ReadyPlanet.com


ปัญหาธรรม


 ปัจจุบันดิฉันใช้วิธีดูจิต เคยเห็นจิตเคลื่อนตัว เปลี่ยนแปลง ครั้งล่าสุด ปวดหัวมาก เลยดูตรงที่ปวด พบว่า ปวดหนักขึ้น จนแทบไม่ไหว เลยไม่ดูที่ปวด เอาแค่มองเฉย ๆ พบว่า มีแสงสว่างวงกลมสีเหลืองนวล ลอยอยู่ แต่เป็นแค่แวบเดียว สักพัก รู้สึกว่าตรงกลางตัวเราเย็นดี น่าจะเอาจิตไปอยู่ตรงนั้นจะดีกว่า พอมองไป ก็รู้สึกว่าปวดหัวน้อยลง ประกอบกับได้นั่งหลับ ทำให้ความปวดคลายตัวลง และหายไปได้ อยากเรียนถามว่า ทำอย่างไร จิตจึงจะเห็นการเกิดดับของจิต เพื่อหยั่งรู้สภาวะธรรมขั้นสูง



ผู้ตั้งกระทู้ ผู้น้อย :: วันที่ลงประกาศ 2019-08-13 14:08:54


[1]

ความคิดเห็นที่ 1 (4183518)

การที่จะเห็นการเกิดดับของจิตได้ มันต้องระดับมหาสติมหาปัญญา ถ้าเรายังไม่มีสติปัญญาขนาดนั้นก็อย่าเพิ่งไปอยากอย่างนั้น ก็เอาแค่ให้เห็นความคิดความปรุงของจิตมันเกิดดับเสียก่อน วันหนึ่ง ๆ มันมีความคิดอะไรเกิดดับบ้าง คิดดีกี่ครั้ง คิดไม่ดีกี่ครั้ง คิดพุทโธสอดแทรกเข้าไปได้กี่ครั้ง เห็นแค่นี้เสียก่อน ถ้าเห็นได้ ก็พยายามทำลายความคิดไม่ดีเสียให้หมดสิ้นไป แล้วส่งเสริมความคิดดีให้มาก ๆ คิดพุทโธให้ได้มาก ๆ มันจะเป็นเหตุให้จิตเกิดความสงบ และ มีสติปัญญา แก่กล้ามากยิ่งขึ้น เห็นความเกิดดับของความคิดได้มากขึ้น

ถ้าอยากรู้ธรรมชั้นสูง ก็จงรักษาศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ อย่าล่วงเกินศีลโดยเจตนา แล้วทำใจให้สงบอยู่กับคำบริกรรมพุทโธ จนกว่าจิตจะสงบจากความคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ แล้วใช้สติบังคับจิตพิจารณาร่างกายให้เห็นตามความเป็นจริงของเขา ทำให้จิตเกิดปัญญาเห็นชอบ ว่า กายนี้ก็เป็นเพียงสักแต่ว่าธาตุสี่ ดิน น้ำ ไฟ ลม มาประชุมรวมกันเข้า ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ล้วนเป็นอนิจจัง เป็นของไม่เที่ยง ไม่จีรังยั่งยืนอยู่เสมอ เป็นทุกขังมีความเสื่อมสิ้นพิบัติแปรปรวนไปเป็นธรรมดา เป็นอนัตตา ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของผู้ใด ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา

เมื่อพิจารณาร่างกายน้อมลงสู่ไตรลักษณ์โดยความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อยู่โดยสม่ำเสมอ ก็จะเป็นเหตุให้ได้ปัญญาความรู้จริงเห็นจริง เมื่อปัญญาความรู้จริงเห็นจริงเกิดขึ้นแล้ว ก็จะละวางอุปาทานความยึดมั่นถือมั่นเสียได้ เมื่ออุปาทานไม่มีแล้ว จิตก็จะหลุดพ้นจากอาสวกิเลส เป็นอันได้บรรลุถึงธรรมวิเศษ คือ พระนิพพาน ซึ่งเป็นธรรมชาติ ดับเพลิงกิเลสและกองทุกข์ อันเป็นผลที่สุดแห่งพรหมจรรย์ในพระพุทธศาสนา

ดังนั้น ถ้าอยากบรรลุคุณธรรมชั้นสูง ก็จงตั้งใจภาวนาทำ ศีล สมาธิ ปัญญาให้เต็มเปี่ยมที่ใจ แล้วการบรรลุธรรม มันหากเป็นไปเอง ไม่ต้องไปเรียกร้องถามหาพระนิพพานว่าอยู่ที่ไหน ก็จะได้รู้เองเห็นเอง เพราะธรรมเป็นสันทิฏฐิโก ที่ผู้ปฏิบัติจะพีงรู้เองเห็นเองอยู่แล้ว จงทำความเพียรให้มาก ๆ อย่าเอาแต่อยากไปนิพพาน แล้วนอนหลับกรนคร่อก ๆ ๆ ๆ อยู่ทุกวันทุกคืน

 

 

ผู้แสดงความคิดเห็น พระวิทยา วันที่ตอบ 2019-08-13 17:37:07



[1]


แสดงความคิดเห็น
ความคิดเห็น *
ผู้แสดงความคิดเห็น  *
อีเมล *
ไม่ต้องการให้แสดงอีเมล