ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 12 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


แก่นสารในพุทธศาสนา
 
๑.ลาภสักการะชื่อเสียง เปรียบเหมือนกิ่งไม้ใบไม้
๒.ความสมบูรณ์ด้วยศีล เปรียบเหมือนสะเก็ดไม้
๓.ความสมบูรณ์ด้วยสมาธิ เปรียบเหมือนเปลือกไม้
๔.ญาณทัสสนะ หรือ ปัญญา เปรียบเหมือนกะพี้ไม้
๕.ความหลุดพ้นแห่งใจอันไม่กลับกำเริบ “อกุปปา เจโตวิมุตติ” เปรียบเหมือนแก่นไม้
.
ต้องเข้าใจว่า ถ้าเปรียบพระพุทธศาสนาเป็นต้นไม้ใหญ่ ทุกส่วนย่อมมีความสำคัญเสมอกัน เกื้อกูลอุดหนุนซึ่งกันและกัน ทำให้ต้นไม้มีชีวิตยืนยาวอยู่ได้นาน ถ้าต้นไม้ปราศจากกิ่งก้านและใบ ต้นไม้ก็เจริญเติบโตไม่ได้ ถ้าต้นไม้ไม่มีสะเก็ดและเปลือก กะพี้กับแก่นก็เกิดไม่ได้ ต้นไม้ที่ถูกควั่นเปลือกรอบต้น ก็ตายยืนต้นเท่านั้นเอง
.
หากเราจะให้ความสำคัญเฉพาะแต่แก่นไม้ กะพี้ไม้ โดยไม่ใส่ใจบำรุงรักษา สะเก็ดไม้ เปลือกไม้ กิ่งไม้ ใบไม้ แล้วต้นไม้จะยืนหยัดอยู่ได้อย่างไร
.
บางคนต้องการกิ่งไม้ ใบไม้ ไปมุงหลังคา ทำปุ๋ย ทำฟืน หรืออยากได้สะเก็ดไม้ เปลือกไม้ ไปบดทำยาก็เอาไป ใครจะเอากะพี้ไม้ไปทำฝาเรือน ทำขื่อ ทำแป หรือจะเอาแก่นไม้ไปทำเสาเรือนก็เอาไป ทุกส่วนย่อมมีประโยชน์แก่ผู้ที่ต้องการใช้ตามควรแก่คุณค่าของมัน
.
ผู้ฉลาดจึงต้องรู้จักเลือกใช้ให้เป็น ใช้ให้ถูกกับคุณลักษณะของสิ่งของแต่ละอย่าง ก็จะได้รับประโยชน์ตามสมควรจากของนั้น ๆ
.
 
ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็ต้องบอกว่า ธรรมท่านสอนให้รู้ว่า ความดีในพระพุทธศาสนา นั้น มี ๕ อย่าง คือ  ๑.ทาน  ๒.ศีล  ๓.สมาธิ  ๔.ปัญญา  ๕.วิมุติหลุดพ้น
.
ใครมีโอกาสทำดีแบบไหนได้ก็ทำไป ไม่จำเป็นต้องทำเรียงกันไปทีละอย่าง ควรให้ทานได้ก็ให้ทาน ควรรักษาศีลได้ก็รักษาศีล ควรอบรมสมาธิได้ก็อบรมมาธิ ควรเจริญปัญญาได้ก็เจริญปัญญา เมื่อทำทุกอย่างพร้อมบริบูรณ์แล้ว วิมุตติหลุดพ้นก็จะปรากฏให้เห็นได้เอง
.
ความดีแต่ละอย่างย่อมเกื้อกูลอุดหนุนซึ่งกันและกัน สามารถอำนวยประโยชน์ให้แก่ผู้บำเพ็ญได้ตามกำลังแห่งความเพียร จะเลือกเอาแต่อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้
.
การให้ทานย่อมชักนำดวงจิตให้เข้าหาศีล ศีลเมื่อรักษาดีแล้วก็จะทำให้สมาธิตั้งมั่นได้  สมาธิเมื่ออบรมดีแล้วก็จะหนุนให้เกิดปัญญา ปัญญาเมื่อเจริญดีแล้วก็ซักฟอกจิตให้บริสุทธิ์ได้
.
การจะบำเพ็ญความดีทั้ง ๕ อย่าง นี้ให้เต็มเปี่ยมบริบูรณ์ได้นั้น ก็ยากเย็นแสนเข็ญ มิใช่ใคร ๆ ก็จะทำได้ง่าย ๆ ท่านเรียกว่า การสร้างบารมี ๑๐ ทัศ เมื่อทำถึงที่สุดพร้อมบริบูรณ์แล้ว ก็จะไหลรวมไปสู่ความดีในระดับสูงสุด  คือ วิมุตติพระนิพพาน อันเป็นแดนแห่งความเกษมสำราญ ของพระขีณาสวะเจ้าทั้งหลาย
.
 
ที่มีคำพูดว่า ประเทศไทยเป็นแดนพระพุทธศาสนา ที่มีศาสนาพุทธเจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลก มีใครรู้ไหมว่า เป็นเพราะอะไร? มีอะไรเป็นหลักฐาน หรือต่างคนต่างนึกคิดมโนเอาเอง
.
มาลองคิดกันดูว่า คนไทยทั้งประเทศมีประมาณ ๗๐ ล้านคน ที่นับถือศาสนาพุทธมีประมาณ ๙๕% ที่เหลือเป็นศาสนาอื่น ๆ แล้วในจำนวนคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ ๙๕% นั้น มีผู้ตั้งใจปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธอย่างจริงจัง ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะมีอยู่สักกี่เปอร์เซ็นต์
.
เบื้องต้นเกิดมาก็นับถือศาสนาพุทธไปตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย บรรพบุรุษพานับถือสืบต่อกันมา แม้ศาสนาอื่น ๆ ก็เป็นอย่างนี้ คือทุกคนนับถือศาสนาตามพ่อแม่ไปก่อน
.
 
พอเติบใหญ่รู้ความ จึงได้ศึกษาเรียนรู้พระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้ามากขึ้น เมื่อพิจารณาไปตามจึงเกิดสติปัญญาสัมมาทิฏฐิ เกิดศรัทธาความเชื่อ ปสาทะความเลื่อมใส รู้ดี รู้ชั่ว รู้บุญ รู้บาป รู้คุณ รู้โทษ เห็นจริงตามคำสอน
.
ถ้าเป็นผู้มีนิสัยวาสนาในทางดีสั่งสมมาแล้วมาก ก็จะเกิดหิริมีความละอายต่อบาป เกิดโอตตัปปะมีความสะดุ้งกลัวต่อบาป จากนั้นจึงมีแก่ใจที่จะน้อมนำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติอย่างจริงจังมากขึ้น รู้จักทำบุญตักบาตร ไหว้พระ สวดมนต์ รู้จักให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ อบรมปัญญา ให้แก่กล้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามควรแก่บุญวาสนาบารมีที่บำเพ็ญเพียรอบรมสั่งสมมา
.
 
แต่ส่วนใหญ่ชาวพุทธเรา มักนิยมทำความดีขั้นพื้นฐาน คือการให้ทาน ที่ท่านเปรียบเหมือนกิ่งไม้ใบไม้ เรียกว่า ผู้ทำทานเก่งที่สุดในโลกคงหนีไม่พ้นชาวพุทธ ก็เพราะคำสอนของพระพุทธศาสนาที่ซึมซับอยู่ในสายเลือดของคนไทยมานานแสนนาน ทำให้คนไทยมีจิตใจอ่อนโยน มีเมตตาเห็นอกเห็นใจกัน มีความกตัญญูกตเวที มีความเกรงใจกัน
.
แต่การให้ทาน บางทีก็ยังคงทำผิดอยู่บ้าง ธรรมท่านสอนให้ทำทาน ก็เพื่อให้เราตัดกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลงให้ลดน้อยถอยลง ตัดความเห็นแก่ตัว ไม่ให้คิดเอารัดเอาเปรียบใคร ไม่ให้คิดเบียดเบียนผู้อื่น ให้มีจิตเมตตาคิดช่วยเหลือผู้อื่นพอให้เขาได้มีความสุข ได้พ้นทุกข์บ้าง แม้เล็กน้อยก็ยังดี
.
แต่บางทีเราก็ทำทานแบบไม่ได้คิดที่จะตัดกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลง มิหนำซ้ำ ยังพากันส่งเสริมกิเลสความโลภ ความโกรธ ความหลง ให้เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นไปอีก
.
บางทีก็ทำทานด้วยความโลภอย่างไม่รู้ตัว ให้ทานแล้ว ก็อยากได้ชื่อเสียง อยากมีเกียรติ อยากให้คนนับถือ อยากร่ำอยากรวย อยากถูกหวย อยากมีโชคมีลาภ เป็นต้น
.
มันก็เป็นธรรมดาของปุถุชนคนมีกิเลส ก็ต้องมีโลภ มีโกรธ มีหลงบ้าง จะให้ตัดให้ขาดสะบั้นจากใจไปเลยทีเดียว ก็ทำไม่ได้ ถึงแม้จะให้ทานมีความโลภอยู่บ้าง แต่ถ้าไม่ทำอะไรให้เลยขอบเขตของศีล จนทำให้ศีลขาด ก็ยังถือว่าพอเหมาะพอดี  ยังไม่เกินเลย เว้นไว้แต่จะทะลุกำแพงศีลออกไป
.
การให้ทานแม้จะมีความโลภบ้าง ก็ยังดีกว่า ผู้ไม่รู้จักให้ทานเสียเลย เมื่อให้ทานบ่อย ๆ ได้เห็นผู้รับมีความสุขจากการที่เราให้ทาน ใจเกิดความปลาบปลื้มปิติยินดี ใจก็ค่อยบรรเทาความโลภไปเอง
.
 
ดังนั้น เพียงความดีในระดับทาน ก็ยังต้องฝึกฝนอบรมเพื่อทำให้ถูกต้องตามธรรม จึงจะมีผลมาก ยิ่งความดีในระดับศีลที่เปรียบเหมือนสะเก็ดไม้ ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก
.
ชาวพุทธส่วนใหญ่ มักพอใจในการให้ทาน มีงานบุญที่ไหนโรงทานของกินของใช้มีแจกเต็มไปหมด หรือมีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นที่ไหน ไฟไหม้ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ธารน้ำใจของบริจาคก็หลั่งไหลไปรวมกันจนกองเท่าภูเขา
.
แต่ชาวพุทธส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเอาจริงเอาจังกับการรักษาศีลนัก สังเกตดูเวลามีงานทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ตอนกล่าวคำถวายทานเสียงดังกระหึ่มก้องศาลา ใครอยากได้ความสำเร็จอะไร ก็งัดออกมาอธิษฐานทำความปรารถนาเอาทั้งหมด อยากไปสวรรค์ อยากไปพรหมโลก อยากไปนิพพาน จะเอาเดี๋ยวนี้เลย แต่พอให้สมาทานศีล ๕ เท่านั้น เสียงดังหายไปจนฟังแทบไม่ได้ยิน
.
ยิ่งถ้าให้นั่งสมาธิภาวนาฟังเทศน์ฟังธรรมไปด้วย ก็ลุกหนีหายไปเกือบหมด เว้นไว้แต่ผู้ที่ฝึกหัดภาวนาเป็นประจำอยู่แล้ว ก็จะนั่งสมาธิอยู่ได้นาน
.
ที่ประเทศไทยมีชื่อเสียงในการทุจริตคดโกงจนติดอันดับต้น ๆ ของโลกก็เพราะคนไม่ค่อยจะมีศีลกันนี่แหละ
.
 
ชาวพุทธที่ตั้งใจรักษาศีลได้จริง ๆ ก็มีอยู่ แต่เพียงจำนวนน้อยมาก เมื่อเทียบกับชาวพุทธทั้งหมด ประกอบกับการรักษาศีลให้บริสุทธิ์ก็เป็นของทำได้ยากด้วย เพราะมันต้องฝืนกิเลสที่ไม่มีใครอยากจะฝืน
.
เบื้องต้นก็อาจตั้งท่ารักษาศีลได้บ้าง แต่พอเจอสิ่งยั่วยุเย้ายวนใจหนัก ๆ เข้า บางทีก็หักห้ามใจไม่ไหว ยอมทำศีลขาดแบบหกคะเมนล้มคว่ำหัวทิ่มดินไปเลย
.
แต่ที่บ้านเมืองเราเต็มไปด้วยการทุจริตคดโกง นั่นก็เป็นการกระทำของคนไม่ดีจำนวนน้อยที่มีอำนาจอยู่ในมือ มักใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์อย่างไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรม
.
แต่ชาวพุทธเราส่วนใหญ่จะมีพื้นฐานของจิตใจที่ดีงาม มีอัธยาศัยดี มีไมตรี มีรอยยิ้ม มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ชอบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
.
เรามีน้ำใจให้กันได้ อย่างยากที่จะหาที่ใดในโลกเสมอเหมือนได้ ประเทศไทยจึงเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีโอกาสมาเที่ยวประเทศไทย ได้เห็นทรัพยกรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และสวยงาม อีกทั้งอาหารไทยก็มีรสชาติเอร็ดอร่อยอย่างไม่เป็นที่สองรองใคร ผลไม้ก็มีอย่างหลากหลายให้เลือกรับประทานได้ทุกฤดูกาล
.
แต่ที่ทั่วโลกยกย่องว่า ประเทศไทยเป็นแดนพระพุทธศาสนาที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดในโลก ก็เพราะเรามีวัดวาอาวาสที่เต็มไปด้วยศิลปะแบบไทยที่งดงามวิจิตรตระการตาอยู่มากมาย
.
เรามีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เป็นเนื้อนาบุญของโลก เป็นผู้ทรงศีล ทรงสมาธิ ทรงปัญญาบริสุทธิ์บริบูรณ์ จนถึงขั้นทรงวิมุตติหลุดพ้น ก็มีอยู่พร้อมบริบูรณ์ในประเทศไทยนี่เอง
.
 
