
สรณะที่แท้จริง ข้าพเจ้าขอถึง พระพุทธเจ้า เป็นสรณะที่พึ่งที่เคารพนับถือของข้าพเจ้า . ข้าพเจ้าขอถึง พระธรรม เป็นสรณะที่พึ่งที่เคารพนับถือของข้าพเจ้า . ข้าพเจ้าขอถึง พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งที่เคารพนับถือของข้าพเจ้า . เมื่อได้ตั้งใจถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งที่เคารพนับถือดังนี้แล้ว คุณธรรมความดี ทั้งหลายทั้งปวงย่อมเจริญรุ่งเรืองภายในดวงจิต นับตั้งแต่ การให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิ อบรมปัญญา เป็นต้น ไปจนถึง มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ ก็จะพึงบังเกิดขึ้นได้แก่ ผู้ปฏิบัติ ผู้ประกอบความเพียรในองค์อริยมรรคทั้ง ๘ มี ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นต้น . ยังดวงจิตให้เกิดความอาจหาญ ร่าเริงในสัมมาปฏิบัติ เกิดความคล่องแคล่วแกล้วกล้า ไม่ย่นย่อท้อถอยต่อความทุกข์ยากลำบากทั้งปวง มองเห็นทุกข์ทั้งหลายเหล่านั้น เป็นเพียงหินลับสติปัญญาให้คมกล้ามากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง . ผู้ใดมีจิตมุ่งมั่นตั้งใจประกอบความเพียรใน ศีล สมาธิ ปัญญา ให้เป็นไปแล้ว ผู้เช่นนั้นได้ชื่อว่า เป็นผู้เข้าถึงพระไตรสรณคมน์อย่างฝังลึกไม่ง่อนแง่น ไม่คลอนแคลน . นอกจาก พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้ว ย่อมไม่อาจถือเอาสิ่งอื่นใดมาเป็นสรณะที่พึ่งได้อีกเลย อุปมาเหมือนได้เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่ตลอดเวลา ย่อมเป็นผู้อยู่ใกล้ พระนิพพานโดยแท้ . #ดอยแสงธรรม_๒๕๖๔ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๔
|