย์มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนยิ่งมีเรื่องกวนใจ ทำให้ใจต้องคิดเยอะมากขึ้นเท่านั้น ใจคิดมากก็ยิ่งทำให้ใจเกิดความฟุ้งซ่าน เหมือนทะเลที่เผชิญกับคลื่นมรสุมลมแรงพัดกระหน่ำตลอดเวลา ไม่ปรากฏว่า จะมีแม้สักวัน ที่ใจเกิดความสงบร่มเย็นจากความคิดปรุงเรื่องราวต่าง ๆ ลงได้บ้างเลย
.
ใจคิดมากก็มีทุกข์มาก เมื่อใดใจหยุดคิดก็หยุดทุกข์ชั่วคราว เรียกว่า พักรบ เขาทำสงครามก็ยังมีพักรบเป็นช่วง ๆ ขืนรบตลอดเวลาทหารก็เหนื่อยตาย ถ้าใจใครหยุดคิดไม่เป็นก็เท่ากับไม่มีวันพักรบเลย
.
ถ้าใจเป็นเครื่องจักร เราใช้ใจรบกับอารมณ์ต่าง ๆ มานานขนาดนี้ ใจคงพังไปนานแล้ว แต่ใจเราเป็นธาตุอมตะที่ไม่มีวันแตกสลายเพียงแต่ย้ายที่อยู่ไปเรื่อย ๆ ออกจากร่างนั้นก็ไปเข้าร่างโน้น เป็นอยู่อย่างนี้
.
ใจจะแตกสลายก็ต่อเมื่อกิเลสอวิชชาพังทลายไปจากใจเท่านั้น นั่นคือ วันสิ้นภพสิ้นชาติยุติการเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องย้ายที่อยู่ไปไหนอีกเป็นตลอดอนันตกาล เรียกว่า ถึงความบริสุทธิ์หมดจดคือ นิพพานหนึ่งนั่นเอง
.
แต่ก่อนที่จะไปถึงจุดนั้นได้ ใจต้องสั่งสมอริยมรรคมีองค์ ๘ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิครบถ้วนบริบูรณ์ จึงจะสามารถทำลายล้างกิเลสอวิชชาให้แตกสลายพังทลายจากใจได้อย่างไม่เหลือซาก ซึ่งมันไม่ใช่ของง่ายเลย ธรรมท่านเรียกว่า การสร้างบารมี คือ บารมี ๑๐ ทัศ ต้องเต็มเปี่ยม ทั้งในระดับต้น ระดับกลาง ระดับสูง รวมเป็นบารมี ๓๐ ทัศ จึงจะทำให้อริยมรรคทั้ง ๘ บริบูรณ์ได้
.
สิ่งเหล่านี้มีแต่ในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ไม่สาธารณะแก่บุคคลทั่วไป เพราะผู้ที่จะมาตรัสรู้อริยมรรคมีองค์ ๘ ได้ มีเพียงพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า กับพระอรหันตสาวก เท่านั้น
.
ปุถุชนคนทั่วไปต้องอาศัยการได้ยินได้ฟังก่อน ถ้าไม่ได้ยินได้ฟังจากพระพุทธเจ้าโดยตรง ก็ต้องได้ยินได้ฟังจากพระอริยสาวก หรือไม่ก็ต้องสร้างบารมีเป็นพระพุทธเจ้าเสียเอง คือต้องตั้งใจปฏิบัติขัดเกลาจิตใจตามแนวทางอริยมรรคทั้ง ๘ อย่างเคร่งครัดจนถึงขั้นสมบูรณ์เต็มภูมิตามความปรารถนาของตน
.
แม้จะศึกษาจำทรงพระไตรปิฎกได้ทั้งหมด ก็ยากที่จะปฏิบัติให้ถูกต้องได้ เพราะกิเลสที่อยู่ในใจจะคอยหลอกล่อให้หลงผิด หรือตีความตำราเข้าข้างกิเลสไปแบบผิด ๆ ได้ตลอดเวลา เพราะตำรายังเป็นสมมติอยู่ สมมติเป็นเครื่องมือของกิเลส ที่กิเลสคิดค้นสร้างขึ้นมา ไม่มีทางที่จะใช้สมมติมาบรรยายธรรมให้เห็นธรรมแท้ที่พ้นไปจากสมมติได้เลย ธรรมที่พ้นสมมติไปแล้วจึงไม่มีคำบรรยาย ท่านจึงต้องมอบให้เป็นสันทิฏฐิโกที่ผู้ปฏิบัติจะต้องเข้าไปรู้เองเห็นเอง
.
