ขอโอกาสสอบถามเกี่ยวกับต้องอาบัติครับ | |
กราบนมัสการพ่อแม่ครูอาจารย์ โยมขอโอกาสสอบถามเกี่ยวกับอาบัติอันลามกที่โยมได้เคยกระทำไว้ในสมัยที่ได้อุปสมบทเมื่อพ.ศ.๒๕๕๙ ที่โยมได้เพิ่งระลึกถึงการกระทำนั้นได้ในหนหลัง มีเรื่องราวดังนี้ ขณะที่อุปสมบทนั้น โยมได้ทำการพยายามให้อสุจิเคลื่อน แต่อย่างไรก็ตาม (๑) ด้วยปกติสภาพของร่างกายของโยม โยมเป็นผู้ไม่มีอสุจิไหลออกมาขณะที่กระทำ จนกว่าจะถึงจุดสำเร็จ (๒) นอกจากนี้โยมระลึกกลับได้ว่า ขณะนั้นโยมได้กระทำไปโดยความเคยชินสมัยที่เป็นฆราวาส ซึ่งต่อมาระลึกถึงสมณะสัญญาว่าตนบรรพชาแล้ว และพยายามหยุดการกระทำนั้นแม้จะไม่ได้หยุดกระทำในทันทีที่ระลึกถึงสมณะสัญญาก็ตาม (๓) และโยมได้ปกปิดการกระทำนั้นไว้ โดยคาดการณ์ว่าสมัยนั้นโยมคิดว่าตนได้ทำลหุอาบัติคือถุลลัจจัยเท่านั้น และโยมไม่ได้เข้าปริวาสกรรมจนลาสิกขาออกมาเป็นฆราวาส โยมจึงมีคำถามขอเมตตาจิตพ่อแม่ครูอาจารย์ดังนี้ (๑) การกระทำของโยมในสมัยนั้นต้องสังฆาทิเสส หรือต้องลหุอาบัติ (๒) หากต้องสังฆาทิเสส โยมที่ลาสิกขาแล้วต้องกระทำการอย่างไรบ้างเพื่อปลงอาบัตินั้นในเพศฆราวาส เนื่องจากโยมได้สืบค้นข้อมูลเพิ่มเติมแล้ว ได้ความว่าหากโยมต้องสังฆาทิเสสแล้ว หากต่อมาอุปสมบทอีกสังฆาทิเสสนั้นจะติดไปด้วย จนยากที่จะแก้ไข กราบขอเมตตาครูบาอาจารย์โปรดไขข้อสงสัยให้แก่โยมด้วยครับ | |
ผู้ตั้งกระทู้ ปิยธรรม :: วันที่ลงประกาศ 2018-06-12 19:56:44 |
[1] |
ความคิดเห็นที่ 1 (4121624) | |
ตอบ อาบัติสังฆาทิเสสเป็นอาบัติหนักที่ยังสามารถแก้ไขได้ องค์ประกอบคือ ๑.ต้องมีเจตนาในการที่จะทำให้น้ำอสุจิเคลื่อน ๒.ได้ทำความพยายามด้วยวิธีการใด ๆ ก็ตามเพื่อให้น้ำอสุจิเคลื่อน ๓.น้ำอสุจิเคลื่อนแม้เพียงหยดเดียว ภิกษุนั้นก็เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ถ้าครบองค์ดังนี้ ก็เป็นอาบัติสังฆาทิเสส ไม่เกี่ยวกับว่าจะรู้หรือไม่รู้ ดังนั้นต้องสำรวจตัวเองว่าครบองค์หรือไม่ ถ้าเป็น ถึงลาสิกขาไปแล้ว ก็ยังติดอาบัติอยู่ เมื่อบวชใหม่ก็บอกกับสงฆ์ ขอแก้ไขเสียก็พ้นไปได้ วิธีแก้ไขก็มีในหนังสือวินัยมุขเล่ม ๓ ลองศึกษาดู | |
ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2018-06-17 22:51:04 |
[1] |