ReadyPlanet.com
dot

dot
dot
ชื่อผู้ใช้ :
รหัสผ่าน :
เข้าสู่ระบบอัตโนมัติ :
bullet ลืมรหัสผ่าน
bullet สมัครสมาชิก
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
dot
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
ยังไม่มีสมาชิกที่ล็อกอินในขณะนี้
bulletบุคคลทั่วไป 8 คน
dot
dot

dot


ฟัง F.M. 103.25 MHz.
ชมทีวีช่องหลวงตา
ฟังวิทยุออนไลน์ วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ชมคลิปวีดีโอน่าสนใจ
เข้าชม face book วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน


พระค่อนประเทศมอมเมาประชาชน

 

 

มีคนส่งประกาศข้อความแบบนี้มาให้เรา มีรูป มีชื่ออยู่ในประกาศด้วย แต่เราไม่แน่ใจว่า เป็นผู้ที่มีชื่อ มีรูปอยู่ในประกาศนั้น เป็นผู้ที่ทำขึ้นมาเอง หรือถ้าหากว่ามีใครแอบอ้างเอาชื่อ เอารูปของท่านผู้นั้น มาทำโดยพลการในแบบที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องด้วยเลย
.
แต่เห็นข้อความในประกาศนั้น มีนัยสำคัญควรต้องทำความเข้าใจสักนิด จึงต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ ที่จำเป็นต้องพูดถึงประกาศนี้ เพียงอยากให้ข้อคิดแก่ชาวพุทธไว้บ้างสักเล็กน้อย
.
คำพูดในประกาศนี้ ที่เขาพูดมา มันก็จริงของเขาในระดับหนึ่ง มันเหมือนตบหน้าพระค่อนประเทศทีเดียว ชนิดที่หน้าสะบัดกลับหลังหัน คอแทบหักนั่นแหละ
.
ก็ในประกาศเขาบอกว่า
....................
“พระค่อนประเทศมอมเมาประชาชน
เราอยู่ในยุคถูกพระค่อนชาติเอากิเลสเข้ามอมเรา มอมให้โลภมาก อยากได้ลาภ เงินทองไหลมา เพียงการทำบุญด้วยเงินเล็กน้อย อัดสรรพคุณผลการทำบุญยาวเหยียด มีแต่เรื่องกิเลสทั้งนั้น
.
ท่านกำลังทำบาปมหันต์ให้ตนเอง ทำร้ายพระศาสนา ทำผิดธรรมวินัยข้อ ๑๗ ประจบคฤหัสถ์ พูดในสิ่งที่ผู้ครองเรือนอยากได้ยินได้ฟัง แทนที่จะสอนให้ลดละกิเลส แต่กลับพลิกคำสอนของพระองค์ มุ่งโกยคนเข้าวัด เพื่อแสวงหาลาภและสรรเสริญ พระที่ไร้ความละอาย ทำแต่เรื่องเสื่อม ๆ เขาเรียกว่า อลัชชี
.
เราอัญชลีเฉพาะสงฆ์แท้ หยุดยั้งอลัชชีทำร้ายพระศาสนา เตือน ติง ต้าน พระทำเสื่อม ไม่บาป”
....................

คำพูดของเขามันก็เป็นดาบสองคมนะ ผู้อ่านต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ถ้าเห็นตามเขาเสียทั้งหมด มันก็อาจเกิดมิจฉาทิฏฐิ สำคัญผิดว่า ตัวเองดีกว่าพระสงฆ์องค์เจ้าก็ได้
.
อ้าว! ก็ถ้าตัวเองไม่ได้ดีกว่าพระ ขืนไปตำหนิพระ ไปด่าพระเข้า ก็มีหวังได้ตั๋วฟรีไปนรกเท่านั้นเอง
.
ที่เขาตำหนิพระอย่างนั้น มันก็มีทั้งส่วนถูกและส่วนผิด มันถูกในธรรมขั้นหยาบ แต่ผิดในธรรมขั้นละเอียด เพราะมันก็มีพระที่ทำเช่นนั้นจริงอยู่ ซึ่งขัดต่อพระธรรมวินัย แต่ข้อกล่าวหาที่บอกว่า “พระค่อนประเทศมอมเมาประชาชน มอมให้โลภ มอมให้อยากได้ลาภ ทำบุญนิดเดียว แต่อัดสรรพคุณผลการทำบุญยาวเหยียด มีแต่เรื่องของกิเลสทั้งนั้น” ไม่น่าจะถูกต้องนัก
.
ชื่อว่า “กิเลส” มันก็หมักหมมอยู่ในใจของแต่ละคนมานานแล้ว ไม่มีใครไปเพิ่มหรือลดกิเลสให้แก่คนอื่นได้ ทุกคนมีหน้าที่เพิ่มหรือลดกิเลสให้แก่ตนเองเท่านั้น พระบางรูปอาจจะโฆษณาผลบุญเว่อร์ไปบ้าง แต่ท่านก็แค่โฆษณา ไม่อาจไปบังคับให้ใครควักเงินออกจากกระเป๋าไปให้ท่านได้ เว้นแต่คนเอาไปให้ท่านเอง
.
หลักธรรมคำสอนของศาสนาก็มีอยู่ ทำไมไม่เชื่อ แต่กลับปัญญาเบาไปเชื่อคำสอนนอกลู่นอกทางของพระบางรูปเอง แล้วจะไปโทษใคร ชาวพุทธต้องหมั่นศึกษาพระธรรมวินัยบ้าง ถ้าเห็นว่า พระรูปใดประพฤติผิดพระธรรมวินัยจริง ๆ ก็อาจว่ากล่าวติติงท่านได้ด้วยหวังดี อยากให้ท่านประพฤติกลับตัวเสียใหม่ อย่างนั้นจึงเป็นการดีการชอบ ไม่ใช่ตำหนิแบบหว่านแหไปค่อนประเทศ
.
เว้นไว้แต่พระที่ประพฤติผิดพระธรรมวินัยอย่างร้ายแรง ถึงขั้นปาราชิก นั่นก็ไม่ใช่พระแล้ว แต่ยังครองจีวรเป็นอลัชชีหลอกชาวบ้านอยู่ อย่างนั้น จะด่าจะว่าอย่างไรก็ตามใจเถอะ ไม่บาป แต่ถ้าท่านไม่ได้ประพฤติผิดพระธรรมวินัยถึงขั้นปาราชิก ท่านก็ยังเป็นพระสมบูรณ์ตามสมมติอยู่ ขืนไปด่าท่าน ก็จงระวังนรกจะกินหัว เพราะตัวเองมีศีลต่ำกว่าท่าน
.
ส่วนที่บอกว่าผิดในธรรมขั้นละเอียดนั้น ก็เพราะคำตำหนินั้น ถึงแม้จะดูเป็นธรรม แต่มันไม่ได้ออกจากใจที่เป็นธรรม มันหากเป็นคำพูดของกิเลส ไม่ประกอบด้วยจิตเมตตา อย่างน้อยก็อาจสร้างบาปสร้างกรรมให้มาเผาใจตนเอง ถ้ารู้สึกว่าโกรธเกลียดพระที่ทำไม่ดีขึ้นมา มากกว่านั้น ก็อาจทำให้เกิดการบาดหมางขุ่นข้องเคืองแค้นใจแก่ผู้ที่ได้ยินได้ฟัง
.
การที่บอกว่า “เราอัญชลีเฉพาะสงฆ์แท้ หยุดยั้งอลัชชีทำร้ายพระศาสนา เตือน ติง ต้าน พระที่ทำเสื่อม ไม่บาป”
.
คำพูดนี้คงต้องขยายความสักนิด มิฉะนั้น อาจมีคนเข้าใจผิด เห็นพระทำไม่ดี ไม่เหมาะ ไม่ควร ก็จะพากันไปตำหนิติเตียนพระให้เป็นบาปเผาใจตนเองเปล่า ๆ
.
สงฆ์แท้ คือพระอริยบุคคล ยากที่ใคร ๆ จะรู้ได้ ถ้าไม่ได้เป็นพระอริยบุคคลด้วยตนเอง หรือครูบาอาจารย์ที่ทรงมรรคทรงผลทรงนิพพาน ท่านพูดบอกไว้ หรือคลุกคลีอยู่กับท่านอย่างใกล้ชิดจริง ๆ จนท่านไว้เนื้อเชื่อใจ ก็ยากที่จะรู้
.
เพราะพระแท้ ท่านจะไม่แสดงอะไรให้ใครรู้ได้เลย ว่าท่านเป็นพระอริยบุคคล (เว้นไว้แต่กรณีพิเศษเท่านั้น) ไอ้ที่มาโฆษณาว่าเป็นพระอริยะจนแทบจะเดินชนกันตายอยู่ทุกวันนี้ มันว่ากันเอาเองทั้งนั้น จะมีจริงสักกี่องค์? ใครจะไปรู้? ไปว่าสุ่มสี่สุ่มห้า แบบไม่รู้จริง ถ้าท่านไม่ใช่พระอริยะจริง ไอ้คนว่านั่นแหละ ตายแล้วก็ไปอบายหมด โทษฐานที่ไปกล่าวตู่พระอริยเจ้า จึงไม่ใช่ของเล่นที่จะเอามาพูดอวดกัน
.
การตำหนิพระแบบหว่านแห มันไม่ช่วยให้เกิดความปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบใด ๆ ขึ้นมาได้ เพราะพระที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นอลัชชีมอมเมาประชาชนค่อนประเทศ ก็ไม่มีใครรู้ว่า อยู่ที่วัดอะไร? อำเภออะไร? จังหวัดอะไร? แล้วพระนั้นจะได้อ่านบทความนี้หรือไม่? ครั้นถ้าได้อ่านแล้ว จะทำให้ท่านเกิดความละอายใจขึ้นมา จนสามารถ ลด ละ เลิกประพฤติตัวเป็นพระอลัชชีได้หรือไม่?
.
เห็นมีแต่จะทำให้คนมองพระไปในแง่เสื่อมหนักมากยิ่งขึ้นไปอีก ไม่เห็นว่าจะช่วยทำให้ศาสนาเจริญขึ้นได้อย่างไร? คนที่มองพระในแง่ลบ ไม่รู้จักแยกแยะว่า ศาสนาพุทธคือคำสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์คือผู้ปฏิบัติตามคำสอน อาจมีผู้ปฏิบัติตาม หรือไม่ปฏิบัติตามก็ได้ เพราะศาสนาพุทธไม่มีข้อบังคับให้ใครต้องปฏิบัติตาม ใครศรัทธาก็นำคำสอนไปปฎิบัติ ใครไม่ศรัทธาก็ไม่ต้อง
.
ดังนั้น เมื่อมีคนนับถือศาสนาพุทธ แต่ไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธ จึงไม่ใช่ความผิดของศาสนาพุทธ โปรดทำความเข้าใจเสียให้ถูก
.
คนที่ไม่รู้จักแยกแยะ ก็จะไปตำหนิว่าศาสนาพุทธไม่ดี ว่าพระไม่ดี เลยเลิกกราบพระ เลิกนับถือศาสนาพุทธไปเลยก็มี นั่นเท่ากับ ยิ่งสร้างบาปสร้างกรรมมาเผาใจตัวเองให้หนักเข้าไปอีก ตัดหนทางพ้นทุกข์ไปในทันที
.
สมัยนี้ มีฆราวาสที่เรียนรู้พระธรรมวินัย แล้วสำแดงความฉลาดออกมาแบบว่า ข้าเก่งกว่าพระนี่! มีอยู่เยอะแยะเลยนะ ไม่รู้ว่า น่าปลื้มใจ หรือว่า น่าเศร้าใจ ไอ้ที่เก่งจริง ๆ ก็น่ายกย่องอยู่หรอกนะ แต่ผู้เช่นนั้น ส่วนใหญ่เขาหนีไปบวชกันเกือบหมดล่ะ
.
จะมีปัญหาอยู่ก็แต่กับไอ้พวกเก่ง ๆ ที่ยังเป็นห่วงกางเกง ห่วงกระโปรง อยู่นี่แหละ เลยจะไปไหนก็ไปไม่ได้ จะเป็นพระเป็นชี ก็ไม่ยอมเป็น จะเป็นคนธรรมดา ๆ ก็ดูไม่สมฐานะ ก็เลยเป็นมันแบบครึ่งคนครึ่งพระครึ่งชี นี่แหละ เจอไอ้ประเภทลูกครึ่งนี่! พระเองยังต้องหลบเลย
.
ฆราวาสที่เขาปฏิบัติดีจริง ๆ ก็มีนะ แต่พวกนี้เขารู้จักสัมมาคารวะ ดีแค่ไหนเขาก็ไม่อวดรู้อวดฉลาด เห็นพระที่ประพฤติไม่ดี เขาก็เคารพนะ เพราะถ้าท่านไม่เป็นปาราชิก ท่านก็ยังเป็นพระ เคารพท่าน มันจะเสียหายตรงไหน อย่างน้อยก็เคารพผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยของพระอรหันต์ ก็ยังดีกว่าการไปดูถูกเหยียดหยามให้บาปมันเผาใจตนเอง
.
สมัยหนึ่ง พระโพธิสัตว์เสวยพระชาติเป็นพระยาช้าง มีนายพรานเอาผ้าจีวรมาห่ม แล้วแอบฆ่าช้างบริวารตายไปเยอะแยะ พระโพธิสัตว์จับได้ จะฆ่านายพรานนั้นเสีย พอเห็นผ้ากาสาวพัสตร์ที่นายพรานคลุมตัวอยู่ ก็ยังใจอ่อนให้อภัย ละเว้นโทษตายให้ แล้วบอกนายพรานว่า คนอย่างท่านไม่คู่ควรที่จะห่มผ้านี้ ท่านจงไปเสียเถิด แล้วอย่ากลับมาที่นี่อีก ครั้งนี้ท่านรอดตายเพราะผ้าผืนนี้
.
คนที่ยังมีห่วงที่ปลดเปลื้องไม่ได้ ก็ปฏิบัติธรรมไปในเพศฆราวาสก็ย่อมได้ ฆราวาสเป็นพระอริยบุคคลก็มีเยอะแยะไปในครั้งพุทธกาล ไม่จำเป็นต้องไปบวชเป็นพระเณรเถรชี ก็บรรลุธรรมได้ ดังเช่น อนาถบิณฑิกเศรษฐี หรือนางวิสาขามหาอุบาสิกา และอีกหลาย ๆ ท่าน ก็เป็นพระโสดาบัน พระสกทาคามี พระอนาคามี หรือแม้พระพาหิยะ ก็เป็นพระอรหันต์ทั้งที่เป็นฆราวาส แถมได้เอตทัคคะทางด้านตรัสรู้เร็วอีกต่างหาก
.
ดังนั้น ฆราวาสก็บรรลุธรรมได้ แต่ต้องเจียมเนื้อเจียมตัว อย่าอยากจะเอาแต่ผลให้ได้อย่างท่าน แต่ไม่ได้ดูเหตุของแต่ละท่านว่า ท่านทำกันมาอย่างไร? จึงบรรลุผลเช่นนั้น แล้วตัวเองทำเหตุของตัวเองได้เท่าเศษเสี้ยวของท่านเหล่านั้นหรือไม่? จึงจะให้ได้ผลอย่างท่าน
.
พระธรรมวินัยเป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ไม่ใช่แค่อ่านตำราแล้วจะเข้าใจ ต้องลงมือปฏิบัติดูด้วย ถ้าได้ปฏิบัติด้วยตนเอง ก็จะเข้าใจ และเห็นขบวนการเกิดขึ้นของพระธรรมวินัย ที่จะพึงปรากฏจากภาคปฏิบัติของตัวเอง ภายในใจตนเอง นั่นแหละ จึงเป็นสมบัติของตัวเองอย่างแท้จริง
.
พระธรรมวินัยในตำราก็ยกไว้ นั่นเป็นสมบัติของพระพุทธเจ้า เป็นของเลอเลิศประเสริฐสุด ใครทำได้ตามนั้น ก็ต้องเป็นผู้ที่ทรงไว้ซึ่งอริยมรรค อริยผล ขั้นใดขั้นหนึ่งอย่างแน่นอน
.
บรรดาพระสงฆ์ทั้งหลายที่ท่านมุ่งออกบวช ก็ด้วยวัตถุประสงค์ต่าง ๆ กัน ตามภูมิแห่งวาสนาบารมี ของแต่ละท่าน จะให้พระทุกองค์ปฏิบัติดีเลิศตามพระธรรมวินัย เป๊ะ ๆ เลย เป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ เพราะพระทุกท่านต่างมีกิเลส และมาจากพื้นเพที่แตกต่างกัน ใช่ว่า ห่มผ้าเหลืองแล้ว ก็จะกลายเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมวินัยในทันที ไม่ใช่อย่างนั้น
.
กิเลสมันไม่ได้กลัวผ้าเหลือง มันต้องอาศัยความอดทน ความทุ่มเท ความฝึก ความฝืน ความต่อสู้กับกิเลสไปตลอดชีวิต บางครั้งก็สู้ได้ บางครั้งก็สู้ไม่ได้ ก็จำต้องกล้ำกลืนฝืนทนต่อสู้กันไป อดบ้างอิ่มบ้าง ก็อุตส่าห์พยายามประกอบความพากความเพียรต่อสู้กับกิเลส จนเลือดตาแทบกระเด็น จะทุกข์ยากลำบากแค่ไหนก็อดทนบึกบึนต่อสู้ไม่หยุดไม่ถอย
.
กว่าจะมีชื่อเสียง มาเป็นครู เป็นอาจารย์ เป็นที่เคารพนับถือของพวกท่านทั้งหลาย ก็ล้วนต้องผ่านการเป็นนักรบเดนตายมาด้วยกันทุกองค์ บางองค์ทนทุกข์ทรมานสู้กิเลสไม่ได้ ก็ตายเสียในระหว่างทาง ละสิกขาลาเพศไปเสีย ก็มีจำนวนไม่ใช่น้อย
.
สำหรับผู้มุ่งมั่นต่อแดนพ้นทุกข์ ท่านก็ไม่กล้าก้าวล่วงพระธรรมวินัยแม้แต่เพียงเส้นผมเดียว แต่ผู้ที่บวชอาศัยผ้าเหลืองเป็นอยู่ ที่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย มันก็หากมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้าท่านไม่ได้ถึงกับล่วงปาราชิก ถึงศีลจะขาดบ้าง ทะลุบ้าง ด่างพร้อยบ้าง ท่านก็ยังเป็นพระสมบูรณ์แบบอยู่ตามพระธรรมวินัย ท่านมีโอกาสปลงอาบัติเพื่อกลับตัวได้อยู่ อย่าเพิ่งไปตัดสินประหารชีวิตท่านเสียเองเลย
.
มันไม่เหมือนการอ่านตำราหรอกนะ ใคร ๆ ก็อ่านได้ รู้ได้ แต่ลองมาปฏิบัติให้ได้ตามตำราดูสิ!! ก็จะรู้และเข้าใจได้เองว่า มันยากแสนยาก
.
ทุกวันนี้ กำลังเกิดวิกฤติทายาทศาสนา ถ้าไม่รู้ก็จงรู้ไว้เสีย จะหาผู้บวชที่มุ่งปฏิบัติตนเพื่อพ้นทุกข์ ก็หายากเต็มทน นับวันจะมีแต่มาบวชตามประเพณี บวชฉลองโน่นนี่นั่น บวชอย่างฉาบฉวยไปอย่างนั้นเอง มีไหม? ที่มุ่งบวชด้วยอยากเป็นพระปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ สืบทอดพระพุทธศาสนา ทรงมรรค ทรงผล ทรงนิพพานอย่างแท้จริง
.
ลองหาพระเช่นนั้นในตัวเองดูก็ได้ เคยคิดที่จะมาบวชปฏิบัติเพื่อพ้นทุกข์บ้างไหม? อย่าเก่งแต่ไปจดจำความรู้ในตำรา แล้วมาเพ่งโทษติเตียนพระสงฆ์องค์เจ้าว่า ไม่ดีอย่างนั้น ไม่ดีอย่างโน้น ตัวมันที่กำลังตำหนิเขานั่นแหละ เห้..แสนเห้.. ก็ยังไม่รู้ตัวเอง
.
ธรรมท่านสอนให้ติเตียนตนเอง ไม่ให้ไปเพ่งโทษผู้อื่น คนอื่นจะดีจะชั่ว มันก็เรื่องของเขา ให้ดูตัวเองว่า ดีหรือชั่ว นี่ต่างหาก จึงเป็นเรื่องของเรา ใครทำดีเขาก็ได้ดีเอง ใครทำชั่วเขาก็ได้ชั่วเอง ต่างคนต่างทำไป ไม่ไปหนักหัวกบาลใคร จึงไม่จำเป็นต้องไปว่าใคร
.
ถ้าทำตัวเองดีแล้ว หากจะบอกจะสอนใคร ก็ย่อมรู้ประมาณในตัวเอง ว่าจะบอกสอนเขาได้แค่ไหน? อย่างไร? จึงจะสำเร็จประโยชน์ ไม่ใช่ด่ากราดหว่านแหไปทั่วบ้านทั่วเมือง
.
ดังนั้น ไม่ต้องไปว่ากัน ถ้าหากจะว่า ก็ต้องแน่ใจว่าจะเกิดประโยชน์ และเขายินดีรับฟัง ถ้าเขาฟังแล้วก็จะเกิดปัญญาเห็นคุณเห็นโทษ ละชั่วทำดียิ่ง ๆ ขึ้นไปได้ ถ้าเช่นนั้น ก็ว่าไปเถอะ ยิ่งว่าก็ยิ่งดี ไม่ใช่ตำหนิท่าน ว่าท่าน เพียงเพื่อจะอวดภูมิความรู้ของตัวเองให้คนอื่นเขาชื่นชม ทั้งที่ไม่มีความปฏิบัติดีอันใด จะดีไปกว่าท่าน
.
ฆราวาสยังเสพกามอยู่ทุกวัน อย่าหาญกล้าไปตำหนิพระสงฆ์สุ่มสี่สุ่มห้าเลย ความดีความชั่ว มันอยู่ที่ใจ ถ้าไม่มีญาณหยั่งรู้จริง ก็ยากที่จะมองเห็น
.
เพราะเหตุนั้น พระพุทธองค์จึงทรงบัญญัติพระวินัย มีทั้งอาบัติหนัก อาบัติเบา เพื่อให้พระได้มีโอกาสแก้ไขตนเอง ไม่ใช่บัญญัติพระวินัยไว้เพื่อฆ่าพระ เว้นไว้แต่ พระที่ต้องอาบัติปาราชิก 4 ข้อ ก็ไม่ถือว่า เป็นพระแล้ว จะตำหนิผู้เช่นนั้นก็ไม่เป็นไร
.
แต่ถ้าท่านต้องอาบัติอื่น ๆ ที่ยังพอแก้ไขให้พ้นจากอาบัติได้ ท่านยังเป็นพระสมบูรณ์อยู่ ท่านผิดพลาดบ้าง ก็อย่าไปตำหนิท่านเลย บางท่านก็อยู่ในประโยคพยายามที่จะแก้ไขตัวเองอยู่
.
การเอาความรู้ในตำราไปไล่ตีพระ หาจับผิดพระ คงไม่เป็นผลดีกับตัวเองแน่นอน ถ้าไปเจอเอาพระที่ท่านปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ความดีอยู่ที่ใจของท่าน ไม่ได้อยู่ที่กิริยาทางกาย วาจา ซึ่งเป็นเรื่องของนิสัยวาสนา บางทีเห็นท่านแสดงกิริยาไม่ดีไม่งามเหมือนในตำรา ก็จะไปเพ่งโทษตำหนิท่านได้
.
พระธรรมวินัยเรียนรู้เพื่อเอามาสอนตัวเอง ปฏิบัติต่อตัวเอง นั่นแหละ ดีที่สุด เจอพระไม่ดีก็ปล่อยวางเสีย อย่าปล่อยให้ใจตัวเองเป็นมิจฉาทิฏฐิ เพราะการไปตำหนิ ผู้มีศีลสูงกว่า ไม่ใช่ฐานะที่ฆราวาสจะพึงกระทำ หากจะตำหนิพระรูปใด ก็ว่าไปเฉพาะราย ท่านทำผิดแบบไหนอย่างไร? อย่าหว่านแหด่ากราดพระไปค่อนประเทศ ทำให้คนหลงเข้าใจพระไปแบบผิด ๆ เป็นเหตุสร้างบาปใส่ตัวโดยไม่จำเป็น
.
พระองค์ไหนทำผิดพระวินัย ก็เป็นกรรมหนักของท่านอยู่แล้ว ไม่ต้องไปซ้ำเติมท่านก็ได้ เดี๋ยวท่านก็มีอันเป็นไปเองตามกรรมของท่าน และศาสนาพุทธ ก็เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่เป็นจริงอยู่อย่างไร ก็ยังคงเป็นจริงอยู่อย่างนั้น หาได้แปรเปลี่ยนไปตามความประพฤติชั่วของพระรูปใดรูปหนึ่งไม่
.
ศาสนาพุทธเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ย่อมเป็นจริงอยู่ตลอดกาล ไม่มีวันเสื่อมสลายไปจากโลกนี้ ที่พูดว่า ศาสนาเสื่อม คือศาสนาเสื่อมไปจากใจของคนต่างหาก ใจของคนต่ำทราม จนไม่อาจรองรับคำสอนของศาสนาพุทธไว้ได้ ศาสนาพุทธก็เสื่อมจากใจของผู้เช่นนั้น
.
“แต่ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ในมรรคทั้ง ๘ อยู่ ศาสนาก็ยังจะเจริญอยู่ในใจของผู้นั้นอยู่ตลอดไปตราบชั่วนิรันดร์กาล พระอรหันต์จะไม่พึงว่างจากโลก ด้วยประการฉะนี้แล"




สายธารธรรม โดย...เจ้าอาวาส

* ข้อวัตรปฏิปทาในพ่อแม่ครูอาจารย์
* บริขารพระป่าในปฏิปทาพ่อแม่ครูอาจารย์
* สุดรัก...สุดอาลัย... พ่อแม่ครูอาจารย์
* ประกาศวัดป่าบ้านตาด เรื่อง หนังสือภูริทัตตะ อัครเถราจารย์
* พระประวัติย่อ สมเด็จพระญาณสังวร ฯ
* ชมวีดีโอชิวิตที่วัดป่าบ้านตาด
* 100 ปี ชาตกาลองค์หลวงตา
* ชมวีดีโองานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
* ประวัติหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (ย่อ)
* ทำเนียบพระสังฆาธิการจังหวัดเชียงใหม่
* คำพระอุปัชฌาย์สอนนาค
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 30 พ.ค. 2546 ณ.วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
* สวดปาติโมกข์เมื่อ 1 มิ.ย. 2554 ณ.วัดพทธธัมมธโร สหรัฐอเมริกา
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่หอพระ ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 29 มิถุนายน 2555
* เทศน์อบรมนักศึกษา ที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มช. 9 ส.ค. 2556
* เทศน์ที่เวที คปท. ๑๖ ก.พ. ๒๕๕๗
* เทศน์ที่วัชรธรรมสถาน ๒๕ เม.ย.๒๕๕๗
* เทศน์งานหลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.2561
* เทศน์งานหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต 8 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 12 มี.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่ท่อน ญาณธโร 11 ส.ค.2561
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 11 ก.พ.2562
* เทศน์งานวัดอโศการาม 17 มี.ค. 2562
* เทศน์งานหลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป 15 พ.ย. 2562
* เทศน์งานวัดเจริญสมณกิจ 16 ธ.ค. 2562
* เทศน์งานวัดป่าภูผาสูง 8 ม.ค. 2563
* เทศน์งานบำเพ็ญกุศลศพ พระปลัดอนุพุทธ 12 ม.ค. 2563
* เทศน์งานประชุมเพลิง พระปลัดอนุพุทธ 13 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดเจดีย์หลวง 20 ม.ค. 2563
* เทศน์งานวัดป่าสุขใจ ชะอม 23 ส.ค. 2563
* เทศน์งานผูกพัทธสีมา วัดป่ากิ่วดู่ 27 ก.พ. 2564
* เทศน์อบรมที่ วัดสำปะซิว 26 ธ.ค. 2564
* เทศน์งานหลวงปู่ไม อินทสิริ วัดป่าเขาภูหลวง 27 ม.ค. 2566
* เทศน์ที่วัดป่าบ้านตาด 29 มกราคม 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ วันที่ 5 ก.พ. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 26 ก.พ.2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 24-26 มี.ค. 2566
* เทศน์คอร์สอบรมปฏิบัติภาวนา ณ.วัชรธรรมสถานวันที่ 26-28 พ.ค 2566
* เทศน์อบรมมูลนิธิบ้านอารีย์ สายธรรมวันสว่าง วันที่ 18 มิ.ย. 2566
* เทศน์สวนแสงธรรม 29 มิ.ย. 2566
* พระธรรมเทศนา ณ.วัดเกาะทอง ในพิธีอุปสมบทประจำปี ๒๕๖๖ ณ.วันที่ ๒ ก.ค. ๖๖
* เทศน์วัดป่าศรัทธาถวาย เนื่องในงานแสดงมุฑิตาสักการะฯ วันที่ 6 สิงหาคม 2566
* เทศน์วัดเกาะทอง วันที่ 8 กันยายน 2566
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 26 พฤศจิกายน 2566
* เทศน์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ตำหนักบางขุนพรหม 24 ตุลาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรม ณ.ชมรมพระพทธศานาเอไอเอสำนักงานใหญ่ชั้น 8 วันที่ 6 ธันวาคม 2566
* เทศน์แสดงธรรมเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2566 ณ.วัดเกาะทอง
* แสดงธรรมในงานครบรอบ 21 ปีวันละสังขาร หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล 5 ก.พ.67
* เทศนาธรรมที่มูลนิธิบ้านอารีย์วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567
* เทศนาธรรมที่ชมรมพุทธธรรมกรรมฐาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต 24 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 29-31 มีนาคม 2567
* พระธรรมเทศนาอบรมจิตภาวนาวัดเกาะทอง วันที่ 5 เมษายน 2567
* เทศน์วัดอโศการาม ณ.ศาลาหลวงพ่อทรงธรรม วันที่ 14 เมษายน 2567
* เทศน์ภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 25 เมษายน 2567 เนื่องในวาระครบรอบปีที่ 63 ท่านพ่อลี ละสังขาร
* เทศนาธรรมคอร์สปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ ในหลวง ร.10 ภาวนาสัญจร 4-6 พ.ค. 2567 ณ บ้านนางฟ้า เขาใหญ่
* เทศนาธรรมที่ธนาคารแห่งประเทศไทย 20 มิ.ย.67
* เทศน์อบรมปฏิบัติภาวนาที่พิพิธภัณฑ์จรรโลงพระพุทธศาสนา 5 ก.ค.2567
* พระธรรมเทศนาคอร์สอบรมปฏิบัติธรรม ณ.วัชรธรรมสถาน 12-14 กรกฎาคม 2567
* พระธรรมเทศนาเฉลิมพระเกียรติในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ
* แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดเกาะทอง ถวายเป็นพระราชกุศลฯ ในหลวงรัชกาลที่ 10 เมื่อ 28 ก.ค.67
* เทศน์แสดงธรรมภาคปฏิบัติ ณ.วัดอโศการาม วันที่ 10 พฤศจิกายน 2567
อาสาฬหบูชารำลึก ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๗
มาฆบูชารำลึก ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
วิสาขบูชารำลึก ๓ มิถุนายน ๒๕๖๖
แม่นี้มีคุณอันใหญ่หลวง
วันเข้าพรรษา
ชมภาพบรรยากาศพิธีอุปสมบท ณ.พัทธสีมา วัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
ตำแหน่งที่ควรค่าต้องได้มาเพราะคู่ควร
สุขใดเสมอสงบไม่มี
สื่อโซเชียลคุณอนันต์โทษมหันต์
ชีวิตติดPresentTense
ความสวยความงาม
บุพเพอาละวาด
ศีลคือรากแก้วของศาสนา
ได้ยินสักแต่ว่า ได้ยิน
พึงชนะคนไม่ดีด้วยความดี
จะหงุดหงิดใจกับคนโกงเพื่อ?
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP2
ทำใจให้มันเป็นสุข-EP1
ธรรม!!!เตือนสติสังคมไทย
การใช้ชีวิตแบบพอเพียง เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ดูท่าแล้วเก็บทรงไม่อยู่
มาเจริญศาสนาในใจกันดีกว่า
เรื่องของหัวหน้ากับลูกน้อง
โลกที่แท้จริงมีอยู่ในใจ
อย่าประมาทในชีวิตอันน้อยนิด
ทางสองแพร่ง
ทุกข์อันเกิดจากมิจฉาอาชีวะ
นักรบศิษย์พระตถาคต
สิกขาบทที่ ๒ ว่าด้วยเรื่องการลักทรัพย์
อเสวนา จ พาลานํ
พัฒนาสิ่งใหญ่ๆเริ่มได้จากพัฒนาตัวเอง
หากจะเปรียบธรรมะคือสินค้าพรีเมียมเกรดระดับโลก
ทำอย่างไรให้งามชาตินี้ ยันชาติหน้า ต่อไปชาติโน้น
เป็นห่วงชาติ
ถ้าโลกนี้มีแต่คนดี
คู่มือส่องพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
กฎธรรมชาติ
ไม่มีใครอยู่เหนือกรรม



แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล