
ที่คลองราชมนตรี ศิษย์หลวงตามหาบัวช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม คณะศิษย์หลวงตาได้รับแจ้งว่าในเขตพุทธมณฑลแถบบ้านริมคลองเป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมที่ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้าถึง เพราะลึก และเป็นพื้นที่ไม่มีถนนผ่าน จึงได้เข้าไปแจกตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง(18พย.54) เพราะมีของเหลือจากการลงพื้นที่เขตทวีวัฒนาในคราวที่แล้ว ที่เน้นมากคือนมผงสำหรับเด็กทารกที่แม่ไม่สามารถให้นมเองได้ หลังจากนั้นวิ่งไปขอรับน้ำที่ รร.นายเรือ จ.สมุทรปราการ เป็นหน่วยแจกน้ำของบริษัทกระทิงแดง มีผู้แจ้งมา ซึ่งได้ข้อมูลวันนั้นก็ไปวันนั้นไม่ทันได้ทำหนังสือขอ แต่ทางเราก็แจ้งไปว่าจะไปจุดที่ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือ ทางนายทหารกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทก็ได้อนุเคราะห์แบบด่วนจริง ๆ ได้มาประมาณ 1,200 ขวด ขอขอบคุณบริษัทกระทิงแดงกับ รร.นายเรือมา ณ ที่นี้ สำหรับผู้ที่จะขอรับน้ำจาก รร.นายเรือ เพื่อนำไปแจกให้ผู้ประสบภัย ติดต่อได้ที่ (02)475-7403,(02)475-3879 อยู่เลยช้าง 3 เศียรไปทางอ.เมืองสมุทรปราการไม่ไกล หลังจากนั้น ตรงดิ่งมาที่โรงทานของลูกศิษย์หลวงตา อยู่ที่วัดดวงแข หัวลำโพง เพื่อรับอาหารไปแจก ที่นี่มีกำลังผลิตได้วันละ 15,000 ชุด มีผู้มาขอรับอาหารไปหลายหน่วยงาน ทั้งปอเต็กตึ้ง ร่วมกตัญญู สส.จากพรรคการเมืองต่างก็มาขอรับไปแจกพื้นที่ของตัว ศาสนาก็มีทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม แม้จะเป็นชาติศาสนาไหน แต่หากมีน้ำใจก็จะเป็นสิ่งประสานเข้ากัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ สิ่งนี้ทำให้หลายประเทศทึ่งกับวัฒนธรรมไทย เพราะบ้านเมืองอื่นในเรื่องเชื้อชาติศาสนาจะเป็นสิ่งที่ทำให้มีการแบ่งแยกกัน แม้จะมาในนามพรรคการเมืองแต่ก็ให้ เพราะเห็นแก่ความยากลำบากของผู้ประสบภัยมากกว่าสิ่งอื่น บ้านเมืองถึงคราวลำบากก็ควรช่วยเหลือกัน เพราะเราคือคนไทยด้วยกัน เหล่าจิตอาสาตั้งแถวช่วยส่งถุงยังชีพ พระอาจารย์ธำรงค์ซึ่งเป็นผู้ดูแลโรงทานศิษย์หลวงตามหาบัว ตั้งอยู่ที่วัดดวงแข มารับน้ำดื่มของบริษัทกระทิงแดง เพื่อให้หน่วยอื่นรับไปแจกต่อ หลังจากฝ่าดงรถติดบนทางด่วนอยู่ 2-3 ชม. ก็มาถึงพุทธมณฑลสาย 1 บรรยากาศสวยงามดังภาพ ถ้ารัฐบาลฉลาด ต่อไปทุกหน้าฝน กรุงเทพน่าจะได้เป็นเวนิสตะวันออก ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้เม็ดเงินมหาศาล คุณป้าพายเรือเหล็ก(เรืออยู่ด้านหลัง)มาขอรับของ แต่พอลงจากเรือ น้ำอยู่แค่ตาตุ่ม ที่นี่รถทุกคันที่ลุยน้ำ จะกลายเป็นรถประจำทางโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะจะต้องโดนชาวบ้านโบกขออาศัยไปด้วย ไม่เว้นแม้รถสูบส้วม ระหว่างทาง พบคุณลุงกำลังนอนอยู่บนแผ่นโฟมชิ้นใหญ่ คุณลุงคนนี้คงใจดีเพราะสังเกตุจากจำนวนน้องหมาที่นอนอยู่กับคุณลุง น้องที่ขออาศัยรถมาด้วย อาสานำข้าวไปให้ อาหารสุนัขจากโรงทานหลวงตาได้ใช้คราวนี้ น้องหมาพากันมากินอย่างหิวโหย จำได้ว่า เวลาหลวงตามหาบัวเดินทางไปพบสุนัขจรจัด จะให้ลูกศิษย์ซื้ออาหารมาเลี้ยง ระหว่างทางเข้าไปในซอย มีผู้ประสบภัยหน้าตาแปลกอยู่ 2 ชีวิต เป็นกวางเพศเมียกับควายเผือก เดินอยู่กลางซอย สงสัยจะไม่รับถุงยังชีพ ก็เลยให้ส้มไปกินแทน มาถึงคอสะพานจุดนัดพบ นำของย้ายลงเรือ เตรียมพร้อม บรรยากาศยามหัวค่ำ มืดดีจริง ๆ (ภาพถ่ายหัวเรือกับคุ้งน้ำในคลองบางแวก มีบ้านคนสลับกับสวนเป็นระยะ เคล้ากลิ่นน้ำคลองกับเสียงเรือเบา ๆ แบบสุภาพ) ชาวบ้านกลุ่มแรกที่มารับของแจก บ้านหลังแรกที่พบ คุณลุงบอกว่าตั้งแต่น้ำท่วมมาเป็นเดือน ไม่เคยมีใครมาบริจาคของเลย บ้านหลังนี้น้ำท่วมสูง ต้องลงเรือมารับของบริจาค เสียงขอบคุณดังตามหลังมาจากชั้น 2 บ้านนี้ต้องต่อกระดานไม้มาที่ราวระเบียงเพื่อมารับของ คุณลุงอาศัยเดินบนสะพานปูนเล็ก ๆ ที่จมอยู่ใต้น้ำ มารับของด้วยความดีใจ นั่งเรือมารับของ (ภาพไม่ชัดเพราะแบตฯกล้องอ่อน ต้องใช้โหมดไม่ใช้ไฟแฟลต) เสียงจากโทรโข่งเรียกคุณยายกับคุณน้าออกมารับของบริจาค คุณป้ามารับของด้วยความดีใจ มาถึงชุมชนราชมนตรี(อยู่บรเวณริมคลองราชมนตรี) ชุมชนนี้มีตัวแทนหมู่บ้านไปรับของบริจาคจากที่อื่นแต่ไม่พอ เพราะเป็นชุมชนใหญ่ จึงได้ให้ทีมงานประกาศโทรโข่งเพื่อมารับของ มองไปด้านหลังจะเห็นแถวต่อกันลงมาจากสะพานยาวเหยียด มีทั้งคนหนุ่มสาว เด็ก คนชรา มาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ทุจ้า... ที่นี่คนชราก็มีเยอะ เด็กก็มาก ขอบคุงคับ... คุณยายอุ้มหลานมาขอรับนมเด็กอ่อน คุณแม่มากับลูกน้อย ขอนมผงสำหรับเด็กอ่อน คนเรือก็ช่วยแจกด้วยให้เป็นบุญติดตัวไป คุณลุงคนใส่หมวกได้รับอาหารก็นั่งทานเลย คลองบริเวณนี้มีหลายสาย แต่ละสายก็ยาว ต้องเวียนกันไปแจกของ ไม่แน่ใจว่าอีกกี่วันจะมาแจกที่นี่ ทีมงานจึงแก้ปัญหาโดยการบอกทางให้ตัวแทนชุมชนไปรับของบริจาคที่โรงทานหลวงตาเอง เนื่องจากชุมชนนี้มีเส้นทางที่จะออกไปสู่โลกภายนอกได้ มีภาพอีก แต่เวลาไม่พอ วันหลังจะมาลงใหม่ เพราะต้องเตรียมเดินทางไปแจกของต่อแถบคลองบางเชือกหนังที่ไม่เคยมีใครเข้าไปแจกเช่นกัน ถอยเรือไปแถบอื่นที่ยังไม่ได้รับแจก ป้ายนี้น่าจะเปลี่ยนเป็น "ระวังหัวโขกสะพาน" น้ำขึ้นสูงจริง ๆ จนหัวเรือยังเกือบชนสะพาน หัวคนก็ต้องก้มกันจนติดไม้ แจกกันอีกบ้าน
2 ทุ่มกว่า ๆ เดินหน้าแจกต่อจนกว่าของจะหมด อีกชุมชนหนึ่ง ที่มีตัวแทนมารับของไปแจกต่อ บรรยากาศสวยงามยามค่ำของบ้านริมคลอง ชาวบ้านตามมารับของแจก ที่บ้านนี้ได้ถามน้องที่มารับของว่าตากเสื้อยังไม่แห้งหรือ น้องก็รับของแล้วรีบเข้าบ้านไปเลย ถ่ายรูปไม่ทัน โดยปกติชาวบ้านแถบนี้น่ารักทุกคน ทั้งคนหนุ่มสาวเด็กคนเฒ่าคนแก่ แต่ไม่ทราบว่าจะเท็จจริงอย่างไร มีชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า ถ้าบ้านไหนไม่แขวนเสื้อหรือผ้าสีนี้จะไม่ได้รับแจกของ บางบ้านก็เลยต้องมาตากผ้าทั้งวันทั้งคืนแบบนี้ บ้านแถบนี้เหมือนพอมีฐานะบ้าง จึงได้ถามความเป็นอยู่ดูก็ทราบว่า ทุกคนอยู่กันอย่างลำบาก เพราะการเดินทางเข้าออกไม่สะดวก โดยเฉพาะช่วงน้ำขึ้นสูง แม้มีเรือก็ลอดสะพานไม่ได้ ประกอบอาชีพไม่ได้ ส่วนใหญ่ก็บอกว่าไม่มีใครมาแจก จะมีของบริจาคเข้าถึงก็เฉพาะชุมชนใหญ่ที่มีผู้นำชุมชนดูแลไปขอรับของมาจากข้างนอกเท่านั้น |
![]() ![]() ![]() ![]() |