ReadyPlanet.com


ขออนุญาตสอบถามเรื่องศีลข้อ 2 ครับ


 ขออนุญาตสอบถามเรื่องศีลข้อ2ค่ะ อยากทราบว่าในกรณีแบบนี้ศีลขาดไหมคะ 

หน่วยงานที่รับทำงานให้เบิกเงินค่าเดินทางจากบ้านไปที่ทำงาน ซึ่งก็ได้เบิกเป็นราคาเหมาเท่ากันทุกวัน แต่ในความเป็นจริงบางวันก็ไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเท่ากับที่เบิกตรงส่วนนี้ค่ะ เช่นติดรถคนอื่นมาก็ไม่ต้องจ่าย 

นอกจากนี้ยังมีการให้เบิกเวลาออกนอกสถานที่ โดยให้เบิกโดยคิดจากค่าโดยสารจากที่ทำงานไปข้างนอก

 ซึ่งบางครั้งได้เดินทางตรงไป-กลับจากบ้านเลยไม่ได้ผ่านที่ทำงาน แต่เบิกเงินเป็นเรทค่าโดยสารจากที่ทำงานไป-กลับ คือเท่ากับว่าเบิกมากกว่าที่จ่ายจริงเลยรู้สึกไม่สบายใจค่ะ 

เพิ่งมาตระหนักได้ทีหลังว่าบางครั้งเบิกไปมากกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดจริง

หากว่าเรารู้สึกไม่สบายใจ เกิดความคิดฟุ้งซ่าน ในสิ่งที่เคยได้ทำไปในอดีต ไม่ว่าจะโดยเจตนา ไม่เจตนา เราควรทำใจอย่างไรคะ 

ขอบพระคุณค่ะ 

 



ผู้ตั้งกระทู้ นัน :: วันที่ลงประกาศ 2021-09-01 17:01:21


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4306987)

 ถ้าเรารู้ว่า สิ่งไหนที่ทำแล้วไม่สบายใจ ก็ตั้งใจเสียใหม่ว่า ต่อนี้ไป เราจะไม่ทำเช่นนั้นอีก ของที่ไม่ใช่ของเรา หรือลาภอันมิบังควรจะได้มา ก็อย่าเอาเสียเลยจะดีกว่า ถือว่า ช่วยกันประหยัดงบประมาณแผ่นดิน ก็เท่ากับทำบุญให้กับประเทศชาตินั่นแหละ ก็มีอานิสงส์มากไม่ได้ด้อยไปกว่าทำบุญถวายสงฆ์ เพราะสมบัติของชาติก็เป็นของสาธารณะ เหมือนกับของสงฆ์ สถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มีความสำคัญเท่าเทียมกัน แต่ชาติสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด อันใดจะช่วยชาติให้อยู่รอดได้ ต้องช่วยชาติก่อน เพราะถ้าไม่มีชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ก็ตั้งอยู่ไม่ได้

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2021-09-01 23:28:47


ความคิดเห็นที่ 2 (4307778)

 กราบขอบพระคุณค่ะ เหตุเกิดจากที่เราไม่ได้นั่งจำไล่ว่าวันไหน จริงๆแล้วใช้ไปเท่าไหร่ค่ะ หรือนั่งจำว่าวันไหนจากบ้านไปเลย จึงเบิกไปเท่ากันเป็นเรทค่าโดยสารสาธารณะเพราะสะดวก แม้จะรู้ว่าบางครั้งก็มีใช้น้อยกว่าที่เบิกไป หรือบางครั้งไม่ได้ใช้เลย หรือบางครั้งก็มากกว่า

แต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเพราะกลัวว่าจะเบิกไปมากกว่าความจริง และหากเป็นเช่นนั้นก็อยากคืน ไม่ได้อยากเอาของๆเขามา

แล้วอย่างนี้เป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว เราจะชดใช้ด้วยการซื้อของทดแทนชดใช้ให้เจ้าของหน่วยงานเอกชน หากว่าได้มีการล่วงละเมิดทรัพย์เขามาได้ไหมคะ เพราะรู้สึกไม่สบายใจ และจิตใจกังวลกับสิ่งนี้

ผู้แสดงความคิดเห็น นัน วันที่ตอบ 2021-09-05 22:26:24


ความคิดเห็นที่ 3 (4307784)

ได้สิ เพราะอดีตมันย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้ ต้องแก้ไขในปัจจุบันเท่านั้น เราหาเงินไปบริจาคชดเชยที่เราคิดว่า เอาของเขามามากเกินจริง ถ้าหากเราไม่ได้มีเจตนาที่จะเอาของของคนอื่น ก็ไม่ถือว่า เป็นบาปเป็นกรรมอะไรมากหรอก จงทำในสิ่งที่จะทำให้เราสบายใจก็แล้วกัน

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา กิจฺจวิชฺโช วันที่ตอบ 2021-09-06 00:48:20


ความคิดเห็นที่ 4 (4316993)

 กราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะพระอาจารย์

ผู้แสดงความคิดเห็น นัน วันที่ตอบ 2021-10-20 12:17:04



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล