
เรื่องราวของคนใกล้ตาย เรื่องราวของคนใกล้ตาย มีหลายคนที่ชอบจะยิงคำถามประหลาดๆเวลาเจอหน้ากัน เขาจะเห็นว่าเรายังหนุ่มอยู่ หรือจะว่าแก่เกินไปหรือยังไงก็ไม่ทราบ คำถามสุดฮิต เป็นต้นว่า ท่านบวชมานานหรือยังครับ? ขอโทษนะครับ แล้วท่านคิดยังไงถึงได้มาบวช? แล้วท่านคิดจะสึกไหมครับ? เราก็รู้สึกชินชาและน่ารำคาญกับคำถามประเภทนี้ซะจริงๆ ครั้นจะตอบแบบธรรมดาๆ ร่ายยาวโดยชักแม่น้ำทั้งห้ามาประกอบ ก็ดูมันจะเสียเวลามากไป เราก็เลยแกล้งยียวนกวนประสาทคนถามมั่ง อ้อ! เราขอถามคุณบ้าง คุณเป็นฆราวาสมานานกี่ปีแล้ว? คุณเคยบวชหรือยัง? คุณคิดยังไงคุณถึงไม่บวช? แล้วคุณไม่คิดเบื่อหน่ายฆราวาสบ้างรึ? เจอสวนกลับไปแบบนี้ เขาชักงงๆ เอ! ท่านครับ ไม่เคยมีใครถามผมแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ ผมอายุ 35 แล้วครับ ผมคิดว่าจะบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่สักครั้ง แต่คงบวชได้ไม่กี่วันเพราะติดภาระหน้าที่การงาน ผมเป็นฆราวาสก็สบายดีนี่ครับ มีเงินมีทอง มีฐานะพอมีอันจะกิน ไม่เดือดร้อนอะไร ทำไมผมต้องเบื่อหน่ายฆราวาสล่ะครับ อ้อ! แสดงว่าคุณไม่เคยเจอกับเรื่องทุกข์ร้อนใจในฆราวาสเลยยังงั้นรึ? ใช่ครับ ผมมีตำแหน่งหน้าที่การงาน มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีเงิน อยากได้อะไรก็ไปซื้อหามาได้ทั้งนั้น ไม่มีอะไรเดือดร้อน ทำไมผมต้องเบื่อหน่ายฆราวาสด้วยล่ะครับ อ้อ! แสดงว่าคุณเป็นคนที่โชคดีมากๆเลยนะ เกิดมาแล้วไม่ค่อยได้เผชิญกับเรื่องเดือดร้อนทุกข์ใจอะไร คุณแน่ใจหรือว่า คุณจะโชคดีอย่างนี้ได้ตลอดไป เพราะวันหนึ่งคนอาจโชคไม่ดีบ้างก็ได้ คุณคงเคยเห็นคนที่เข้าทุกข์ยากลำบากอยู่บ้างหรอกนะ อันนั้นก็เป็นเรื่องอนาคตครับ แต่ปัจจุบันผมคิดว่า ผมพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ ผมก็พอใจแล้วครับ ผมคิดอย่างนี้ ถูกหรือเปล่าครับท่าน? ถูกสิ! ทำไมจะไม่ถูก ทำปัจจุบันให้ดีที่สุดอย่างที่คุณว่านั้นแหละ เป็นแต่บางครั้ง คนเรามันก็อาจจะสับสนได้ ไม่เข้าใจว่าอะไรเป็นความดี และดีที่สุด คนที่มันไปปล้นธนาคาร มันก็ว่า มันวางแผนทำดีที่สุดแล้วนะ แต่มันก็ติดคุกได้ การติดคุกคงไม่ทำให้ใครมีความสุข ใช่ครับ เพราะการปล้นธนาคาร วางแผนดีอย่างไร มันก็ผิดกฎหมาย ก็มีโอกาสติดคุกได้เป็นธรรมดา แต่ผมไม่เคยคิดที่จะทำอะไรผิดกฎหมายนี่ครับ อืม! เราก็จนแต้มจริงๆนะ เพราะถ้าคุณไม่เคยทุกข์เลย เราก็สอนธรรมะคุณไม่ได้หรอก เอาไว้ถ้าคุณรู้สึกว่า คุณมีทุกข์เมื่อไรค่อยมาหาเราก็แล้วกันนะ ทำไมล่ะครับ คนจะศึกษาธรรมะ ต้องมีทุกข์ก่อนอย่างนั้นหรือครับ? ถ้าไม่มีทุกข์ศึกษาไม่ได้อย่างนั้นหรือครับ? ชายหนุ่มทำท่าเหมือนจะไม่พอใจ มันก็อาจจะศึกษาได้นะคุณ แต่มันคงมองไม่เห็นธรรมะใดๆ เพราะธรรมะของพระพุทธเจ้า ท่านชี้ลงที่ทุกข์ทั้งนั้น ในโลกนี้ มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่เกิดขึ้น มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ตั้งอยู่ มีแต่ทุกข์เท่านั้นที่ดับไป นอกจากทุกข์แล้ว ก็ไม่มีอะไรเกิดดับ คุณอาจไม่เคยได้ยิน พอเราฟังว่า คุณไม่เคยเจอทุกข์มาก่อนเลย เราจึงจนแต้ม ไม่รู้จะสอนคุณได้อย่างไร จึงบอกว่า เมื่อไรคุณเจอทุกข์ คุณรู้สึกว่าโลกนี้มันมีแต่ทุกข์ คุณค่อยมาถามเราใหม่ จะได้ไม่เสียเวลาอธิบายเปล่าๆ โธ่! ท่านอาจารย์ ไหนๆผมก็อุตส่าห์มาแล้ว ช่วยอธิบายสักนิดเถอะครับ ที่ท่านพูดว่า มีแต่ทุกข์เกิดดับมันเป็นยังไง ให้ผมพอเข้าใจบ้างก็ยังดี ผมไม่ใช่คนโง่อะไรนัก พอทำความเข้าใจได้อยู่นะครับ แต่เดี๋ยว ท่านอาจารย์ตอบคำถามผมก่อน ว่าท่านคิดยังไงถึงได้มาบวช? เราก็มองเห็นว่า โลกนี้มันมีแต่ทุกข์นั่นแหละ เราถึงได้มาบวชเพื่อจะหาทางออกจากทุกข์ให้ได้ ถ้าเราไม่มีทุกข์อย่างคุณ เราก็คงไม่ได้มาบวช ก็คงทำเหมือนที่คุณทำอยู่ทุกวันนี้นี่แหละ ท่านมีทุกข์อะไรนักหนาหรือครับ? ถึงขนาดต้องได้ละฆราวาสมาบวชจนทุกวันนี้ เฮ้อ! เรารู้สึกว่า คุยกับคนพิสดารอย่างคุณนี่ โคตรลำบากใจ ใครมาหาเราก็มีแต่เอาเรื่องทุกข์มาเล่าให้ฟัง เพิ่งมีคุณนี่แหละ บ่นหาทุกข์ไม่เจอ ที่จริงผมก็เห็นว่า คนอื่นเขาก็มีทุกข์กันจริงๆนะครับ บางคนทุกข์เพราะไม่มีเงิน ทุกข์เพราะไม่มีอันจะกินจะใช้ บ้างก็ไม่มีที่อยู่ บางคนก็ทุกข์เพราะเจ็บไข้ไม่มีใครดูแลรักษา ทุกข์เพราะอุบัติเหตุเภทภัยต่างๆ ไม่ใช่ว่า ผมจะไม่เข้าใจเรื่องทุกข์ของคนอื่น แต่เผอิญผมโชคดีที่ไม่ได้ทุกข์เหมือนอย่างพวกเขาเหล่านั้น จะว่าไป ผมอาจมีบุญวาสนาสั่งสมมาดีก็ได้ ผมผิดหรือครับที่ผมไม่ทุกข์ เออ! ก็ไม่ผิดหรอกวะ เราถึงบอกอยู่นี่ไง ถ้ายังไม่มีทุกข์ มันก็อาจจะไม่สนใจที่จะกินยาแก้ทุกข์ รอให้มีทุกข์ซะก่อนนะ ค่อยมาว่ากัน เอาละ! ไปได้แล้ว เรามีงานต้องทำ โธ่! ท่านอาจารย์ ท่านบอกผมหน่อยสิครับ ท่านเจอทุกข์ยังไง ถึงขนาดต้องได้หนีมาบวช เฮ๊ย! เราไม่ได้หนีใครมาบวช เราสมัครใจมาบวชเองว๊อย! ปัดโธ่ วอนซะแล้ว ก็ได้ จะพูดให้ฟังนิดหน่อย ตอนเราเป็นฆราวาส เราก็ไม่ได้ทุกข์สักเท่าไรหรอก อาจจะเป็นเหมือนๆคุณนั่นแหละ เป็นแต่เราไม่ได้คิดอย่างคุณ แล้วท่านคิดยังไงหรือครับ? คิดยังไงน่ะหรือ? คุณคิดว่าคุณจะตายไหม? อ๋อ! ถ้าอยู่ไปนานๆก็ต้องตายนั่นแหละครับ คุณคิดว่า คุณจะอยู่ไปนานอย่างนั้นรึ? คุณแน่ใจไหมว่า พรุ่งนี้คุณจะไม่ตาย เออ! อ่า! อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจนักครับ แต่เชื่อว่า น่าจะยังไม่ตาย คนเราจะตายมันน่าจะมีลางบอกเหตุ อ้อ! ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่า คุณจะตายวันไหน? ใครจะบอกได้ว่าจะตายวันไหน ผมไม่ทราบ แต่ผมคิดว่า คงไม่ด่วนตายง่ายหรอกครับ คุณเคยคิดไหมว่า ทุกๆวันมีคนตาย และตายวันละหลายๆคน อ๋อ! แน่นอนสิครับ คนที่ถึงที่ตายก็ต้องตายเป็นธรรมดา ใช่! แล้วคนถึงที่ตายมันก็ต้องตาย เป็นแต่เพียงทุกคนที่ตายมันไม่เคยคิดว่า มันจะตายวันนี้เท่านั้น มันมัวแต่เพลินไปคิดว่า มันจะตายในอนาคตกาลข้างหน้าโน้น อันที่จริง มันไม่มีใครตายในอนาคต เพราะอนาคตมีไว้สำหรับคนเป็น คนตายแล้วไม่มีอนาคต วันพรุ่งนี้ไม่มีสำหรับคนตาย ไม่มีใครจะตายในวันพรุ่งนี้ เพราะพรุ่งนี้ มันเป็นเพียงความคาดคิดของคนเป็นๆเท่านั้น ในความเป็นจริงมันมีแต่วันนี้ค่อยๆผ่านไป และผ่านไป หมายความว่า ถ้าเรายังไม่ตาย วันนี้ก็ยังคงมีอยู่ ในธรรมท่านเรียกว่า ปัจจุบันค่อยๆผ่านไป วันนี้ค่อยผ่านไปเป็นอดีต วันพรุ่งนี้ก็เลื่อนมาเป็นปัจจุบันคือวันนี้แทน อดีตเป็นเพียงความทรงจำ อนาคตเป็นเพียงความคาดหมาย แต่ปัจจุบันคือความจริง ถ้าลมหายใจดับเมื่อไร อดีต ปัจจุบัน อนาคต ก็ดับตาม โลกนี้จึงไม่เคยมีใครไปตายอยู่ในอนาคต มีแต่ตายอยู่ในปัจจุบันทั้งนั้น เพราะฉะนั้น วันไหนจะเป็นวันตายของคุณ หากคุณจะตายก็ต้องตายในปัจจุบัน คือวันนี้นั่นเอง ไม่มีใครไปตายวันพรุ่งนี้ได้หรอก เดือนหน้าปีหน้ายิ่งไม่ต้องพูด ถ้าจะตายวันพรุ่งนี้ มันก็ต้องเลื่อนมาเป็นวันนี้เสียก่อน มันถึงจะตาย คือตายในปัจจุบัน ดังนั้น คุณอาจจะเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่จะต้องตายในวันนี้ก็ได้ ถ้าวันนี้คุณไม่ตาย ก็ถือว่าคุณโชคดี แต่ทุกวินาทีที่เคลื่อนไป คุณแน่ใจหรือว่าคุณจะโชคดีตลอด คุณจะต้องตายในวินาทีใดวินาทีหนึ่งที่กำลังเคลื่อนไปนี่แหละ คุณจะไม่ตายในวันนี้เป็นไม่มีทาง มีแต่คนโง่ ที่คิดว่า วันนี้จะไม่ตาย คุณต้องคิดใหม่ว่า ถ้าวันนี้เป็นวันตายของคุณ คุณจะทำอะไรที่คุณคิดว่า มันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวคุณมากที่สุด อ้าว! ถ้าทุกคนต่างก็คิดว่า จะต้องตายวันนี้ ก็ไม่ต้องวางแผนคิดอ่านทำการงานอะไรกันสิครับ นั่งรอความตายกันท่าเดียว มันจะถูกต้องหรือครับท่าน? คุณลองดูแล้วหรือ ว่าคุณสามารถนั่งรอความตายได้โดยไม่ต้องคิดอ่านทำอะไร มันคงไม่ง่ายขนาดนั้นมั๊ง ไม่เชื่อก็ลองดูได้นี่ ท่านไม่ได้สอนให้นั่งรอความตาย แต่ท่านสอนให้คุณคิดอ่านทำอะไรที่มันเป็นประโยชน์ต่อตัวเองมากที่สุด ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับปัญญาของคุณ ที่จะเห็นว่า อะไรเป็นประโยชน์สำหรับตัวคุณเอง คุณคงฉลาดพอที่จะรู้มิใช่หรือ? เมื่อกี้คุณพูดเอง เอาเถิด จะบอกให้ก็ได้ มันมีทางให้คุณเลือกอยู่สองทาง แล้วแต่คุณจะเลือกทางไหน หนึ่ง ตายในวันนี้ ตายด้วยความอดอยากหิวโหยแร้นแค้นแห้งผากจากคุณธรรม ไม่มีคุณงามความดีใดๆติดจิตติดใจไปเลย ทิ้งไว้แต่ทรัพย์สมบัติเงินทองข้าวของให้ผู้อยู่ข้างหลังแย่งชิงกัน สอง ตายในวันนี้ ตายอย่างมีคุณธรรม คือคุณงามความดีชุ่มฉ่ำเย็นอิ่มเอิบอยู่ภายในจิตใจ มีปีติเอิบอาบเบิกบานด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา รู้แจ้งในสภาวะธรรมตามความเป็นจริง ตามสมควรแก่ความปฏิบัติ สองทางนี้เท่านั้น ที่คุณจำเป็นต้องเลือกเอาทางหนึ่ง ไม่ใช่แต่เฉพาะคุณ สัตว์โลกทุกรายต้องเลือกด้วยกันทั้งหมด คุณอยากเลือกทางไหน ก็เลือกเอาเองตามอัธยาศัย พอใจหรือยัง? อย่ามัวมานั่งเสพสุขเพลินอยู่เลย คุณคิดว่า คนใกล้ตายมีความสุขนักหรือ? พวกเราล้วนเป็นคนใกล้ตาย คุณรู้ไหม? คุณรู้ไหม? คุณรู้ไหม? พวกเราล้วนเป็นคนใกล้ตาย ถ้าไม่รู้ก็ให้รู้ซะ... ไปได้แล้ว
|