ของขวัญที่ต้องมอบให้กับใครบางคน
ทุกคนเกิดมาย่อมต้องมีความหวังด้วยกันทั้งนั้น ไม่มีใครจะอยู่โดยปราศจากความหวัง แต่ทุกครั้งที่เราหวังความผิดหวังก็จะรอเราอยู่ บางครั้งเราอาจพบกับความสมหวังบ้าง พอให้มีกำลังใจที่จะยืนหยัดต่อสู้ และก้าวไปในหนทางข้างหน้า ที่เราเองก็ไม่รู้ว่า มันไปสิ้นสุดอยู่ ณ ที่ใด
แม้จะเหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าสักเพียงไหน แต่ลมหายใจยังมี จำต้องดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดต่อไปอย่างสุดชีวิต แม้จะไม่มีความหวังว่าจะได้ชัยชนะเลยก็ตาม จะมีใครเล่าที่ยอมสยบต่อความตายอย่างดุษณียภาพ แม้พวกสัตว์เดรัจฉาน เขายังมีสัญชาติญาณหนีตาย เมื่อสุดวิสัยหนีไปไม่รอดจริงๆแล้ว ก็จึงจะยอมตายด้วยความขลาดเขลา
อันความตายนี้ ช่างมีอานุภาพยิ่งใหญ่นักหนา ไม่มีใครในโลกที่ยังเป็นๆอยู่ จะไม่กลัวตาย และอาจหาญที่จะต่อสู้กับความตายอย่างไม่สะทกสะท้าน นักรบผู้ยิ่งใหญ่เพียงไหน ก็ไม่มีวันครองชัยชนะไว้ได้ตลอดกาล ความชนะที่ไม่กลับเป็นแพ้ ย่อมไม่มีในโลก แม้พญามัจจุราชก็ยังมีวันแห่งอวสาน ต้องพ่ายแพ้แก่ศิษย์พระตถาคตผู้มากด้วยความเพียร
ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐีมหาศาล หรือพญาขอทานผู้ยากไร้ ล้วนก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน คือเชิงตะกอน ของขวัญอันล้ำค่า ที่พวกเราทุกคนดิ้นรนแสวงหามาตลอดชีวิต ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด ด้วยความรักและหวงแหนอย่างสุดเปรียบประมาณ เพียงเพื่อที่จะเก็บไว้ หรือมอบมันให้กับใครสักคน ที่เราคิดว่าเรารักมากที่สุด ทั้งที่เราเองก็ไม่รู้ว่า คนผู้นั้นคือใคร และจะมีประโยชน์อันใดกับเขาหรือไม่ มันช่างเป็นความโง่เขลาอย่างแท้จริง ในโลกนี้ยังจะมีใครที่เรารักมากยิ่งกว่าตัวเราเอง
ในที่สุดแล้ว การที่คนเราอุตส่าห์พยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างมาตลอดชีวิต ด้วยความขยันขันแข็งและอดทน หรือบางคราวอาจมีขี้เกียจขี้คร้านบ้างเป็นธรรมดา สิ่งเหล่านั้นจะกลายมาเป็นของขวัญที่เราได้เตรียมไว้ เพื่อมอบให้กับตัวเองก่อนวันตาย มีเพียงหนึ่งเดียวที่เราจำเป็นต้องเลือก นั่นคือ การตายอย่างมีคุณค่า หรือการตายอย่างไร้คุณค่า เท่านั้นเอง