ธรรมแท้ที่เป็นความบริสุทธิ์หมดจด คือเป็นธาตุรู้อันบริสุทธิ์ ถ้าเปรียบสมมติเป็นแผนที่ ก็สามารถชี้เป้าหมายได้ในวงกว้างเท่านั้น คืออยู่ในระยะห่าง เช่น อาจจะพาไปถึงหมู่บ้านนั้นได้ แต่จะบอกไม่ได้ว่า บ้านที่ต้องการไปอยู่ตรงไหนของหมู่บ้าน ต้องอาศัยคนในหมู่บ้านนั้นบอกทางอีกที
.
พระนิพพานก็เป็นเหมือนอย่างนั้น ตำราบอกทางไปพระนิพพานได้ในระดับหนึ่ง แต่จะเข้าถึงพระนิพพานได้ ยังต้องอาศัยผู้รู้จริง คือผู้บรรลุมรรค ผล นิพพานแล้วเท่านั้น จึงจะชี้บอกจุดสุดท้ายที่จะพ้นไปจากสมมติทั้งหลายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ
.
ทุกคนมีอิสระที่จะจัดการอย่างใรกับใจที่เป็นพาหนะพาเราท่องเที่ยวอยู่ในวัฏฏสงสารอย่างไม่มีวันจบสิ้นได้ตามต้องการ ตราบเท่าที่ยังมีสังโยชน์ ๑๐ ฝังจมอยู่ในใจ
.
ใครอยากทำดี ทำชั่วอย่างไร ก็เลือกทำได้ตามอัธยาศัย ไม่มีใครบังคับได้ แต่ถ้าใครอยากได้ดี อยากทำดี ทุกคนต้องบังคับตัวเองให้ละชั่ว แล้วทำแต่ความดีเท่านั้น จนถึงทำใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์
.
และสิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องทำเหมือนกัน คือ ต้องทำอริยมรรคทั้ง ๘ ให้เป็นสัมมาทิฏฐิให้ได้ทั้งหมด จึงจะสามารถหลุดพ้นไปจากสมมติได้ มิฉะนั้น ใจก็จะติดจมอยู่กับกิเลสอวิชชาไปตลอดอนันตกาล จะนานกี่แสนกี่ล้านอสงไขย ก็จะเวียนเกิดเวียนตายสูง ๆ ต่ำ ๆ ไปอยู่อย่างนี้
.
คิดแล้วก็ไม่ง่ายเลยนะ ที่จะไปถึงพระนิพพานได้ เพียงแต่ต้องทำความพยายามฝืนกิเลส ทำลายกิเลสอย่างเอาตายเข้าว่า อย่าให้มรรคใดมรรคหนึ่งเป็นมิจฉาทิฏฐิ มิจฉามรรคเท่านั้นเอง ยิ่งถ้าใจหลุดออกนอกวงโคจรของพระพุทธศาสนาด้วยแล้ว โอกาสที่จะได้มรรค ผล นิพพาน ลดลงเป็นสูญเลยทีเดียว
.
ดังนั้น เมื่อมีโอกาสแล้ว อยากทำอะไรก็ทำเสีย ศีล สมาธิ ปัญญา ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม อย่ามัวทำใจเมินเฉยปล่อยปละละเลย ถ้าตายไปเมื่อไหร่ ก็หมดโอกาสที่จะทำในทันที กว่าที่พระพุทธเจ้าจะมาอุบัติตรัสรู้อริยสัจ ๔ มาประกาศธรรมสอนโลกได้ ก็อีกนานแสนนาน
.
ตอนนี้มีโอกาสทองอยู่ในมือ ควรบำเพ็ญทานได้ก็บำเพ็ญทาน ควรรักษาศีลได้ก็รักษาศีล ควรทำสมาธิได้ก็ทำสมาธิ ควรอบรมปัญญาได้ก็อบรมปัญญา เอาให้ได้สักอย่างสองอย่างหรือได้ทั้งหมดก็ดีมาก
.
อย่ามัวประมาทนอนหลับทับสิทธิ์ปล่อยให้โอกาสทองล่วงเลยผ่านไปเปล่า ๆ อย่างน่าเสียดาย เดี๋ยวความตายมาถึงแล้วก็ทำไม่ได้ล่ะ จะมานั่งบ่นว่า รู้อย่างนี้ทำเสียแต่ตอนเป็นหนุ่มเป็นสาวเสียก็ดี ก็หามีประโยชน์อันใดไม่
|
สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส