
โลกนี้ก็มีแต่ "เกิด" กับ "ดับ"
จนบางครั้งทำให้คนเรารู้สึกสับสน และวุ่นวายใจ มันดูเหมือนว่า เรื่องที่คนเราต้องรับรู้นั้น ช่างมากมายเหลือเกิน เพียงแค่รูปทางตา เราก็นับอ่านไม่ได้แล้ว ว่า วันหนึ่งมีรูปอะไร เกิดดับผ่านตาเราไปแล้วบ้าง ยังไม่รวมเสียงทางหู กลิ่นทางจมูก รสทางลิ้น และสัมผัสทางกาย รวมทั้ง อารมณ์ที่เกิดขึ้นกับใจ สิ่งต่างๆเหล่านี้ ย่อมเกิดและดับไปอย่างรวดเร็วตลอดเวลา เป็นเหตุทำให้จิตของเรา ต้องว้าวุ่นขุ่นมัว เพราะเผชิญกับงานหนัก และอวัยวะทุกชิ้น มันก็ทำหน้าที่ของมันอย่างซื่อสัตย์ มันส่งรายงานให้จิตอย่างไม่ลำเอียง ไม่เลือกที่รักที่ชัง จนจิตของคนเราจึงต้องวิ่งวุ่นคอยรับรายงานอยู่ตลอดเวลา เดิ๋ยวไปรู้รูปทางตา เดี๋ยวไปรู้เสียงทางหู ไปรู้กลิ่นทางจมูก ไปรู้รสทางลิ้น ไปรู้สัมผัสทางกาย ไปรู้อารมณ์ที่ปรุงแต่งอยู่ในใจ จนบางครั้งจิตรู้สึกสับสนกับ เรื่องราวต่างๆที่ประดังเข้ามา จนเป็นเหตุทำให้จิตเหนื่อยล้า และทำอะไรไม่ถูก ตัดสินใจผิดๆพลาดๆ และเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องราวอันไม่คาดฝันตามมาอีกมากมาย โลกมันก็เป็นของมันเช่นนี้ เราไม่อาจไปบังคับสิ่งต่างๆในโลกให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการได้ ทุกสรรพสิ่งในโลก มันยังคงเกิดดับไปตามเหตุปัจจัยของมัน ไม่อยู่ในบังคับของใคร แต่เพราะความโง่เขลาของมนุษย์ จึงเกิดความลำเอียง ไม่ยอมรับรู้เรื่องราวต่างๆตามความเป็นจริงของมัน สิ่งใดชอบก็อยากได้ สิ่งใดไม่ชอบก็อยากให้มันผ่านพ้นไปไกลๆ จึงเป็นเหตุให้คนเราต้องไขว่คว้าหาสิ่งนั้น ที่ตนพอใจ และ ขับไล่ไสส่ง สิ่งโน้น ที่ตนไม่พอใจ ถ้ามนุษย์เราต่างเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นไฟสงครามจะต้องลุกโชติช่วงไปทุกหย่อมหญ้า เพราะความพอใจของคนหนึ่ง อาจเป็นความไม่พอใจของอีกคนหนึ่งก็ได้ เพราะฉะนั้น โลกนี้จึงเต็มไปด้วยการทะเลาะวิวาทกัน ส่งเสียงด่าทอกันอย่างหยาบคาย และสุดท้ายก็หนีไม่พ้น การต้องประหัตประหารกันให้ตายไปข้างหนึ่ง ถ้าคนเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า เพราะการที่ต้องเกี่ยวข้องกับเรื่องราวต่างๆอย่างมากมาย คุณจงอย่าไปบังคับสิ่งต่างๆให้มันไปจากคุณ เพราะคุณไม่มีทางบังคับมันได้ ตราบใดที่คุณยังอยู่ในโลกใบนี้ คุณต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆทั้งเรื่องดี เรื่องชั่ว ทั้งคนดี คนชั่ว อย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง วิธีที่ดีที่สุด คือ คุณต้องพาตัวเองออกไปจากสิ่งเหล่านั้น และสิ่งที่คุณควรรู้ก็ คือ เพียงคุณปิดตารูปต่างๆก็เป็นอันหายไปหมด แต่คุณต้องซื่อสัตย์ต่อตนเอง อย่าเปิดตา แอบดูเฉพาะรูปที่คุณอยากดู ปิดก็คือปิดหมด ไม่ดูอะไรเลย หูก็เช่นกัน เพียงคุณปิดหูเสียงต่างๆก็ไม่ได้ยิน เพียงคุณปิดจมูกกลิ่นต่างๆก็ไม่ปรากฏ เพียงคุณปิดลิ้นรสต่างๆก็เป็นเหมือนไม่มี เพียงคุณปิดกายเครื่องสัมผัสต่างๆก็เป็นอันหมดไป และที่สำคัญ ถ้าคุณปิดใจได้ ทุกเรื่องเป็นอันดับหมด ไม่ต้องไปรับรู้เรื่องราวใดๆอีกเลย ทุกสิ่งที่มีอยู่ในโลกก็ปรากฏต่อคุณ เหมือนไม่มี นี่คือ สิ่งที่คุณสามารถจะทำได้ และได้ผลดีต่อตนเองอย่างยิ่งด้วย แท้จริง โลกที่มีอยู่ในหลักธรรมชาติที่เป็นวัตถุนั้น ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนให้กับใครเลย แต่โลกที่จิตใจของคนเรารับรู้ต่างหาก ที่สร้างความทุกข์ยากลำบาก และสร้างความฟุ้งซ่านวุ่นวายให้กับจิตใจของคนเราอย่างมากที่สุด เพราะคนเราไม่ค่อยชอบที่จะมองโลกตามที่มันเป็นจริง แต่กลับมองโลกในแง่ดีบ้าง มองโลกในแง่ร้ายบ้าง หรืออยากให้โลกมันเป็นอย่างใจต้องการบ้าง เพราะเหตุนั้น คนเราจึงหนีไม่พ้นทุกข์ ทุกข์เพราะประสบกับสิ่งที่ไม่รักบ้าง ทุกข์เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่รักบ้าง ทุกข์เพราะปรารถนาแล้วไม่สมหวังบ้าง ดังนั้น ถ้าไม่อยากสร้างเรื่องทุกข์ขึ้นที่ใจ ก็จงฝึกหัดปิดจิตปิดใจของตนเองเสียบ้าง และจงเปิดใจรับรู้แต่เฉพาะเรื่องที่เป็นสาระ และมีประโยชน์ทั้งต่อตนเองและส่วนรวม ก็พอแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าจะให้ดี จงพยายามฝึกหัดวิธีสร้างความหายนะให้กับกิเลส ล้างผลาญ ราคะ โทสะ โมหะ ที่ฝังจมหมักหมมอยู่ภายในจิตใจของตนเองให้ได้มากที่สุด อย่ามัวแต่ไปโทษสิ่งนั้น สิ่งโน้น คนนั้น คนโน้น ว่า มาทำทุกข์ให้แก่เราเลย ไม่มีใครมาสร้างทุกข์ให้กับเราได้ ถ้าเราไม่สร้างทุกข์ให้กับตัวเอง |