(Pathological Gambling)
นพ.พนม เกตุมาน
ในช่วงที่ทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับการแข่งขันฟุตบอลโลก มีคนอีกกลุ่มหนึ่งตื่นเต้นกว่า เพราะการแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นที่มาของรายได้จำนวนมหาศาล คนที่ใจจดจ่ออยู่กับผลการแข่งขันแพ้ชนะ แม้แต่จำนวนประตูที่ยิงได้ ก็มีความหมายมาก อาจกลายเป็นเงินมหาศาล การ***บอลโลกไงครับ กิจกรรมนี้แพร่ระบาดซึมลึกในสังคมไทยมานานแล้ว และนับวันจะมากขึ้นเรื่อยๆ ลงไประบาดถึงในเด็กนักเรียนและวัยรุ่น ทำให้เกิดปัญหาอื่นตามมาเช่น ปัญหาอาชญากรรม ปัญหาครอบครัวและสังคม
การ***บอลโลกมีมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีใครทราบ เข้าใจว่าน่าจะมีมานานพอๆกับการ***อย่างอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองไทย สามารถเล่นการ***ได้หลากหลายรูปแบบ แต่ในปีหลังๆการ***บอลโลกเป็นที่กล่าวขวัญถึงมากกว่าการ***ประเภทอื่นๆ อาจเป็นเพราะการแข่งขันมีความยิ่งใหญ่มาก มีผู้ชมมาก มีการถ่ายทอดสดให้คนทุกมุมโลกได้ดู การ***ในผลการแข่งขันจึงมีมากตามไปด้วย
คนที่ชอบการ***มีหลายประเภทครับ
บางคนชอบการ***เป็นครั้งคราว ทำให้รู้สึกตื่นเต้นมีรสชาติในชีวิต แบบนี้มักไม่ได้ใช้เงินทองมากมายอะไร ไม่ได้เป็นหนี้เป็นสิน ถ้าไม่มีเงินก็ไม่เล่น รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเองได้ดี การ***แบบนี้ไม่ใช่โรค ไม่ต้องรักษาก็ได้ แต่ถ้าจะเลิกเล่นเลยน่าจะดีกว่า
อาการ
คนที่เล่นการ***จนถึงกับเป็นโรค ที่เรียกว่า โรคติดการ*** (Pathological gambling) มีลักษณะคล้ายกับการติดสารเสพติด คือ จิตใจจดจ่ออยู่กับการ***ตลอดเวลา ไม่สามารถคิดหรือทำอย่างอื่น มีความอยากเล่นที่ยากจะควบคุม ในที่สุดก็จะเล่นการ***โดยไม่มีการยั้งคิด เวลาเล่นได้ก็เกิดความโลภอยากได้มากขึ้น เวลาเสียก็จะรู้สึกเสียดายมากอยากได้คืน ก็จะเล่นเพื่อแก้ตัว ในที่สุดก็ลงเอยด้วยการสูญเสียจำนวนมาก น่าแปลกที่คนที่เล่นการ***แล้วเสีย ไม่ค่อยตระหนักในความจริงที่ว่ามีคนที่ประสบผลสำเร็จจากการ***น้อยมาก เขามักจะคิดเข้าข้างตัวเองว่าเมื่อเสียแล้วน่าจะมีได้บ้าง การปลอบใจตัวเองแบบนี้ทำให้เขาไม่หยุดเมื่อเล่นเสีย การขาดสติควบคุมตัวเองเป็นอาการสำคัญประการหนึ่งของ โรคติดการ***
คนที่เป็นโรคติดการ*** มักจะหาโอกาสเล่นการ***เสมอ แม้ตัวเองจะไม่มีเงิน ก็อาจขโมยเงิน หรือทำทุกรูปแบบเพื่อให้ได้เงินมาเล่นการ*** การเป็นหนี้สินไม่ได้ทำให้จิตใจเกิดการยั้งคิด แต่ในทางตรงกันข้าม เขาจะคิดว่าการ***อาจทำให้เขามีโอกาสได้เงินมาใช้หนี้ได้บ้าง คนที่เป็นโรคนี้จึงมักคิดเข้าข้างตนเองตลอดเวลา เพื่อให้ได้เล่นการ***
สาเหตุ
