อุบายแก้ความโกรธ
ถ้ามีคนไม่ดีมาด่าเรา หากเราคิดว่า การพูดจาหยาบคายด่าคน เป็นของไม่ดี และเราก็ไม่ชอบใจให้ใครมาด่าเรา เราก็ไม่ควรไปพูดจาหยาบคายด่าคนอื่น มิฉะนั้น เราก็จะพลอยเป็นคนไม่ดีเหมือนเขาไปด้วย
.
อย่างที่มีใครชอบพูดกันว่า ถ้ามีหมาเห่า ก็อย่าไปเห่าตอบ เดี๋ยวจะมีหมาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตัว มันก็จริงอย่างนั้น แต่ทุกครั้งที่มีหมาเห่า ก็จะมีหมาอีกหลาย ๆ ตัวมาช่วยกันเห่า อันนี้สิ! จริงยิ่งกว่าจริง หมาบางตัวก็ทำตัวเป็นแขกไม่ได้รับเชิญ เห็นเขาเห่า ก็เห่าบ้าง เห่ารับกันเป็นทอด ๆ เลยทีเดียว
.
บางทีเราอาจรู้สึกโกรธที่มีคนมาด่าเรา หรือมาทำอะไรให้เราไม่พอใจ ก็ไม่ต้องไปโกรธเขาหรอก แต่ถ้ามันเกิดโกรธไปแล้ว ก็จงใช้โอกาสนั้น ฝึกตนให้เป็นคนมีสติ ใช้สติข่มกลั้นความโกรธนั้นเสีย ฝึกตนให้มีปัญญา ใช้ปัญญาบดขยี้ทำลายความโกรธนั้นไปให้ได้
.
หมั่นฝึกฝนอบรมตนไว้เช่นนี้ทุกครั้งที่มีความโกรธเกิดขึ้น ก็เอาความโกรธนั่นแหละ เป็นหินลับสติ เป็นหินลับปัญญาให้คมกล้า อย่าให้ใจตกเป็นทาสของความโกรธ เดี๋ยวใจจะแปลงร่างเป็นหมาไปเห่าใส่กัน แล้วกัดกันจนเลือดสาด
.
เพราะถ้าโกรธเขา ความโกรธก็จะเผาใจเราเองก่อน ทำให้เรากลายเป็นคนขี้โมโห หงุดหงิดงุ่นง่าน อารมณ์ร้อนเอาแต่ใจตัวเอง หนักเข้าก็จะลุกลามออกไปทางกาย ทางวาจา พาให้ไปทำร้ายคนอื่น
.
ชื่อว่า ความโกรธเห็นมีแต่สร้างความหายนะใส่ตัวโดยถ่ายเดียว หาคุณความดีอันใดมิได้แม้แต่นิดเดียว พยายามสอนใจให้เห็นโทษของความโกรธ ฝึกหัดใช้สติปัญญาสอนจิตบ่อย ๆ ฝึกจิตให้รู้จักอดทนข่มกลั้น ฝึกจิตให้ทำลายความโกรธ ฝึกบ่อย ๆ ฝึกทุกครั้งที่มันโกรธ เดี๋ยวมันก็เบื่อที่จะโกรธไปเอง
.
ถ้าฝึกทำลายความโกรธได้ ความโลภมันก็จะถูกทำลายไปด้วยกัน เพราะความโลภกับความโกรธ มันเป็นเพื่อนซี้กัน แต่มันจะผลัดกันแสดงตัว
.
ถ้าความโลภออกหน้า ความโกรธจะเป็นเงาซุกอยู่ข้างหลัง เวลาความโกรธออกหน้า ความโลภก็จะเป็นเงาซุกอยู่ข้างหลัง ส่วนความหลงก็เป็นตัวบงการอยู่หลังฉาก ปั่นให้โลภ ปั่นให้โกรธ สลับกันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ จนกว่าจะฆ่ามันตายเกลี้ยงหมดทั้งโคตร มันก็จึงจะยอมยุติบทบาท
.
การให้อภัยกับคนที่ทำไม่ดีกับเราได้ จึงชื่อว่า เป็นคนใจกว้าง ใจใหญ่ ใจเสียสละ ใจมีเมตตา ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น แต่ต้องรู้ประมาณความพอดี ทางใจอาจให้อภัยได้ในทุกกรณี แต่ทางกาย ทางวาจา ก็ต้องมีการกำหนดโทษ คาดโทษ ตักเตือน ตามสมควรแก่ความผิด เพื่อป้องกันไม่ให้มากระทำผิดซ้ำซาก
.
หากเราปล่อยใจให้โกรธบ่อย ๆ ใจก็เป็นทุกข์อยู่ร่ำไป จะสละความโกรธออกไปเสียได้ ก็ต้องด้วยการให้อภัยเท่านั้น อภัยทานจึงเป็นทานที่ยิ่งใหญ่ เพราะสามารถทานกิเลสให้ออกไปจากใจได้นี่เอง ผู้ที่จะให้อภัยทานได้ ผู้นั้นจึงต้องมีสติปัญญาที่แหลมคมไม่ใช่น้อย
.
เราจะดีจะชั่วก็อยู่ที่เราทำตัวเราเอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการด่าว่าของใคร ดังนั้น ใครด่าเราจึงไม่จำเป็นต้องไปโกรธเขา ทำเฉย ๆ เสีย เป็นการฝึกใจให้หนักแน่นมั่นคงยิ่งขึ้น
.
ถ้าหากเราผิดจริง เขาด่าเรา มันก็ดีแล้ว เราจะได้รู้ตัว และแก้ไขตัวเราให้ดีขึ้นได้ ต้องขอบคุณเขาด้วยซ้ำไป ที่เขามาช่วยชี้แนะให้เราเห็นโทษความผิดของตัวเอง ไม่ใช่ไปโกรธเขา
.
ถ้าหากเราไม่ได้ผิด แล้วเขามาด่าเราด้วยเรื่องไม่จริง เราก็ชี้แจงความจริงไปตามสมควรแก่เหตุ ก็ถือเสียว่า เป็นกรรมเก่าที่เราเคยไปด่าเขาไว้ตามมาทวงคืน ก็ใช้หนี้ไปเสีย ก็แค่ลมปากมากระทบหูแล้วก็ดับไป เราจะไปโกรธเสียงลมทำไม เขาด่าเรา มันก็ออกมาจากกิเลสในใจของเขา ถ้าจะโกรธ ก็ต้องโกรธกิเลสในใจของเขา ซึ่งไม่มีประโยชน์ กิเลสในใจเราก็มี สู้โกรธกิเลสในใจของเราเองดีกว่า เพราะโกรธแล้วเราสามารถฆ่ามันได้ด้วย แต่เราไปโกรธกิเลสคนอื่น เราไปฆ่ากิเลสคนอื่นไม่ได้
.
เพราะเราเองก็ไม่ใช่ว่าจะทำดีทำถูกได้ตลอดไป บางครั้งเราก็อาจทำผิดได้ ดังนั้น เมื่อเห็นคนอื่นทำผิด ก็ไม่ควรไปดูถูกเหยียดหยามประณามเขา วันหนึ่งเขาก็อาจกลับตัวกลับใจทำดีทำถูกได้ เช่นเดียวกัน
.
ไม่มีใครจะทำดีได้ตลอดไป และไม่มีใครจะทำชั่วได้ตลอดไป ทุกคนต้องทำดีบ้าง ทำชั่วบ้างคละเคล้ากันไปอย่างนี้ ตราบเท่าที่ยังมีกิเลสอยู่ในใจ
.
จึงไม่ควรที่จะโกรธกันแบบเอาเป็นเอาตายอย่างฝังจิตฝังใจ ชนิดที่ไม่ยอมเผาผีกัน จนถึงขั้นทำร้ายกัน ฆ่าฟันกันในที่สุด มันจะก่อให้เกิดการผูกอาฆาตพยาบาทจองล้างจองผลาญจองเวรกันไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดไม่รู้อีกกี่ภพกี่ชาติ ทั้งเป็นเหตุที่จะให้ไปสู่อบาย ตัดหนทางที่จะได้สำเร็จมรรค ผล นิพพานไปอย่างสิ้นเชิง
.
อย่าลืมว่า สัตว์โลกต้องเป็นไปตามกรรม พระบรมศาสดาสอนไว้ ใครทำดีก็ได้รับผลดีเอง ใครทำชั่วก็ได้รับผลชั่วเอง ถึงไม่ฆ่ากัน ก็ต้องตายกันเองอยู่แล้ว ตายกันหมดทั้งโลก แต่ที่มันต้องฆ่ากัน ก็เป็นเพราะกรรมเก่าเคยฆ่ากันมานั่นเอง บวกกับกรรมใหม่ที่ลุอำนาจแก่ความโกรธด้วย
.
ดังนั้น ผู้มีปัญญาจึงควรเลือกทำแต่ความดี ละเว้นความชั่วเสีย เพื่อตัวเองจะได้รับแต่ผลดีในวันข้างหน้า ส่วนผู้โง่เขลาเบาปัญญา ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่ความชั่วสั่งสมไป เพื่อให้ตัวเองได้รับผลชั่วในวันข้างหน้าเช่นเดียวกัน