
หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ วัดดอยธรรมเจดีย์ ตำบลตองโขบ อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร "พระอริยเจ้าแห่งวัดดอยธรรมเจดีย์" พระเดชพรุคุณหลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ พระอริเจ้าศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต ท่านเป็นพระที่เรียบง่าย เจ้าระเบียบ มีอุบายละเอียด การเทศนาธรรมใช้ภาษาง่ายๆแต่กินใจความลึกซึ้ง ท่านมีหลวงปู่สาม อกิญฺจโน และท่านพ่อลี ธมฺมธโร เป็นสหธรรมิก ท่านได้นำสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญารวงศ์ (ชื่น) ออกเที่ยวธุดงค์ตามป่าเข้าทางภาคตะวันออก ถึงขนาดที่พระองค์ออกปากชมว่า "การธุดงค์ของพระปฏิบัติกรรมฐานนี้ได้ประโยชน์เหลือหลาย อย่างนี้พระต้องธุดงค์กันให้มากๆ ศาสนาจะได้เจริญรุ่งเรือง" ท่านเกิดเมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๓ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีชวด ณ บ้านโคก อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร เป็นบุตรคนสุดท้องของนายบู่ และนางนวล วงศืเครือสอน ในสมัยเป็นฆราวาส ด้วยความที่ท่านเป็นคนดีมีศีลธรรม รักความยุติธรรม ท่านได้รับหน้าที่เป็นหัวหน้านายฮ้อย พาคณะต้อนสัตว์ มีวัว ความย เป็นต้น ไปขายยังกรุงเทพฯ และเมื่อถึงกาลอันควร พ่อแม่จึงได้จัดพิธีแต่งงานให้เมื่ออายุ ๒๕ ปี (พ.ศ. ๒๔๖๘) ต่อมาภรรยาของท่านพร้อมบุตรในครรภ์ได้เสียชีวิตลง ทำให้ท่านรู้สึกสูญสิ้น นี่เองเป็นเหตุให้ท่านสลดสังเวชและนึกถึงร่มเงาแห่งพระพุทธศาสนา ปีพุทธศักราช ๒๔๖๙ ได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย โดยมีพระอาจารย์โท เป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังบวชแล้วได้ไปจำพรรษาที่วัดบึงทวยกับพระมี ซึ่งเป็นสหธรรมิก ท่านทั้งสองได้ธุดงค์ไปหลายแห่งทั้งในประเทศไทย ลาว และพม่า ขณะนั้นเกียรติคุณของท่นพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต กำจรกำจายไปทั่วทุกทิศ ท่านและพระมีจึงเข้ากราบลาพระอาจารย์วานคำ แห่งวัดบึงทวย เดินทางไปพบท่านพระอาจารย์มั่นที่บ้านสามผง อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ขณะนั้นเป็นเวลาเย็นมากแล้ว ท่านพระอาจารย์มั่นกำลังแสดงธรรมสั่งสอนศิษยานุศิษย์ จึงได้โอกาสเข้าไปฟังธรรม เมื่อการแสดงธรรมจบลงจึงเข้าไปกราบฝากตัวเป็นศิษย์ วันที่ ๒๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ได้ญัตติเป็นพระธรรมยุต ณ วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี โดยมี พระปัญญาพิศาลเถระ (หนู ฐิตปญฺโญ) วัดสระปทุม กรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์เพ็ง วัดใต้ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ท่านได้ธุดงค์ไปจำพรรษาตามสถานที่ต่างๆ เป็นต้นว่า ปีพุทธศักราช ๒๔๗๐ จำพรรษาที่ป่าช้าบ้านหัววัว ตำบลกำแมด อำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร ปีพุทธศักราช ๒๔๗๓ จำพรรษาที่วัดป่าเหล่างา จังหวัดขอนแก่น ปีพุทธศักราช ๒๔๗๖ จำพรรษาที่วัดสว่างอารมณ์ บ้านใหม่สำโรง อำเภอสีคิ้ง จังหวัดนครราชสีมา (ท่านสร้างวัดนี้) ปีพุทธศักราช ๒๔๘๐ จำพรรษาที่วัดทรายงาม บ้านหนองบัวอำเภอเมือง จังหวัดจันทบัรี ปีพุทธศักราช ๒๔๘๒ ท่านได้สร้างวัดเขาน้อย ท่าเเฉลบ ตามพระบัญชาของสมเด็จพระสังฆราช เจ้ากรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ปีพุทธศักราช ๒๔๘๕ ท่านได้จำพรรษากับท่านพระอาจารย์มั่น ที่เสนาสนะป่าช้าบ้านโคก อำเภอโคกศรีสุพรรณ จังหวัดสกลนคร ได้รับอุบายธรรมอันสำคัญและได้รับความเมตตาจากท่านพระอาจารย์มั่นเป็นพิเศษ ต่อมาสถานที่แห่งนี้ท่นได้สร้างเป็นวัดโดยสมบูรณ์ ชื่อ "วัดสุทธิธรรมาราม" ปีพุทธศักราช ๒๔๘๙ ท่านได้ธุดงค์ไปตามเทือกเขาภูพาน เห็นว่ามีความสงบวิเวกดี จึงได้ปักกลดภาวนาที่ในถ้ำบนภูเขาภูพาน ซึ่งถ้ำนี้เป็นที่อยู่ของเสือ และสถานที่แห่งนี้ต่อมาก็ได้กลายเป็น "วัดดอยธรรมเจดีย์" ท่านได้ละสังขารเข้าสู่แดนอนุปาทิเสสนิพพานเมื่อวันที่ ๑๗ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ สิริรวมอายุได้ ๖๑ ปี ๑๑ เดือน ๑๑ วัน ๓๕ พรรษา
ข้อมูลจาก: หนังสือพระธุตังคเจดีย์ เจดีย์แห่งพระอรหันต์ วัดอโศการาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ |