ภาพนี้เห็นมีโพสต์อยู่ในเฟซบุคของใครบางคน ภาพเดิมเป็นภาพฝรั่งผู้ชายใส่ชุดแจ๊คเก็ตยีนส์ สวมรองเท้า สวมหมวก ใส่แว่น นั่งอยู่บนเศียรของพระพุทธรูป เราเห็นแล้วก็สลดสังเวชใจนัก แต่ก็ไม่โทษฝรั่งพวกที่ทำภาพนั้นหรอก เพราะเขาไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา และไม่เคยรู้จักว่า ภาพพระพุทธรูปนั้น มีความสำคัญเช่นไร ไม่รู้แม้กระทั่งพระพุทธเจ้าว่า เป็นพระมหาบุรุษสุดประเสริฐอย่างไร ดังนั้น หากเขากระทำไปโดยความไม่รู้ หรือ อาจจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือด้วยอารมณ์สนุก ตามประสาของคนที่มีดวงจิตมืดบอด ก็ต้องปล่อยตามเวรตามกรรมของเขา
ในธรรมท่านก็สอนให้ปฏิบัติต่อผู้ที่เขายังไม่เลื่อมใสศรัทธา โดยอนุโลมไปก่อน แล้วค่อยบอกสอนให้เขาเข้าใจภายหลัง ถ้าคิดว่าจะสามารถพอบอกพอสอนได้ เพื่อยังความเลื่อมใสศรัทธา ให้เกิดในหมู่ชนที่ยังไม่เลื่อมใสศรัทธาได้ นี่ จึงเป็นการเผยแผ่พระพุทธศาสนให้เจริญรุ่งเรือง
เรื่องพรรค์อย่างนี้ ก็มีปรากฏมาแล้วมากมาย ไม่ใช่เพิ่งปรากฏ แม้กระทั่งกับรูปปั้นพระพุทธรูป ก็เคยถูกพวกฝรั่งกระทำย่ำยีไปในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร จะด้วยเหตุผลอันใดก็แล้วแต่ สิ่งหนึ่งที่ชาวพุทธจะพึงกระทำได้ ก็คือ หากรู้ว่าใครเป็นผู้กระทำ ก็ชี้แจงแสดงบอกให้เขาเข้าใจ ถึงความสำคัญของพระพุทธรูปในความรู้สึกของชาวพุทธ และขอร้องว่า จงอย่าได้กระทำเช่นนั้นอีกเลย หากกระทำแล้ว ก็ขอให้เขาแก้ไข หรือ กระทำใหม่ให้ถูกต้องดีงามเสีย อย่าเอามาประจานกันอย่างนั้น มันทำลายความรู้สึกของชาวพุทธค่อนข้างรุนแรง
ภาพต้นฉบับจริงๆไม่รู้มันอยู่ที่ไหน และใครเป็นคนทำก็ไม่มีใครรู้ หรือจะรู้ ก็ควรแก้ไขที่ต้นเหตุ แต่การที่พวกเราชาวพุทธเอง ที่รู้อยู่เต็มหัวอก ว่าภาพนี้มันเป็นภาพอุจจาดบาดตา มันเป็นภาพที่ไม่บังควรจะมาตีแผ่ในที่สาธารณะ เท่ากับเอาภาพคนกระทำการไม่ดีกับพระพุทธรูปมาประจาน เหมือนประจานพ่อตัวเอง มันก็เท่ากับเป็นการตอกย้ำ การกระทำอุบาทว์นั้นให้มันแพร่กระจายเพิ่มมากขึ้น
เราเคยไปโพสต์บอกไว้ทีหนึ่งตอนที่เห็นครั้งแรก ว่า ภาพมันไม่สมควรจะนำมาเผยแพร่ ก็ให้ลบทิ้งไปเสีย จะเอามาโพสต์ มาแชร์กันไปทำไม เขาก็โพสต์ตอบว่า ภาพอย่างนี้ยิ่งต้องเอามาเผยแพร่เพื่อประกาศให้คนรู้ว่า มีการกระทำอย่างนี้อันไม่สมควร ต้องช่วยกันทำความเข้าใจ
เราอ่านแล้วก็สลดสังเวชใจหนักเข้าไปอีก ถ้าเข้าใจเช่นนั้น ก็ไม่ต้องอธิบายกันแล้ว โอ หนอ! ชาวพุทธทั้งหลายเอ๋ย การเผยแผ่ธรรมะแบบโง่ๆ เข้าใจธรรมะแบบผิดๆ นั่นแล คือการย่ำยีศาสนา และเป็นการทำลายศาสนาอยู่ในตัว มิหนำซ้ำ ยังจะสำคัญว่าเป็นบุญอันใหญ่หลวง และยังสำคัญว่า การกระทำเช่นนั้น เป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา ผู้มีปัญญาจงตรวจตรองดูเองเถิด
เราเห็นว่า ภาพนี้มันยิ่งกระจายไปมากขึ้น ก็ยิ่งทำให้คนเข้าใจการเผยแผ่ศาสนาอย่างผิดๆมากขึ้น ลองคิดดูว่า ภาพต้นฉบับมันอยู่ที่ใดไม่มีใครรู้ ถ้าไม่เอามาเผยแผ่ มันก็อุจจาดบาดตาอยู่ในทีเดิมของมัน แต่พอมาโพสต์ในเฟซบุค คนก็เห็นกันมากมาย คราวนี้ภาพอุบาทว์นี้ก็กระจายไปทั่ว มันก็เหมือนเอาพระพุทธรูปมาประจาน ประจานไปทั่วโลก แล้วชาวพุทธต่างก็เข้ามาด่า พวกฝรั่งว่า ทำบ้าๆบอๆ แล้วก็พากันเอาภาพนี้แชร์เผยแผ่ออกไปอีก ทั้งๆที่ด่าเขาอยู่นั่นแหละ มันได้ประโยชน์อะไรจาก การด่าเขาโดยที่เขาไม่ได้ยิน