อันเป็นบทพิสูจน์หนึ่งเดียวในโลกที่ชี้ให้เห็นได้ว่า ข้อปฏิบัติในมัชฌิมาปฏิปทา คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ นี้ ยังดำรงอยู่อย่างถูกต้องแม่นยำ ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติหลุดพ้น ย่อมมีอยู่จริง สามารถปฏิบัติได้จริง และเห็นผลได้จริง ก็มีอยู่ในประเทศไทยนี้หนึ่งเดียวเท่านั้น
.
ถึงแม้จะมีเรื่องราวฉาวโฉ่ของพระสงฆ์บางรูปที่ประพฤติปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม ปรากฏเป็นข่าวอยู่บ้าง ก็ถือเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล ไม่อาจไปลบเลือนความปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระสงฆ์ไทยอีกเป็นจำนวนมากมาย ที่ต่างองค์ต่างตั้งใจปฏิบัติอยู่ตามลำพัง ทั้งวัดป่าและวัดบ้าน ให้ต้องมัวหมองไปด้วย หาได้ไม่
.
พระรูปไหนทำไม่ดี ก็เป็นความเสื่อมเสียของพระรูปนั้น เดี๋ยวกรรมก็ส่งผลให้เกิดความวิบัติฉิบหายไปเอง
.
ศาสนาไม่ได้มีอะไรเสื่อมเสียไปด้วย คำสอนก็ยังดีอยู่เหมือนเดิม พระสงฆ์ที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ยังคงทรงไว้ซึ่งวัตรปฏิบัติที่ดีอยู่เหมือนเดิม พระที่ทำไม่ดีก็มีอันเป็นไปตามกรรมไม่ดีของเขา กรรมย่อมส่งผลแก่ผู้ทำอย่างไม่ลำเอียง
.
 
และถึงแม้ประเทศไทยจะมีเรื่องทุจริตคดโกงมากมาย แต่มันก็เป็นเรื่องปกติของคนมีกิเลสที่มีอยู่ในทุกประเทศทั่วโลก ไม่มีประเทศไหนที่ไม่มีการทุจริตคดโกง เพราะทุกชาติทุกศาสนาต่างก็มีกิเลส ความโลภ ความโกรธ ความหลงตัวเดียวกัน
.
ทุกประเทศจึงมีทั้งคนดี และคนชั่ว ปัญหาเลวร้ายของสังคม มิใช่เกิดขึ้นเพราะคนดี แต่เกิดขึ้นเพราะคนชั่วต่างหาก
.
คนชั่วก็ต้องทำชั่วเป็นธรรมดา ใครจะไปห้ามให้คนชั่ว ไม่ทำชั่ว เป็นไม่มีทางห้ามได้ เว้นไว้แต่เขาจะสำนึกผิดละเว้นการทำชั่วด้วยตัวเขาเอง
.
ใครทำไม่ดี มันก็เป็นความผิดของคนที่ทำไม่ดีนั้น จะไปเหมารวมให้คนอื่นที่ไม่ได้ทำชั่ว ให้พลอยผิดไปด้วย หาได้ไม่
.
ศาสนาพุทธสอนให้ทุกคนละชั่ว ทำดี ไม่ได้ส่งเสริมให้ใครไปทำชั่วแม้แต่เพียงนิดเดียว และศาสนาพุทธก็มิได้บังคับให้ทุกคนต้องมาปฏิบัติตาม หรือใครจะเลิกนับถือศาสนาพุทธ หันไปนับถือศาสนาอื่น  ศาสนาพุทธก็มิได้ตามไปตัดพ้อต่อว่า คงปล่อยให้เป็นไปตามความพอใจของแต่ละคน
.
 
นี่! คือ ความยอดเยี่ยมของพระพุทธศาสนาที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก
.
ศาสนาพุทธเป็นเพียงคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เป็นศาสดาองค์เอกของโลก ผู้ใดนับถือศาสนาพุทธ ก็เป็นหน้าที่ของผู้นั้นที่จะต้องนำคำสอนไปประพฤติปฏิบัติเอง และต้องปฏิบัติให้ถูกจึงจะเห็นผลได้จริง
.
ศาสนาพุทธไม่มีหน้าที่ไปเชื้อเชิญให้ใครมานับถือ หรือบังคับให้ใครมาปฏิบัติตาม จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ใคร ๆ มานับถือศาสนาพุทธแล้ว จะไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา มิหนำซ้ำ ยังคงพอใจทำชั่วช้าเลวทราม ก็เท่ากับผู้นั้นไม่อาจถือเอาประโยชน์อันใดจากคำสอนของพระพุทธศาสนาได้เลย
.
ดังนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องไปเดือดร้อนกับการทำชั่วของคนอื่น เพราะใครทำชั่วผู้นั้นก็ต้องได้รับผลชั่วเองอยู่แล้ว ขอให้เราตั้งใจทำดีให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปให้สุดกำลังความสามารถเท่าที่จะทำได้ อย่าหลงไปทำชั่วเหมือนเขาก็พอ
.
และอย่ากลัวว่า ใครจะมาทำลายศาสนาพุทธให้เสื่อมสลายไปจากโลกนี้ได้ ถ้าชาวพุทธยังปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอยู่ในอริยมรรคมีองค์ ๘ โลกจะไม่พึงว่างจากพระอรหันต์
.
เว้นไว้แต่ชาวพุทธจะทำลายศาสนาพุทธเสียเอง ด้วยการที่ไม่มีใครปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธอีกเลย ศีล สมาธิ ปัญญา ย่อมเสื่อมสลายไปจากใจของชาวพุทธเอง เมื่อถึงเวลาอันควร
.
 
#ดอยแสงธรรม_๒๕๖๕
 
๑๓ กุมภาพันธ์ ๑๕๖๕
 
 



สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส

* ข้อวัตรปฏิปทาในพ่อแม่ครูอาจารย์
* บริขารพระป่าในปฏิปทาพ่อแม่ครูอาจารย์
* สุดรัก...สุดอาลัย... พ่อแม่ครูอาจารย์
* ประกาศวัดป่าบ้านตาด เรื่อง หนังสือภูริทัตตะ อัครเถราจารย์
* พระประวัติย่อ สมเด็จพระญาณสังวร ฯ
* ชมวีดีโอชิวิตที่วัดป่าบ้านตาด
* 100 ปี ชาตกาลองค์หลวงตา
* ชมวีดีโองานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
* ประวัติหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (ย่อ)
* ทำเนียบพระสังฆาธิการจังหวัดเชียงใหม่
* คำพระอุปัชฌาย์สอนนาค
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 30 พ.ค. 2546 ณ.วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 1 มิ.ย. 2554 ณ.วัดพทธธัมมธโร สหรัฐอเมริกา
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่หอพระ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 29 มิถุนายน 2555
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มช. 9 ส.ค. 2556
* เทศน์ที่เวที คปท. ๑๖ ก.พ. ๒๕๕๗
* เทศน์ที่วัชรธรรมสถาน ๒๕ เม.ย.๒๕๕๗
* เทศน์งานหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.2561
* เทศน์งานหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต 8 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 12 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่ท่อน ญาณธโร 11 ส.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 11 ก.พ.2562
* เทศน์งานวัดอโศการาม 17 มี.ค. 2562
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 15 พ.ย. 2562
* เทศน์งานวัดเจริญสมณกิจ 16 ธ.ค. 2562
* เทศน์งานวัดป่าภูผาสูง 8 ม.ค. 2563
* เทศน์งานบำเพ็ญกุศลศพ พระปลัดอนุพุทธ 12 ม.ค. 2563
* เทศน์งานประชุมเพลิง พระปลัดอนุพุทธ 13 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดเจดีย์หลวง 20 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดป่าสุขใจ ชะอม 23 ส.ค. 2563
* เทศน์งานผูกพัทธสีมา วัดป่ากิ่วดู่ 27 ก.พ. 2564
* เทศน์อบรมที่ วัดสำปะซิว 26 ธ.ค. 2564
* เทศน์งานหลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง 27 ม.ค. 2566
* เทศน์ที่วัดป่าบ้านตาด 29 มกราคม 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ วันที่ 5 ก.พ. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 26 ก.พ.2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 24-26 มี.ค. 2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 26-28 พ.ค 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ สายธรรมวันสว่าง วันที่ 18 มิ.ย. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 29 มิ.ย. 2566
* พระธรรมเทศนา ณ.วัดเกาะทอง ในพิธีอุปสมบทประจำปี ๒๕๖๖ ณ.วันที่ ๒ ก.ค. ๖๖
* เทศน์วัดป่าศรัทธาถวาย เนื่องในงานแสดงมุฑิตาสักการะฯ วันที่ 6 สิงหาคม 2566
* เทศน์วัดเกาะทอง วันที่ 8 กันยายน 2566
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566
* เทศน์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตำหนักบางขุนพรหม 24 ตุลาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรม ณ.ชมรมพระพทธศานาเอไอเอสำนักงานใหญ่ชั้น 8 วันที่ 6 ธันวาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ณ.วัดเกาะทอง
* แสดงธรรมในงานครบรอบ 21 ปีวันละสังขาร หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.67
* เทศนาธรรมที่มูลนิธิบ้านอารีย์วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567
* เทศนาธรรมที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต 24 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 29-31 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาอบรมจิตภาวนาวัดเกาะทอง วันที่ 5 เมษายน 2567
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 14 เมษายน 2567
* เทศน์ภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 25 เมษายน 2567 เนื่องในวาระครบรอบปีที่ 63 ท่านพ่อลี ละสังขาร
* เทศนาธรรมคอร์สปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 ภาวนาสัญจร 4-6 พ.ค. 2567 ณ บ้านนางฟ้า เขาใหญ่
* เทศนาธรรมที่ธนาคารแห่งประเทศไทย 20 มิ.ย.67
* เทศน์อบรมปฏิบัติภาวนาที่พิพิธภัณฑ์จรรโลงพระพุทธศาสนา 5 ก.ค.2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 12-14 กรกฎาคม 2567
* พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
* แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดเกาะทอง ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อ 28 ก.ค.67
* เทศน์แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
อาสาฬหบูชารำลึก ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗
มาฆบูชารำลึก ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
วิสาขบูชารำลึก ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
แม่นี้มีคุณอันใหญ่หลวง
วันเข้าพรรษา
ชมภาพบรรยากาศพิธีอุปสมบท ณ.พัทธสีมา วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ตำแหน่งที่ควรค่าต้องได้มาเพราะคู่ควร
สุขใดเสมอสงบไม่มี
สื่อโซเชียลคุณอนันต์โทษมหันต์
ชีวิตติดPresentTense
ความสวยความงาม
บุพเพอาละวาด
ศีลคือรากแก้วของศาสนา
ได้ยินสักแต่ว่า ได้ยิน
พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี
จะหงุดหงิดใจกับคนโกงเพื่อ?
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP2
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP1
ธรรม!!!เตือนสติสังคมไทย
การใช้ชีวิตแบบพอเพียง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ดูท่าแล้วเก็บทรงไม่อยู่
มาเจริญศาสนาในใจกันดีกว่า
เรื่องของหัวหน้ากับลูกน้อง
โลกที่แท้จริงมีอยู่ในใจ
อย่าประมาทในชีวิตอันน้อยนิด
ทางสองแพร่ง
ทุกข์อันเกิดจากมิจฉาอาชีวะ
นักรบศิษย์พระตถาคต
สิกขาบทที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องการลักทรัพย์
อเสวนา จ พาลานํ
พัฒนาสิ่งใหญ่ๆเริ่มได้จากพัฒนาตัวเอง
หากจะเปรียบธรรมะคือสินค้าพรีเมียมเกรดระดับโลก
ทำอย่างไรให้งามชาตินี้ ยันชาติหน้า ต่อไปชาติโน้น
เป็นห่วงชาติ
ถ้าโลกนี้มีแต่คนดี
คู่มือส่องพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
กฎธรรมชาติ
ไม่มีใครอยู่เหนือกรรม