มีคนเคยศึกษาพฤติกรรมคนที่เป็นโรคติดการ*** และโรคอื่นๆที่มีปัญหาคล้ายๆกันในเรื่องการควบคุมตัวเอง พบว่าสมองบางส่วนมีการทำงานน้อย ทำให้เขาต้องพึ่งพากิจกรรมที่มีความตื่นเต้นสูงๆ จึงจะเกิดความสุขได้ ในสมองของมนุษย์มีบริเวณหนึ่งที่เรียกว่า อมิกดาลา (Amygdala) เป็นศูนย์กลางของความพึงพอใจ เมื่อเราเป็นเด็กทำความดีแล้วมีคนชื่นชม ความรู้สึกประทับใจนั้นจะเก็บสะสมไว้ที่อมิกดาลานี้ ทำให้อยากทำสิ่งนั้นอีก กลไกนี้เป็นส่วนหนึ่งของระบบแรงจูงใจของมนุษย์เรา ความพึงพอใจในชีวิตอาจมีหลายด้าน หลายกิจกรรม การมีกิจกรรมที่สร้างความรู้สึกดีๆเช่นนี้ทำให้เรามีวิธีสร้างความพึงพอใจส่วนตัว เรียกว่าวงจรของความพึงพอใจ (Pleasure circuit) บางคนมีวงจรเช่นนี้มาก บางคนมีน้อย ขึ้นอยู่กับพื้นอารมณ์ และประสบการณ์การเรียนรู้ในชีวิตที่ผ่านมา คนที่จะมีปัญหาได้ง่ายคือคนที่ขาดวงจรชีวิตที่มีความสุข เขาก็จะแสวงหาจากกิจกรรมอื่นที่ทำให้รู้สึกพอใจได้ง่าย เช่น การ*** สารเสพติด เพศสัมพันธ์ ซึ่งล้วนแล้วแต่จะกระตุ้นความตื่นเต้น หรือความสุขช่วงสั้นๆ อย่างทันอกทันใจ คนพวกนี้มักอดทนรอคอยความสำเร็จหรือรางวัลไม่ได้นาน ทำให้หาวงจรความพึงพอใจได้ยากจากกิจกรรมทั่วๆไป
ถ้าวิเคราะห์จิตใจคนที่เล่นการ*** เขาจะเป็นประเภทแสวงหาความตื่นเต้น ต้องการความสุขจากจินตนาการ เวลาเล่นการ***ประสบการณ์ที่หลายคนชอบมาก คือการได้ลุ้น ตรงนี้สร้างความสุข ความพึงพอใจได้มากๆ แม้ว่าการลุ้นนั้นได้ผลบ้างไม่ได้ผลบ้าง แต่เขาจะจำได้แม่นเฉพาะตอนที่ประสบผลสำเร็จ
คนไข้คนหนึ่งของผมเป็นโรคติดการ***ที่ว่านี้ ภรรยาของเขาเป็นผู้พามาหาหมอทั้งที่เจ้าตัวเองไม่อยากจะมา ด้วยเหตุที่ตนเองไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาแต่อย่างใด ภรรยาเล่าให้ฟังถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาอย่างขมขื่นว่า ขณะนี้เป็นหนี้ท่วมตัว พ่อเจ้าประคุณเอาไปเล่นการ***หมด เล่นเสียแล้วก็ยังไปกู้หนี้ยืมสินเพื่อมาเล่นต่ออีก ความเสียหายที่เกิดขื้นมากกว่าไฟไหม้บ้านซักสิบครั้ง ไฟไหม้บ้านยังมีโอกาสแก้ตัว แต่สามีติดการ***นี้ไม่มีทางกลับ เพราะไม่มีทางเปลี่ยนนิสัยกันได้ เสียแล้วยังไม่เรียนรู้ ยังหาโอกาสเสียอีก คนในครอบครัวเดียวกันมักจะทนไม่ได้ ที่สำคัญคือเจ้าตัวไม่คิดว่าเป็นปัญหา ทำให้ไม่ร่วมมือในการแก้ใขเปลี่ยนแปลงตนเอง ซึ่งก็เป็นความจริง ในเวลาต่อมาคนไข้คนนี้ไม่หยุดเล่นการ*** แต่ภรรยาทำใจได้ คอยกันไม่ให้สามีเอาเงินไปเล่นมากจนทางบ้านเดือดร้อน ประโยคสุดท้ายที่คนไข้พูดกับผมคือ “ หมอรักษาผมไม่ได้หรอก ถ้าไม่เชื่อ ***กันก็ได้”
การรักษาและป้องกัน
เนื่องจากการรักษาโรคติดการ***ไม่ค่อยได้ผล การป้องกันจึงสำคัญกว่าการรักษา ซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่เด็กๆ พยายามเสริมให้เด็กมีกิจกรรมที่ดี ให้เกิดวงจรความพึงพอใจชีวิตด้วยตัวเอง ให้เด็กได้รับประสบการณ์ที่ดีกับกิจกรรมที่ถูกต้อง ใช้ความสามารถตนเองมากกว่าโชคหรือโอกาส ให้มีความสุขกับงานสร้างสรรค์ ให้รู้จักรอคอยความสำเร็จ ที่สำคัญผู้ใหญ่ต้องไม่เป็นตัวอย่างของการเล่นการ***เสียเองในบ้านด้วยนะครับ
ความรู้เรื่องโรคทางจิตเวชและปัญหาพฤติกรรม