ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 20 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ขอเชิญสมัครสมาชิกอุปถัมภ์สถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชน วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
เข้าชม twitter วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


เกิดเป็นคนต้องมีความกตัญญูกตเวที
 
เกิดเป็นคนต้องมีความกตัญญูกตเวที!!
.
คำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นคำสอนของนักปราชญ์ผู้สิ้นกิเลส คนมีกิเลสที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมิจฉาทิฏฐิย่อมมีความเห็นขัดแย้ง ก็เป็นเรื่องธรรมดา
.
ก็เหมือนข้อความที่เขาเขียนบรรยายในภาพนั่นแหละ ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะคิดยังไงก็ได้ จะคิดให้ดีกว่าหมาก็ได้ หรือจะคิดให้เลวกว่าหมาก็ได้ ก็แล้วแต่จะคิดไป แต่ที่สำคัญคือ การเกิดเป็นคนต้องทำความเห็นของตนให้เป็นสัมมาทิฏฐิคือ มีปัญญาเห็นชอบตามความเป็นจริง จึงจะเป็นการดีการชอบแท้
.
 
ถ้าลองได้เป็นมิจฉาทิฏฐิแล้ว มันก็จะมีความคิดเห็นเลวทรามต่ำช้ามืดบอดไปได้เรื่อย ๆ จะเลวยิ่งกว่าหมาอีกก็ยังได้ มันคิดและทำได้ทุกอย่าง ตามแต่กิเลสที่อยู่ในใจจะจูงจมูกไสหัวให้ทำไป จากนั้นกิเลสก็ถีบส่งให้ไปกองรวมกันอยู่ในอเวจีมหานรก โน่น!! เพราะต่างก็คิดว่า บาปไม่มี บุญไม่มี นรกไม่มี สวรรค์ไม่มี พรหมโลกไม่มี นิพพานไม่มี ตายแล้วสูญ!! นี่แหละ!! ที่เป็นความคิดเห็นยอดนิยมของสัตว์นรกจำพวกนี้
.
พระพุทธเจ้าตรัสเรียกว่า “ปทปรมะ” เปรียบเหมือนดอกบัวในโคลนตม ไม่มีวันโผล่พ้นน้ำ เป็นได้เพียงอาหารของเต่าและปลาเท่านั้น จึงทรงชักสะพานเสีย คือ ไม่ทรงสั่งสอน และไม่ได้เรียกร้องให้สัตว์จำพวกนี้ต้องมาทำตามคำสอนด้วย
.
พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริง แล้วนำความจริงมาประกาศสอนให้โลกรู้เท่านั้นเอง ไม่ได้บังคับหรือขอร้องให้ใครมาเชื่อ ผู้มีกิเลสเบาบางเมื่อได้สดับธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็สามารถรู้แจ้งเห็นจริงตามคำสอนได้เอง ส่วนผู้ที่ยังมีกิเลสยังหนาอยู่ปานกลาง ฟังแล้วก็อาจจะยังไม่เข้าใจ ต้องทำความพยายามคิดค้นไปตาม ฟังหลายครั้งหลายหนก็พอเข้าใจได้
.
ส่วนพวกที่กิเลสหนาสันดานหยาบ ก็มีความเห็นขัดแย้ง ไม่เชื่อธรรม ไม่เชื่อคำสอนของนักปราชญ์ ก็จะทำไปตามความคิดเห็นของตนเองที่ยังมีกิเลสครอบงำอยู่ อยากจะทำดี หรือทำชั่ว ก็เลือกทำไปตามอัธยาศัย ไม่มีข้อวัตรปฏิบัติในอันที่จะฝึกฝนอบรมตนเองให้เป็นไปในทางดีได้
.