ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 22 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


เกิดเป็นคนต้องมีความกตัญญูกตเวที
 
เกิดเป็นคนต้องมีความกตัญญูกตเวที!!
.
คำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นคำสอนของนักปราชญ์ผู้สิ้นกิเลส คนมีกิเลสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิจฉาทิฏฐิย่อมมีความเห็นขัดแย้ง ก็เป็นเรื่องธรรมดา
.
ก็เหมือนข้อความที่เขาเขียนบรรยายในภาพนั่นแหละ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดยังไงก็ได้ จะคิดให้ดีกว่าหมาก็ได้ หรือจะคิดให้เลวกว่าหมาก็ได้ ก็แล้วแต่จะคิดไป แต่ที่สำคัญคือ การเกิดเป็นคนต้องทำความเห็นของตนให้เป็นสัมมาทิฏฐิคือ มีปัญญาเห็นชอบตามความเป็นจริง จึงจะเป็นการดีการชอบแท้
.
 
ถ้าลองได้เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว มันก็จะมีความคิดเห็นเลวทรามต่ำช้ามืดบอดไปได้เรื่อย ๆ จะเลวยิ่งกว่าหมาอีกก็ยังได้ มันคิดและทำได้ทุกอย่าง ตามแต่กิเลสที่อยู่ในใจจะจูงจมูกไสหัวให้ทำไป จากนั้นกิเลสก็ถีบส่งให้ไปกองรวมกันอยู่ในอเวจีมหานรก โน่น!! เพราะต่างก็คิดว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี พรหมโลกไม่มี นิพพานไม่มี ตายแล้วสูญ!! นี่แหละ!! ที่เป็นความคิดเห็นยอดนิยมของสัตว์นรกจำพวกนี้
.
พระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า “ปทปรมะ” เปรียบเหมือนดอกบัวในโคลนตม ไม่มีวันโผล่พ้นน้ำ เป็นได้เพียงอาหารของเต่าและปลาเท่านั้น จึงทรงชักสะพานเสีย คือ ไม่ทรงสั่งสอน และไม่ได้เรียกร้องให้สัตว์จำพวกนี้ต้องมาทำตามคำสอนด้วย
.
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง แล้วนำความจริงมาประกาศสอนให้โลกรู้เท่านั้นเอง ไม่ได้บังคับหรือขอร้องให้ใครมาเชื่อ ผู้มีกิเลสเบาบางเมื่อได้สดับธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็สามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามคำสอนได้เอง ส่วนผู้ที่ยังมีกิเลสยังหนาอยู่ปานกลาง ฟังแล้วก็อาจจะยังไม่เข้าใจ ต้องทำความพยายามคิดค้นไปตาม ฟังหลายครั้งหลายหนก็พอเข้าใจได้
.
ส่วนพวกที่กิเลสหนาสันดานหยาบ ก็มีความเห็นขัดแย้ง ไม่เชื่อธรรม ไม่เชื่อคำสอนของนักปราชญ์ ก็จะทำไปตามความคิดเห็นของตนเองที่ยังมีกิเลสครอบงำอยู่ อยากจะทำดี หรือทำชั่ว ก็เลือกทำไปตามอัธยาศัย ไม่มีข้อวัตรปฏิบัติในอันที่จะฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นไปในทางดีได้
.
 
ดังนั้น ใครอย่าไปเถียงกับคนพวกนี้ให้เสียเวลา ใครคบบัณฑิตก็จะได้ความรู้จากบัณฑิตก็กลายเป็นบัณฑิตได้ ใครคบคนพาลก็จะได้ความรู้จากคนพาลก็กลายเป็นคนพาลได้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมอย่างนี้ ใครทำดีก็ได้ดีเอง ใครทำชั่วก็ได้ชั่วเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร
.
ถึงใครจะเชื่อว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี ก็ตาม แต่ความเชื่อเช่นนั้น ก็ไม่อาจช่วยป้องกันให้คนที่ทำบาปชั่วช้าเลวทรามไม่ต้องไปรับผลของบาปในนรกได้ และไม่อาจขวางกั้นให้คนที่ทำบุญคุณดีงามให้ไม่ไปสู่สวรรค์ได้ เพราะความจริงก็คือความจริงอยู่ตลอดกาล ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามความเชื่อหรือไม่เชื่อของใคร
.
สัตว์ที่ไปเกิดเป็นหมา มันก็ไม่ได้ขอแม่มันมาเกิด แล้วแม่มันก็ไม่ได้อนุญาตให้หมาตัวไหนมาเกิด หมาตัวผู้ตัวเมียมันก็สมสู่กันตามฤดูกาลตามธรรมชาติของมัน เจ้าลูกหมาที่มีกรรมเกี่ยวเนื่องกันดันทะลึ่งเข้าไปเกิดอยู่ในท้องแม่เอง
.
 
บางคนก็อาจคิดว่า ถ้าไม่อยากให้ลูกมาเกิด ก็ไปเอาออกเสียก็ได้ แต่คนไม่ยอมเอาออกเอง ก็เท่ากับยินดีให้เขามาเกิด เมื่อปล่อยให้เขามาเกิด ก็มีหน้าที่ต้องเลี้ยงดูเขา จะมาถือว่ามีบุญคุณต่อกันจนถึงกับต้องมาทวงบุญคุณเอากับลูก ๆ ไม่ได้
.
โธ่! กระทั่งหมา ก็ไม่มีหมาตัวไหนคิดฆ่าลูกในท้องของมันเอง ถ้าเป็นคนก็ยิ่งไม่ควรคิด หมาพอมันคลอดลูกออกมา มันก็ยังรักลูกหวงลูกของมันเทียบเท่าชีวิตเลยทีเดียว ใครไม่เชื่อ ก็ลองเข้าไปใกล้หมาแม่ลูกอ่อนดูสิ! มันพร้อมที่จะปกป้องลูกของมันโดยสู้แบบถวายหัว แล้วคนที่ยกตัวเองว่า เป็นสัตว์ประเสริฐยิ่งกว่าหมา จะไม่รักลูกตัวเองได้อย่างไร?
.
แต่หมามันไม่มีปัญญาฉลาดเหมือนคน เขาก็ทำไปตามสัญชาตญาณของสัตว์ พอลูก ๆ โตแล้วก็ไม่รู้จักว่า ใครเป็นพ่อ ใครเป็นแม่ ใครเป็นผู้ให้กำเนิดเลี้ยงดูมา หมาจะไม่รู้จักบุญคุณของพ่อแม่ หมาจึงไม่อาจทดแทนพระคุณของพ่อแม่ได้ พอถึงฤดูกาลผสมพันธ์ุ ลูกก็อาจกัดกับพ่อเพื่อแย่งกันเอาตัวเมียที่เป็นแม่ก็ได้ นั่นคือสัญชาตญาณของสัตว์
.
 
แต่ถึงกระนั้น หมาก็ยังมีจิตสำนึกที่ดี ยังมีความกตัญญูกตเวที รู้จักบุญคุณของเจ้าของ ผู้ให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงดูมันมา หมาบางตัวรักเจ้าของ จนยอมตายแทนเจ้าของได้ ก็ยังมีให้เห็น โดยที่เจ้าของไม่จำเป็นต้องไปทวงบุญคุณ หรือไปบีบบังคับให้หมามาตอบแทนบุญคุณแม้แต่น้อย
.
อย่างที่เขาบรรยายในภาพว่า…
.
“ลูกไม่ได้ขอมาเกิด เขาไม่มีตัวเลือก เราเป็นคนให้เขามาเกิดเอง ดังนั้น เราจึงเลี้ยงดูลูกด้วยการไม่ทวงบุญคุณ และควรขอบคุณลูกมากกว่า”
.
ที่จริงก็ไม่มีใครขอใครมาเกิด และไม่มีใครให้ใครมาเกิดได้ ไม่มีใครเลือกเกิด หรือเลือกไม่เกิดได้ มันเป็นเรื่องของกรรมที่เกี่ยวเนื่องกันของคนที่เป็น พ่อ แม่ ลูก จะบันดาลให้เป็นไปเองตามเหตุปัจจัยของแต่ละคน มันคงวิปลาสไปแล้ว ถ้าพ่อแม่ต้องไปขอบคุณลูกที่มาเกิด
.
ลูกบางคนก็อาจตายเสียแต่อยู่ในท้องไม่ทันได้คลอดออกมา บางคนก็คลอดออกมาแล้วค่อยตายก็มี เป็นเด็กเล็กเด็กน้อยตายก็มี เป็นหนุ่มเป็นสาวตาย เป็นคนเฒ่าคนแก่ตาย ก็มีทุกรูปแบบ ไม่มีใครเลือกความตายให้ใครได้หรอกนะ ทุกคนต่างตายตามกรรมของตนเอง ถ้ากรรมตายยังไม่มาถึง ก็ไม่ตายได้ง่าย ๆ หรอก ให้เข้าใจเสียใหม่ให้ถูกต้องด้วย จะได้ไม่พูดอะไรให้คนหลงเข้าใจผิด
.
 
“การเกิดคือการสร้างกรรมและชดใช้กรรม คือความทุกข์อย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น การที่เราเลือกให้ลูกมาเกิด ก็คือการสร้างความทุกข์ให้เขา เราจึงไม่เคยคิดว่า ลูกต้องมาทำอะไรให้เรา”
.
ที่จริงก็ไม่ใช่อย่างที่เขาพูด การเกิดเป็นผลของกรรมในอดีต และเป็นเหตุให้สร้างกรรมใหม่ หรือจะว่าชดใช้กรรมเก่าก็ได้ การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นความทุกข์ทั้งนั้น มันเป็นเองตามธรรมชาติ ไม่มีแม่คนไหนเลือกให้ลูกมาเกิดได้ บางคนอยากมีลูกแทบตายก็ยังไม่มี บางคนไม่อยากมีลูกแต่ก็ดันมีเสียหัวปีท้ายปี
.
แม่ไม่ได้สร้างทุกข์ให้ลูก ทุกข์มันเป็นสัจธรรม มันเป็นของเป็นเองตามเหตุปัจจัยของมัน เกิดเป็นคนก็ทุกข์ เกิดเป็นหมาก็ทุกข์ เกิดเป็นสัตว์ประเภทไหนก็ทุกข์ทั้งนั้น แต่เกิดเป็นคนถือว่าโชคดีแล้ว ถึงทุกข์ก็ยังมีทางออกจากทุกข์ได้ ไม่เหมือนสัตว์อื่น ทุกข์แล้วไม่มีทางออกจากทุกข์
.
ผู้ที่ได้มาเกิดเป็นคนต้องถือว่า ได้ทำกรรมดีเอาไว้มากจึงได้มาเกิดเป็นคน ไม่ได้อยู่ที่พ่อแม่จะให้มาเกิด ไม่ได้อยู่ที่ใครจะขอมาเกิด ถ้าขอมาเกิดเป็นคนได้ ใครจะอยากไปเกิดเป็นหมา เป็นวัว เป็นควายล่ะ! ก็ขอมาเกิดเป็นคนเป็นเศรษฐีอยู่สบาย ๆ ไม่ดีกว่าหรือ?
.
 
“เรามีหน้าที่เลี้ยงดูลูกจนถึงจุดหนึ่งที่ลูกดูแลตัวเองได้ก็จบ หลังจากนั้นถ้าลูกจะทำอะไรให้เรา ก็ให้มันเกิดจากความรัก และเป็นเหมือนน้ำหล่อเลี้ยงจิตใจแม่”
.
มันก็ไม่ใช่อย่างนั้นอีกนั่นแหละ ความเป็นพ่อแม่ลูก มันไม่มีวันจบสิ้น มันเป็นไปจนวันตาย ความผูกพันทางสายเลือดมันตัดขาดไม่ได้ ถึงใครจะตัดพ่อตัดแม่ตัดลูกกัน ก็เป็นเพียงแค่ความคิดเฉย ๆ แต่ในความเป็นจริงก็ยังเป็นพ่อแม่ลูกกันอยู่
.
แม้พ่อแม่อาจหย่าร้างกัน แยกกันอยู่ก็ตาม แต่ความเป็นพ่อแม่ลูกก็ไม่ได้ขาดไปด้วย เพียงแต่ความผูกพันกันในฐานะพ่อแม่ลูกอาจไม่เหมือนเดิม ขึ้นอยู่กับกรรมของแต่ละคน หากพ่อแม่ลูกเคยมีบาปกรรมเกี่ยวเนื่องกันมา ลูกก็อาจมาเป็นศัตรูทำร้ายพ่อแม่ได้ ดังที่เรียกว่า ลูกทรพี เป็นต้น
.
ไม่เหมือนคนเป็นผัวเมียกัน พอหย่าขาดจากกันความสัมพันธ์ก็ขาดสะบั้นกันไปในทันที เมียไปหาผัวใหม่ได้ ผัวไปหาเมียใหม่ได้ แต่ลูกจะไปหาพ่อใหม่แม่ใหม่มาแทนผู้ให้กำเนิด ก็ไม่มีทางจะหาได้!!
.
ดังนั้น ภาระที่ต้องเป็นห่วงเป็นใยเอาใจใส่ดูแลกันในระหว่างพ่อแม่ลูก มันไม่มีจุดจบหรอก ถ้ายังไม่ตายจากกันไป ก็ต้องมีความรับผิดชอบต่อกันอยู่อย่างนั้นแหละ เพราะคนไม่ใช่หมา จะไปทำอะไรเหมือนหมา ก็ไม่ใช่คนแล้ว หมามันก็เลี้ยงลูกพอให้ช่วยตัวเองได้เท่านั้นแหละ พอโตแล้วก็ต่างตัวต่างไป มันไม่มีความรัก ไม่มีความรับผิดชอบต่อกันแต่อย่างใดทั้งนั้น คนจึงไม่ควรไปเอาอย่างหมา
.
 
ธรรมท่านจึงสอนว่า
.
“นิมิตตัง สาธุรูปานัง กะตัญญูกะตะเวทิตา” แปลความว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี”
.
ธรรมไม่ได้บังคับว่า ทุกคนจะต้องมีความกตัญญูกตเวที แต่มันเป็นหลักธรรมชาติของคนดีที่จะต้องมีคุณธรรมข้อนี้ นักปราชญ์ท่านชี้ทางบอกทางเอาไว้ให้ เผื่อว่าบุคคลผู้หวังความเจริญในธรรมจะได้ถือเอาเป็นแบบอย่างที่ดีได้
.
กตัญญูคือ ความรู้คุณคน ใครทำความดีไว้แก่เรา ก็ให้รู้คุณความดีของเขาที่มีต่อเรา จะมีคุณมาก หรือมีคุณน้อย หรือไม่มีคุณเลย ก็ให้รู้ไว้
.
กตเวทีคือ ให้รู้จักกระทำการตอบแทนตามสมควรแก่ฐานะ ลำพังแต่รู้คุณอย่างเดียวเป็นนามธรรมอยู่ในใจ เป็นของมองไม่เห็น ต้องได้แสดงออกทางกาย ทางวาจา ให้สอดรับกันตามควรแก่ฐานะด้วย จึงจะถือเป็นการดีการชอบแท้
.
 
 
ถ้าใครอยากเป็นคนดี ก็ให้ทำตามที่นักปราชญ์ท่านบอกท่านสอน อย่าไปทำตามคนมีกิเลสหนาสันดานหยาบมันบอกมันสอน จะมีแต่ความฉิบหายโดยหาความเจริญไม่ได้
.
พ่อแม่ถือเป็นผู้ให้กำเนิดให้ชีวิต และเลี้ยงดูบุตรธิดามาจนเติบใหญ่ แม้พ่อแม่จะไม่ได้เรียกร้องให้บุตรธิดามาตอบแทนบุญคุณก็ตาม บุตรธิดาก็ต้องถือว่าพ่อแม่เป็นผู้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง เพราะสิ่งที่พ่อแม่มอบให้แก่บุตรธิดาทุกคนในลักษณะให้เปล่านั้น เชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีบุคคลที่สองที่จะยอมมอบให้แก่บุตรธิดา ดังเช่นที่พ่อแม่ให้ ย่อมไม่มีอีกแล้ว
.
ดังนั้น ถ้าบุตรธิดาคนไหนมองไม่เห็นบุญคุณของพ่อแม่ ในโลกนี้ก็ไม่มีบุคคลที่สองที่คู่ควรให้เขาได้เห็นบุญคุณอีกแล้ว ถ้าใครเจอบุตรธิดาประเภทนี้ ก็ต้องถือว่าเป็นกรรมหนักของพ่อแม่ จำต้องหวานอมขมกลืนเลี้ยงดูกันไป เพราะพ่อแม่เป็นผู้ให้กำเนิดเขาออกมาแล้ว ก็ตัดลูกไม่ขาดหรอกนะ!! ไม่ว่าลูกจะเลวทรามต่ำช้าแค่ไหน พ่อแม่ก็ให้อภัยลูกได้เสมอ
.
เว้นไว้แต่พ่อแม่ที่เคยเป็นลูกทรพีมาก่อน เคยทำไม่ดีกับพ่อแม่เอาไว้ อย่างนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของกรรม ชื่อว่า คนทรพี คนเนรคุณ คนทรยศหักหลัง มันก็ทำได้ทุกอย่าง เป็นได้ทุกอย่างตามแต่กรรมจะให้ผล
.
ก็ให้คิดเสียว่า เราเลี้ยงดูเขาได้แต่เพียงร่างกายเท่านั้น ส่วนใจนั้นก็ทำได้แค่บอกสอนให้เขารู้จักว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรเป็นบุญ อะไรเป็นบาป ถ้าบอกสอนแล้วเขาไม่เชื่อฟัง พ่อแม่ก็ต้องทำใจปล่อยให้เป็นเรื่องกรรมของเขา และคอยระวังอย่าให้เขานำความวิบัติฉิบหายมาสู่วงศ์ตระกูลได้ก็พอ
.
ในธรรมท่านกล่าวไว้ว่า บุตรมี ๓ ประเภท
.
๑. อภิชาตบุตร คือ บุตรที่มีคุณธรรมสูงกว่าพ่อแม่ ใครได้บุตรประเภทนี้ ถือเป็นผู้มีบุญใหญ่ มีอริยทรัพย์ที่ประมาณค่ามิได้ เพราะอภิชาตบุตรสามารถช่วยพ่อแม่ให้พ้นทุกข์ได้ในทุกกรณี
.
๒. อนุชาตบุตร คือ บุตรที่มีคุณธรรมเสมอด้วยพ่อแม่ ใครได้บุตรประเภทนี้ก็ยังนับว่าดี ส่วนจะดีมากหรือดีน้อยก็ขึ้นอยู่กับคุณธรรมความดีของพ่อแม่เองด้วย เพราะอนุชาตบุตร นั้น ยังเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที จะไม่ทำให้พ่อแม่ต้องเดือดร้อนลำบาก
.
๓. อวชาตบุตร คือ บุตรประเภทที่มีคุณธรรมต่ำกว่าพ่อแม่ คือหาความดีไม่ได้ จะนำแต่ความวิบัติฉิบหายมาให้พ่อแม่ได้ตลอดเวลา ใครได้บุตรชนิดนี้ พ่อแม่ก็จะประสบแต่ความเดือดร้อนลำบาก เพราะอวชาตบุตร เป็นบุตรที่มีจิตใจต่ำทราม ชอบไปในทางอบายมุข ไม่เคยนึกถึงบุญคุณที่พ่อแม่เลี้ยงดูมา
.
 
อันเรื่องความกตัญญูกตเวทีนี้ เป็นคุณธรรมความดีงามที่ฝังมาในขันธสันดานของแต่ละคน ไม่จำเป็นต้องมีเหมือนกันก็ได้ ใครจะมีความกตัญญูกตเวทีมาก หรือมีน้อย หรือไม่มีเลย ก็อยู่ที่บารมีธรรมที่แต่ละคนสั่งสมมาไม่เท่ากัน
.
ธรรมท่านก็ไม่ได้บังคับว่า ทุกคนต้องมีความกตัญญูกตเวที ธรรมท่านแสดงไว้เป็นของกลางของโลก ใครเห็นดีเห็นงามก็น้อมนำธรรมไปปฏิบัติ ใครไม่เห็นดีเห็นงาม ก็ไม่ต้องเอาไปปฏิบัติ ใครอยากจะทำดี หรือทำชั่ว ก็เลือกทำเอาตามอัธยาศัย เมื่อทำแล้ว ตนเองก็จะเป็นผู้รับผลแห่งกรรมดี หรือกรรมชั่วที่ทำนั้น ไม่เป็นอย่างอื่น
.
เพราะเหตุนั้น ผู้มีปัญญาฉลาดจึงเลือกทำแต่กรรมดี เพื่อที่จะได้รับผลดีตลอดไป ส่วนผู้โง่เขลาเบาปัญญา จะเลือกทำไปตามความคิดเห็นของตนเองที่ยังมีกิเลสครอบงำอยู่ก็ไม่มีใครว่า แต่อย่ามาอวดรู้อวดฉลาดทำตัวเป็นนักปราชญ์แข่งกับธรรมของพระพุทธเจ้า เดี๋ยวจะหานรกขุมตื้น ๆ ลงไม่ได้เท่านั้นเอง
.
 
 
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๕_๑๑


 




สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส

* ข้อวัตรปฏิปทาในพ่อแม่ครูอาจารย์
* บริขารพระป่าในปฏิปทาพ่อแม่ครูอาจารย์
* สุดรัก...สุดอาลัย... พ่อแม่ครูอาจารย์
* ประกาศวัดป่าบ้านตาด เรื่อง หนังสือภูริทัตตะ อัครเถราจารย์
* พระประวัติย่อ สมเด็จพระญาณสังวร ฯ
* ชมวีดีโอชิวิตที่วัดป่าบ้านตาด
* 100 ปี ชาตกาลองค์หลวงตา
* ชมวีดีโองานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
* ประวัติหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (ย่อ)
* ทำเนียบพระสังฆาธิการจังหวัดเชียงใหม่
* คำพระอุปัชฌาย์สอนนาค
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 30 พ.ค. 2546 ณ.วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 1 มิ.ย. 2554 ณ.วัดพทธธัมมธโร สหรัฐอเมริกา
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่หอพระ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 29 มิถุนายน 2555
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มช. 9 ส.ค. 2556
* เทศน์ที่เวที คปท. ๑๖ ก.พ. ๒๕๕๗
* เทศน์ที่วัชรธรรมสถาน ๒๕ เม.ย.๒๕๕๗
* เทศน์งานหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.2561
* เทศน์งานหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต 8 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 12 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่ท่อน ญาณธโร 11 ส.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 11 ก.พ.2562
* เทศน์งานวัดอโศการาม 17 มี.ค. 2562
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 15 พ.ย. 2562
* เทศน์งานวัดเจริญสมณกิจ 16 ธ.ค. 2562
* เทศน์งานวัดป่าภูผาสูง 8 ม.ค. 2563
* เทศน์งานบำเพ็ญกุศลศพ พระปลัดอนุพุทธ 12 ม.ค. 2563
* เทศน์งานประชุมเพลิง พระปลัดอนุพุทธ 13 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดเจดีย์หลวง 20 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดป่าสุขใจ ชะอม 23 ส.ค. 2563
* เทศน์งานผูกพัทธสีมา วัดป่ากิ่วดู่ 27 ก.พ. 2564
* เทศน์อบรมที่ วัดสำปะซิว 26 ธ.ค. 2564
* เทศน์งานหลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง 27 ม.ค. 2566
* เทศน์ที่วัดป่าบ้านตาด 29 มกราคม 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ วันที่ 5 ก.พ. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 26 ก.พ.2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 24-26 มี.ค. 2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 26-28 พ.ค 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ สายธรรมวันสว่าง วันที่ 18 มิ.ย. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 29 มิ.ย. 2566
* พระธรรมเทศนา ณ.วัดเกาะทอง ในพิธีอุปสมบทประจำปี ๒๕๖๖ ณ.วันที่ ๒ ก.ค. ๖๖
* เทศน์วัดป่าศรัทธาถวาย เนื่องในงานแสดงมุฑิตาสักการะฯ วันที่ 6 สิงหาคม 2566
* เทศน์วัดเกาะทอง วันที่ 8 กันยายน 2566
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566
* เทศน์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตำหนักบางขุนพรหม 24 ตุลาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรม ณ.ชมรมพระพทธศานาเอไอเอสำนักงานใหญ่ชั้น 8 วันที่ 6 ธันวาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ณ.วัดเกาะทอง
* แสดงธรรมในงานครบรอบ 21 ปีวันละสังขาร หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.67
* เทศนาธรรมที่มูลนิธิบ้านอารีย์วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567
* เทศนาธรรมที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต 24 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 29-31 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาอบรมจิตภาวนาวัดเกาะทอง วันที่ 5 เมษายน 2567
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 14 เมษายน 2567
* เทศน์ภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 25 เมษายน 2567 เนื่องในวาระครบรอบปีที่ 63 ท่านพ่อลี ละสังขาร
* เทศนาธรรมคอร์สปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 ภาวนาสัญจร 4-6 พ.ค. 2567 ณ บ้านนางฟ้า เขาใหญ่
* เทศนาธรรมที่ธนาคารแห่งประเทศไทย 20 มิ.ย.67
* เทศน์อบรมปฏิบัติภาวนาที่พิพิธภัณฑ์จรรโลงพระพุทธศาสนา 5 ก.ค.2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 12-14 กรกฎาคม 2567
* พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
* แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดเกาะทอง ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อ 28 ก.ค.67
* เทศน์แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
อาสาฬหบูชารำลึก ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗
มาฆบูชารำลึก ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
วิสาขบูชารำลึก ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
แม่นี้มีคุณอันใหญ่หลวง
วันเข้าพรรษา
ชมภาพบรรยากาศพิธีอุปสมบท ณ.พัทธสีมา วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ตำแหน่งที่ควรค่าต้องได้มาเพราะคู่ควร
สุขใดเสมอสงบไม่มี
สื่อโซเชียลคุณอนันต์โทษมหันต์
ชีวิตติดPresentTense
ความสวยความงาม
บุพเพอาละวาด
ศีลคือรากแก้วของศาสนา
ได้ยินสักแต่ว่า ได้ยิน
พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี
จะหงุดหงิดใจกับคนโกงเพื่อ?
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP2
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP1
ธรรม!!!เตือนสติสังคมไทย
การใช้ชีวิตแบบพอเพียง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ดูท่าแล้วเก็บทรงไม่อยู่
มาเจริญศาสนาในใจกันดีกว่า
เรื่องของหัวหน้ากับลูกน้อง
โลกที่แท้จริงมีอยู่ในใจ
อย่าประมาทในชีวิตอันน้อยนิด
ทางสองแพร่ง
ทุกข์อันเกิดจากมิจฉาอาชีวะ
นักรบศิษย์พระตถาคต
สิกขาบทที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องการลักทรัพย์
อเสวนา จ พาลานํ
พัฒนาสิ่งใหญ่ๆเริ่มได้จากพัฒนาตัวเอง
หากจะเปรียบธรรมะคือสินค้าพรีเมียมเกรดระดับโลก
ทำอย่างไรให้งามชาตินี้ ยันชาติหน้า ต่อไปชาติโน้น
เป็นห่วงชาติ
ถ้าโลกนี้มีแต่คนดี
คู่มือส่องพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
กฎธรรมชาติ
ไม่มีใครอยู่เหนือกรรม