มันก็เหมือนกับนิทานของคนปัญญาอ่อนเรื่องหนึ่ง ที่ไปเห็นเศษกระดาษมันตกอยู่บนถนน ก็เลยเกิดความคิดที่สำคัญว่าดีเยี่ยม ว่า ควรจะบอกให้คนรู้ว่า การทิ้งเศษกระดาษอยู่บนถนนมันไม่ดี อย่าไปทำเลย คิดเห็นดังนั้นแล้ว ก็พิมพ์ใบปลิวไปแจกคน เพื่อสอนให้เขารู้ว่า ไม่ควรทิ้งเศษกระดาษบนถนน พอวันต่อมา บนถนนก็เต็มไปด้วยใบปลิว ของชายปัญญาอ่อนคนนั้นเกลื่อนกลาดเต็มไปหมด
มันก็เข้ากันได้กับเรื่องนี้ ที่กำลังเผยแผ่อยู่ในเฟซบุคเวลานี้ ถ้าท่านคิดว่า ภาพนี้มันอุจจาดบาดตา จำเป็นไหม? ที่ท่านต้องเอามาประจาน ไอ้ฝรั่งพวกที่ทำมันอาจไปนรกขุมไหนแล้วก็ไม่รู้ เวลานี้พวกเราที่อ้างว่าเป็นชาวพุทธนี่แหละ กำลังย่ำยีพระพุทธศาสนาเสียเอง ก็รู้ว่าไม่ดี ยังจะเอามาประจานอยู่ทำไม ชาวพุทธไม่ใช่สุนัข หรือ โค กระบือ มีใครเห็นภาพนี้แล้ว ไม่รู้บ้างว่า มันไม่ดี ก็รู้อยู่แล้วทั้งนั้น ไม่ต้องเอาภาพอุบาทว์นี้มาเผยแผ่ให้มันสะเทือนความรู้สึกแก่ชาวพุทธอื่นๆก็ได้
ดังนั้น ถ้ารักพระพุทธศาสนาจริง เห็นภาพนี้ปรากฏที่ใด ให้ช่วยกันทำลายเสียให้สิ้นซาก มันไม่ใช่ของดีที่ควรนำมาเผยแผ่ เอาแต่ของดีที่ไม่มีโทษมาเผยแผ่จะดีกว่าไหม? ของไม่ดีก็ปล่อยให้มันอยู่ตามสภาพเดิมของมัน อุปมา เหมือนเราเดินไปเห็นขี้สุนัขอยู่ริมถนน ควรหรือ? ที่จะเอามือไปหยิบมาดม แล้วก็บ่นว่าเหม็น จากนั้น ก็พยายามจะเอาขี้สุนัขนั้น ไปให้คนอื่นดม เพื่อให้เขารู้ว่า ก้อนขี้นี้มันเหม็น ใครจะว่าการกระทำเช่นนี้เป็นความฉลาดบ้างล่ะ ก็รู้ว่ามันเหม็นแล้ว มันได้อะไร??? ไม่ต้องรู้ดีกว่าไหม??? หรือหากต้องการจะรู้ ก็หาวิธีการที่ฉลาดกว่านั้นหน่อยได้ไหม?
ถ้าอยากแก้ไขเรื่องนี้ ก็ทำให้มันถูกเหตุ สืบหาต้นตอของผู้ที่กระทำ แล้วทำหนังสือไปชี้แจงถึงความสำคัญของพระพุทธรูปให้เขาเข้าใจ ไม่ใช่ไปช่วยกันเอาผลงานของเขามาเผยแผ่ ทั้งที่พากันด่าว่า มันช่างเลวระยำ!! ด่าตัวเองดีกว่าไหม? นี่แหละ!! ชาวพุทธเอ๋ย ใครกันแน่ที่ย่ำยีศาสนา ใครกันแน่ที่ทำลายศาสนาเสียเอง พระพุทธเจ้าสอนว่า "นิสัมมะ กะระณัง เสยโย" ใคร่ครวญเสียก่อนค่อยทำดีกว่า จงจำไว้ให้มั่น ทำแล้วมันได้ประโยชน์อะไร รู้แล้วมันได้ประโยชน์อะไร ไม่รู้จะดีกว่าไหม? มันแก้ต้นตอของปัญหาได้ไหม?
พระบรมศาสดาทรงตรัสว่า "ไม่มีใครทำร้ายพระพุทธศาสนาได้ นอกจากพุทธบริษัท 4 นี่แหละ เป็นตัวทำลายศาสนาเสียเอง" ดังนั้น การเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างโง่ๆนีแหละ ด้วยการสอนธรรมะผิด ด้วยการปฏิบัติผิด นี่ คือ การทำลายศาสนาอย่างได้ผลยอดเยี่ยมที่สุด ขอให้ชาวพุทธพึงระวังให้มาก
บทความนี้มิได้เจตนาจะให้กระทบกระเทือนท่านผู้ใด เพียงต้องการให้เข้าใจ ความปฏิบัติอันควรต่อพระพุทธศาสนาเท่านั้น ท่านมีสิทธิ์ไม่เห็นด้วย แต่ขอให้คำนึงถึงประโยชน์แห่งพระพุทธศาสนาเป็นที่ตั้ง อย่าเอาความเห็นของตัวเองเป็นใหญ่
|